ทั้งบทบาทในละครและบทบาทเมนเทอร์สุดเฟียซ แต่ชีวิตจริงสาวเก่งสุดเซ็กซี่ คริส หอวัง กลับยอมรับว่าไม่ได้เป็นคนมั่นใจในตัวเองขนาดนั้น! และก็ไม่ใช่สาวมั่น ไม่ง้อผู้ชาย แต่เป็นผู้หญิงที่อยากเจอความรักดีๆในชีวิต และยังเชื่อในพรหม ลิขิต! งานนี้ คริส มาแชร์มุมมองความรัก ณ วันนี้ ในรายการ “วันบันเทิง Talk” ทางช่องยูทูบวันบันเทิงเริ่มจาก มุมมองความรักเปลี่ยนไปแค่ไหน?“10 ปีที่แล้วเราก็เหมือนทุกคนค่ะ อยากแต่งงาน อยากมีลูก เห็นภาพจูงลูกไปเรียนบัลเล่ต์ แต่พอมันไม่เกิดขึ้น ผ่านเวลามา ณ วันนี้ บางทีคริสก็รู้สึกโชคดีกว่าเพื่อนคริสที่มีปัญหาครอบครัวเยอะแยะไปหมด แต่ก็อาจจะเป็นข้ออ้างของตัวเองนะ เพราะคริสก็ไม่มีความสุขเท่ากับคนที่เขามีความสุข เวลาเล่นกับลูกเค้า”เวลาเห็นเพื่อนเล่นกับลูกรู้สึกอะไรมั้ย?“ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้สึกว่าหลานน่ารัก จบ (หัวเราะ) ถามว่าอยากมีลูกมั้ย ก็เคยคิดอยากมีค่ะ แต่พออายุเท่านี้แล้ว เคยได้ยินผู้หญิงบางคนพูดว่า ชั้นอยากมีลูกแต่ผู้ชายไม่ต้องก็ได้ แต่คริสคือ ไม่อยากมีลูกแต่เอาคู่ชีวิตมา (หัวเราะ) อยากมีคนมาผจญภัยด้วย ตอนนี้คริสอิสระเสรี แฮปปี้มาก จะไปไหนก็ไป จะทำอะไรก็ทำ”สถานะคือ?“อยู่ไปเรื่อยๆค่ะ แฮปปี้ พอคริสไม่ได้กังวลว่าจะต้องมีลูกตามช่วงวัย ไม่ได้คิดว่าจะต้องมีลูกแล้ว การจัดอีเวนต์งานแต่งงานมันก็เป็นเพียงแค่เรื่องรอง กลายเป็นว่าใครที่มาเติมเต็มแล้วทำให้เรามีความสุข เค้าทำให้เรามีความสุขในทุกๆวันที่อยู่ด้วยกัน อันนี้เท่ากับผจญภัยเวลาที่มีอยู่ไปด้วยกัน วันนึงเราไม่แฮปปี้ เค้าไม่แฮปปี้ มันค่อยๆแยกจากกันโดยไม่ทะเลาะกันมันยิ่งจะดีรึเปล่า หรือเราแต่งงานไปแล้วทุกคนต้องมาเป็นสักขีพยานแล้ววันนึงถ้าเราต้องหย่าแล้วที่จัดงานไปล่ะ เราไม่มีวันรู้หรอกว่าความรู้สึกใครจะเปลี่ยนไปตอนไหน แต่ถ้าเรารู้สึกดีวันนี้ตอนนี้ เราก็ทำเป็นบวกให้แก่กัน คริสว่าก็ไม่มีเหตุผลที่จะอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าวันไหนเริ่ม Toxic แล้วก็ไม่มีเหตุผลต้องอยู่ด้วยกันเหมือนกัน เพราะชีวิตเป็นของเรานะ”เราเชื่อในพรหมลิขิตมั้ย?