ในปี 2526 เครื่องมือ Infrared Astronomical Satellite (IRAS) ขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา ได้ค้นพบโครงสร้างวงแหวนที่ล้อมรอบดาวฤกษ์โฟมัลฮอต (Fomalhaut) ซึ่งเป็นดาวฤกษ์สว่างที่สุดในกลุ่มดาวปลาใต้ (Piscis Austrinus) อยู่ห่างจากเราออกไป 25 ปีแสง ตั้งแต่นั้นมา นักดาราศาสตร์ได้เฝ้าศึกษาระบบวงแหวนนี้โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินและอวกาศ ไม่ว่าจะเป็นกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลและกล้องสปิตเซอร์ รวมถึงหอดูดาวเมานาเคอาในฮาวาย ทว่าเครื่องมือเหล่านี้ก็ทำให้ได้ภาพที่คมชัดเพียงแค่วงแหวนรอบนอกสุดเท่านั้น การจะศึกษาวงแหวนด้านในสุดนั้นก็ทำได้ยากแต่การมาถึงของกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ก็ทลายข้อจำกัดเดิมออกไป ล่าสุดความสามารถในการมองเห็นในย่านแสงอินฟราเรด ก็ทำให้กล้องเวบบ์เปิดเผยโครงสร้างรายละเอียดที่ไม่เคยมีมาก่อนเป็นครั้งแรกของแถบวงแหวนด้านใน 2 เส้นของดาวฤกษ์โฟมัลฮอตได้ นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอริโซนาในสหรัฐฯ ระบุว่า โครงสร้างวงแหวนที่เต็มไปด้วยฝุ่นเหล่านี้มีความซับซ้อนมากกว่าแถบดาวเคราะห์น้อยหลักของระบบสุริยะของเรา นั่นก็คือแถบที่อยู่ระหว่างดาวพฤหัสบดีกับดาวอังคาร และแถบไคเปอร์ ซึ่งเป็นหินและฝุ่นที่พบเลยออกไปจากดาวเนปจูนแถบฝุ่นทั้ง 3 วงนี้อยู่ห่างจากตัวดาวฤกษ์โฟมัลฮอต 23,000 ล้านกิโลเมตร ในขณะเดียวกัน แถบวงชั้นนอกสุดจะมีขนาดเป็น 2 เท่าของแถบไคเปอร์ของระบบสุริยะของเรา นักดาราศาสตร์คิดว่าแถบเหล่านี้เกิดจากเศษซากของการชนกันของวัตถุขนาดใหญ่ เช่น ดาวเคราะห์น้อยและดาวหาง.