จากกรณีที่ผู้เสียหายชาว อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับใบสั่งความเร็วของตำรวจทางหลวง แต่เจ้าตัวยืนยันว่าไม่เคยเดินทางไปจุดที่เกิดเหตุ รถยนต์ที่ถูกออกใบสั่งสีเหมือนกัน แต่แผ่นป้ายทะเบียนไม่เหมือนกันเชื่อว่ารถน่าจะถูก “สวมทะเบียน” ขอให้ตำรวจทางหลวง ช่วยตรวจสอบกลัวว่ารถที่สวมทะเบียนจะถูกคนร้ายนำไปใช้กระทำผิดกฎหมาย ผู้เสียหายจะโดนหางเลขถูกดำเนินคดีไปด้วยก่อนร้องตำรวจทางหลวงไม่ได้มีใบสั่งแค่ใบเดียว ยังมีใบสั่งตำรวจตามมาอีกหลายใบในหลายท้องที่สร้างความวิตกเจ้าของรถตัวจริงพล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. สั่งให้ตำรวจทางหลวงทุกแห่งสืบสวนติดตาม ต่อมา พ.ต.ท.วิษณุ คำโนนม่วง ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. (นครราชสีมา) สืบทราบว่ารถคันนี้เข้ามาในพื้นที่ จ.นครราชสีมาให้ ร.ต.อ.มนตรี ศรีวัฒนกุล รอง สว.ส.ทล.1 กก.6 บก.ทล. ด.ต.เวช บุญเทียน ด.ต.จักรพันธ์ โพธิชัยภูมิ นำรถตำรวจทางหลวงออกสกัด จับผู้ใช้รถคันที่ “สวมทะเบียน” ของผู้เสียหายที่ถูกใบสั่งความเร็วสามารถติดตามจับกุมได้ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ริมลำตะคอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมของกลางรถยนต์ส่วนบุคคลยี่ห้อมาสด้า สีแดง ป้ายทะเบียน 9 กภ 8545 กรุงเทพมหานคร แผ่นป้ายทะเบียนรถ และแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีปลอม นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหาปลอมและใช้เอกสารราชการปลอมน่าแปลกใจที่ยังมีขบวนการ “สวมทะเบียน” รถทำได้แนบเนียน รูปพรรณรถ สี เหมือนรถของจริงทุกประการ เพียงแต่แตกต่างกันที่แผ่นป้ายทะเบียน หากตำรวจไม่สังเกตเห็นรถขับบนท้องถนน คงไม่ได้เอะใจอะไร สอบถามผู้ต้องหารับว่าเป็นรถที่รับจำนำมาในราคา 280,000 บาทตำรวจทางหลวง ฝากไปยังพี่น้องประชาชน หากได้รับใบสั่งที่ถูกสวมทะเบียนให้แจ้งไปยังตำรวจต้นทางที่ออกใบสั่ง เพื่อสืบสวนติดตามจับกุมการจับกุมรถ “สวมทะเบียน” ของตำรวจทางหลวงทำมาต่อเนื่อง มีผลงานจับกุมในรอบเดือน ม.ค.-ก.พ.2564 กว่า 10 คัน เป็นนโยบายของ พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล, พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ, พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.พิชญ์รุจ กุลวิมลประทีป ผกก.6 บก.ทล. เพื่อให้ขบวนการรถสวมทะเบียนหมดไปจากถนนหลวง คดีแบบนี้จับไม่ได้ง่ายๆ เป็นความใส่ใจของตำรวจทางหลวงติดตามจับกุมให้เจ้าของรถที่แท้จริงจะได้สบายใจ ไม่ต้องมากังวลใจคนร้าย “สวมทะเบียน” นำรถไปใช้กระทำความผิดอื่นอีก.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th