เรื่องรถหรูราคาคันละหลายสิบล้าน ของเล่นของคนรวยดังขึ้นมาอีกครั้ง...หลังกองปราบปรามเปิดแถลงข่าวใหญ่ ตรวจยึดรถสปอร์ตลัมโบร์กินี 2 คัน รถสปอร์ตเฟอร์รารี่ 1 คัน รถเบนท์ลีย์ 2 คัน รถฮัมเมอร์ 1 คัน รถโตโยต้า เวลไฟร์ 3 คัน และรถยนต์โตโยต้า เอสติม่า อีก 1 คัน มูลค่ากว่า 200 ล้านบาทรถหรูของกลางทั้งหมดต้องสงสัยว่าเป็นรถผิดกฎหมาย 4 ประเภท 1.รถสวมซาก หรือซื้อซากรถที่ประสบอุบัติเหตุรุนแรง ไปตัดต่อเลขเครื่องเลขตัวถัง ไปสวมรถรุ่นเดียวกันหรือรุ่นใกล้เคียงที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย2.นำรถเก่าที่ได้มาจากการประมูลของกรมศุลกากรมาดัดแปลง สวมรถยี่ห้อเดียวกันแต่รุ่นใหม่กว่า เพื่อเพิ่มมูลค่าราคารถ3.รถปลอมแปลงเอกสารการนำเข้าของกรมศุลกากรและ 4.รถทำทะเบียนและเอกสารปลอม ไปสวมรถยี่ห้อ รุ่นและสีเดียวกัน หรือที่เรียกว่า รถแฝด ทำชาวบ้านเดือดร้อนโวยวายกันมานักต่อนักทั้งหมดเป็นวิธีการของแก๊งสวมทะเบียนรถหรูไม่เสียภาษีตามกฎหมาย เอามาขายราคาถูกแต่คนที่มีขับไม่ใช่ไก่กานะครับ ส่วนใหญ่มีฐานะ มีหน้า มีตา หรือมีอิทธิพลในสังคมทั้งนั้น!กองปราบปรามเลยต้องทำสำนวนคดีนี้ละเอียดหน่อย พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. เผยว่า ต้องเรียกผู้ครอบครองรถทั้ง 10 คันมาสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริงก่อน ถึงแจ้งข้อหาดำเนินคดีได้เบื้องหลังคดีนี้ ผู้ครอบครองหลายคนมีชื่อเสียงในสังคม มีทั้งนักร้องดัง และผู้มีอิทธิพล ที่ซัดทอดไปยังขบวนการค้ารถเถื่อนแถวนครปฐมถ้าให้ดีหลังตรวจสอบ “ผู้การก้อง” ช่วยไปตามลากคอขบวนการนี้มาดำเนินคดีให้เป็นรูปธรรมหน่อยไม่ใช่พอนานไป เรื่องเงียบหายเข้ากลีบเมฆ!?เหมือนอย่างคดีรถหรูที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตีปี๊บเป็นข่าวใหญ่มาหลายรอบแล้วจนป่านนี้ผ่านไปเป็นปี เงียบเป็นเป่าสาก!ไม่มีระยะเวลาการสอบสวนมาเป็นกรอบ มันก็ดีอย่างนี้เนอะทำไป หยุดไป ไม่รู้จับชาตินี้ ฟ้องชาติหน้าหรือเปล่า?"สหบาท"