ต้นแบบของการดูแลรักษาสุขภาพ คุณวัลลีย์ ปราสาททองโอสถ ผู้บุกเบิกโครงการ “สุโขทัยโมเดล” ที่ใช้พื้นที่รอบสนามบินสุโขทัยให้เกิดประโยชน์ ด้วยการทำเกษตรอินทรีย์ที่คำนึงถึงความสมดุลของคนและธรรมชาติ เริ่มจากนาข้าวเพียง 3 ไร่ ในปี 2542 ขยายจนถึงกว่า 400 ไร่ โดยร่วมมือกับชาวบ้านและนักวิชาการ ทดลองและพัฒนาพันธุ์ข้าวจนได้ข้าวสายพันธุ์ “สุโขทัย 1, 2 และ 6” ซึ่งมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่อยอดอย่างน้ำใบข้าวที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเกือบเทียบเท่าชาเขียว โดยใช้แนวคิด “ความยั่งยืน” ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ผลผลิตทั้งหมดเป็นอินทรีย์แท้ ปลอดสารพิษ ผ่านกระบวนการผลิตครบวงจรตั้งแต่ปลูก สี จนถึงบรรจุ และยังสร้างรายได้ให้ชุมชนโดยเปิดพื้นที่ให้คนมาเยี่ยมชมการทำเกษตรจริง คุณวัลลีย์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 92 ปี ยังแข็งแรงเพราะยึดหลักโภชนาการที่เรียนมา กินอาหารครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และฝึกชี่กงกับสมาธิอย่างต่อเนื่อง เมื่อไม่นานมานี้ คุณวัลลีย์ ได้ร่วมกับ เชฟปู-ปูริดา ธีระพงษ์ Executive Chef จาก Mövenpick BDMS Wellness Resort ได้ต่อยอดผลผลิตเกษตรอินทรีย์มาสู่อาหารสุขภาพ โดยใช้แนวคิด Zero Waste Cooking คือการใช้วัตถุดิบทุกส่วนอย่างคุ้มค่า ไม่ให้เหลือทิ้ง และเลือกใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลเพื่อสนับสนุนเกษตรกร โดยได้ร่วมกันแนะนำเมนู “หลนข้าวหมาก” จากข้าวกล้องสุโขทัย 1 และ 2 ซึ่งเป็นเมนูต่อยอดภูมิปัญญาไทยให้กลายเป็นอาหารสุขภาพที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงและดีต่อระบบลำไส้ สำหรับวิธีการทำหลนข้าวหมาก มีเครื่องปรุงประกอบด้วย ข้าวหมาก กะทิ เต้าหู้ เห็ดซอย พริกชี้ฟ้า หัวหอมซอย ผักจิ้มตามชอบ วิธีการทำ นำข้าวหมากมาปรุงใส่หม้อพร้อมด้วยกะทิ จากนั้นใส่เต้าหู้ และเห็ดซอยเพื่อเพิ่มโปรตีน จากนั้นใส่หอมแดงซอย รสชาติหลนต้องมีความเปรี้ยวหวาน แต่หลนนี้ทำด้วยข้าวหมากมีรสชาติอยู่แล้ว หากไม่ต้องการปรุงเพิ่มก็สามารถทำได้ หรือจะปรุงเพิ่มด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลานิดหน่อย แล้วเพิ่มความเผ็ดนิดหน่อยเวลารับประทานกับผักหรือข้าวด้วยพริกก็จะเข้ากันพอดี... เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยจนน่าลองทำเลยทีเดียว. อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม