“พระเทพฯ” ทรงแนะแม่พิมพ์ปรับปรุงตัวเสมอ ครูติมอร์ปลื้ม “แก้มลิง”เมื่อวันที่ 11 ต.ค. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเป็นประธานพิธีพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2 ปี 2560 ให้แก่ครูผู้มีคุณสมบัติเป็นครูผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ชีวิตของลูกศิษย์และมีคุณูปการต่อวงการศึกษาที่ได้รับการคัดเลือก 11 ราย จาก 11 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และติมอร์-เลสเต ดำเนินการโดยมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.)สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชดำรัสเปิดงานว่า ขอแสดงความยินดีกับครูผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ทั้ง 11 คน จาก 11 ประเทศ ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ครูทั้ง 11 ท่าน เป็นครูที่มีความมุ่งมั่นและทุ่มเทอุทิศตัวให้กับลูกศิษย์ เพื่อให้มีโอกาสทางการศึกษาและเป็นแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตและการศึกษาที่สูงขึ้น ข้าพเจ้าอยากจะชี้ให้เห็นจุดสำคัญที่ว่า การศึกษามีความหมายต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศ การศึกษาเป็นกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ครูจึงจำเป็นต้องปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอและแสวงหาความรู้ใหม่ๆ เพราะปัจจุบันเราอยู่ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากครูไม่ได้ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆตัว ครูก็ไม่สามารถติดตามการพัฒนาของนักเรียนได้นางลีโอโปลดีนา โจนา กูเตเรส สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต ผอ.โรงเรียนศูนย์กลางประถมศึกษาเซนโฮเซ 1 ในผู้ได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ปี 2560 กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้รางวัล ทั้งขอบคุณที่ให้โอกาส เพราะโรงเรียนของตนห่างไกลความเจริญ แต่ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สำหรับตนเป็นทั้งครูและผู้บริหาร โดยรับผิดชอบดูแลโรงเรียน 7 แห่ง มีนักเรียน 1,100 คน ครู 58 คน โรงเรียนที่ไกลที่สุดต้องเดินเท้าไปที่โรงเรียน ซึ่งไปกลับ 12 ชั่วโมง อาชีพครูที่ติมอร์ฯ ได้รับเงินเดือนน้อย ประมาณ 160 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 6,000 บาทต่อเดือน ซึ่งแม้เงินเดือนจะน้อย แต่ก็เป็นวิชาชีพที่เด็กรุ่นใหม่สนใจ ดังนั้น ผู้ที่จะมาเป็นครูได้ต้องรักในวิชาชีพครู หากคิดจะร่ำรวย หรือคิดเรื่องเงินก็ไม่สามารถมาเป็นครูได้“ในโอกาสที่เดินทางมารับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้าครั้งนี้ ได้ไปเยี่ยมชมพระเมรุมาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และได้เห็นโครงการแก้มลิง ทำให้เกิดความแนวคิดไปปรับใช้กับบ้านเกิด เนื่องจากอาศัยอยู่บนภูเขา” นางลีโอโปลดีนากล่าว.