ผ่านพ้นไปแล้วอย่างสวยงาม สำหรับงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 หรือเรียกสั้นๆว่างานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2025 ซึ่งจัดโดยบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเจ้าพ่อสื่อสายยานยนต์ของบ้านเราแม้ว่าปีนี้เศรษฐกิจของประเทศจะไม่สดใส กำลังซื้อค่อนข้างจะจำกัด ทั้งยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง และสถาบันการเงินได้คุมเข้มการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อรถยนต์ ที่สำคัญในช่วงระหว่างการจัดงาน ยังมีปัญหาแผ่นดินไหวรุนแรงที่เมียนมา ซึ่งส่งผลมายังประเทศไทย รวมทั้งกรุงเทพฯ ที่อาคารสูงหลายแห่งมีปัญหาแตกร้าวแต่งานบางกอกมอเตอร์โชว์ปีนี้ก็ยังคงได้รับความสนใจจากประชาชนชาวไทยกันอย่างมาก โดยมียอดผู้เข้าชมงานในปีนี้อยู่ที่ 1,601,011 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาขณะที่ยอดจับจองรถยนต์ในงานทะลักถึง 77,379 คัน“จาตุรนต์ โกมลมิศร์” กรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท กรังด์ปรีซ์ฯ ในฐานะรองประธานจัดงาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ แถลงว่า งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 นับเป็นอีกครั้งของการจัดงานที่ประสบความสำเร็จในทุกด้าน ทั้งจำนวนบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และผู้ประกอบการธุรกิจยานยนต์ที่เข้าร่วมงานซึ่งมีเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างคึกคักและได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมากด้านของยอดจองรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่เกิดขึ้นภายในงาน มียอดรวมทั้งสิ้น 79,941 คัน แบ่งออกเป็นรถยนต์ 77,379 คัน และรถจักรยานยนต์ 2,562 คันพบว่าสัดส่วนยอดจองรถภายในงาน แบ่งออกเป็นรถในกลุ่ม xEV (ได้แก่ รถยนต์ไฮบริด, รถปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า) มียอดจองอยู่มากกว่า 65% โดยเฉพาะประเภทเอสยูวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่วนรถเครื่องยนต์สันดาปมีสัดส่วนอยู่ที่ 35%จากการรวบรวมตัวเลขยอดจองรถยนต์ภายในงาน 5 อันดับแรก ประกอบด้วย 1.BYD มียอดจองรวม 9,819 คัน, 2.TOYOTA 9,615 คัน, 3.GAC 7,018 คัน, 4.DEEPAL 6,067 คัน และ 5.HONDA 5,948 คันส่วนตัวเลขยอดจองของรถจักรยานยนต์ 5 อันดับแรกได้แก่ YAMAHA มียอดจองรวม 1,286 คัน, SUZUKI 224 คัน, ROYAL ENFIELD 224 คัน, HARLEY-DAVIDSON 215 คัน, TRIUMPH 170 คัน และ BMW MOTORRAD 165 คัน โดยทางบริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด ไม่ประสงค์จะแจ้งยอดจองภายในงานครั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจองรถยนต์ในงานปีนี้ มีอัตราการเติบโตเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาถึง 44.8% เป็นเพราะมีผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่เปิดตัวภายในงาน การแข่งขันทางด้านแคมเปญโปรโมชัน การยกระดับความเชื่อมั่นของแบรนด์รถยนต์หลายค่ายในการขยายการรับประกันคุณภาพสินค้า รวมถึงนโยบายการสนับสนุนของภาครัฐอย่าง “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”ล้วนเป็นส่วนสำคัญให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นและกล้าตัดสินใจในการซื้อรถยนต์มากยิ่งขึ้นกว่าในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา!!!อัลคาโปนคลิกอ่านคอลัมน์ “มอเตอร์วอร์ส” เพิ่มเติม