“คริสว่าพรหมลิขิตมีจริง พรหม ลิขิตและการจัดสรรด้วย ทุกคนมีช่วงเวลาและจังหวะของตัวเอง สมมติว่าต้องเจอคนนี้ ต้องเจอสิ่งนี้ ต้องผูกพันกับเค้าอยู่ในช่วงระยะเวลานี้ ชีวิตก็จะเป็นแบบนี้ๆ เราก็จะได้เรียนรู้ประสบการณ์แบบนี้ๆ คริสว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิต มันถูกกำหนดมาแล้วในระดับหนึ่ง แต่ถามว่าเราเลือกเองได้มั้ย บางอย่างก็ทำไมเรายังเลือกคนผิดอยู่ ก็เห็นอยู่แต่มันช่วยไม่ได้ ฉันรักเค้า เพื่อนเตือนหรือตัวเองก็รู้นะ แต่มันห้ามใจไม่ได้ คริสว่าบางอย่างมันกำหนดมาว่าเราอาจจะต้องเจอเพื่อที่จะเรียนรู้ เพื่อที่จะโตขึ้น เพื่อที่จะมีความสุขได้ง่ายขึ้น เวลาเสียใจมันเสียใจจากสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเอง มันก็ผิดหวังจากความคิดของเราเอง”อยากนิยาม “คริส หอวัง” ว่าเป็นผู้นำจิตวิญญาณด้านสาวโสด?(หัวเราะ) “ฉันก็ไม่ได้อยากโสดนะคะ ที่เห็นบนเวที เห็นเซ็กซี่ ทำหน้าฟาด อันนั้นก็คือบทบาทในการทำงาน คริสไม่ได้เป็นคนมั่นใจในตัวเอง เป็นผู้หญิงเก่ง แต่คริสพยายามให้เป็นแบบนั้น เพราะสุดท้ายแล้ว เราต้องอยู่ให้ได้ด้วยตัวของเราเอง ไม่ว่าเราจะมีเขาคนนั้นอยู่เคียงข้างหรือไม่เคียงข้าง แต่ถามว่าคริสอยากมีคนอยู่เคียงข้างมั้ย แน่นอน คริสอยากมี คริสไม่ได้คิดว่าตัวเองต้องเป็นสาวโสด ไม่ง้อผู้ชายนะ ไม่ใช่นะ ง้อค่ะ ง้อผู้ชายค่ะ อยากมีแฟนค่ะ ความรักก็อยากมีตลอด ความรักมันทำให้คริสมีพลังในการทำงาน”คนที่จะเข้ามาต้องเป็นยังไง?“ก็ต้องคุยกันก่อน ถ้าเค้าจะเข้ามา แล้วเราทำให้ต่างคนต่างบวก ทุกคนในวัยของคริสก็ทำงานเหนื่อยมากอยู่แล้ว ถ้าเราสามารถเป็นกำลังใจให้กันและกัน เป็นสิ่งดีๆให้กัน มันก็ดี แต่คริส ก็เข้าใจอีกว่า มันอาจจะดีช่วงแรกรึเปล่า ช่วงหลังมันต้องมีทะเลาะกันบ้างก็ต้องเรียนรู้กันไป แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มันเริ่ม Toxic เริ่มไม่ใช่ปรับความเข้าใจแล้ว”ชีวิตจริงเคยเจอความสัมพันธ์ที่ Toxic มั้ย?“ถ้ามีคนมาเช็กโทรศัพท์เหรอ คือถ้ามีก็เชิญไปได้เลยค่ะ มันไม่ได้ หนึ่งคือไม่ให้เกียรติ สองคือไม่มีความไว้ใจเลย สามคือต่อให้คริสไม่ได้มีอะไร คุณก็ไม่มีสิทธิดูโทรศัพท์คริส คือมันไม่ได้มีแค่แชตข้อความในไลน์ที่คุณจะไปนั่งหาว่าแอบคุยกับใครรึเปล่า แต่มันมีเรื่องรูป สมมติรูปเราไม่สวยที่ไม่ได้อยากให้ใครเห็น มันไม่ใช่ว่าคุณจะมีสิทธิดู ผู้หญิงก็อย่าเช็กโทรศัพท์ผู้ชายค่ะ ไม่เอาค่ะ อย่าไปแอบดู ถ้าเค้าจะมีชู้ ก็ปล่อยเค้าไปเลยค่ะ เพราะว่าเราสวยกว่านั้น ถ้าเค้าสามารถไปมีคนอื่นได้แปลว่าเค้าเลือกแล้ว”มุมมองความรักตอนนี้อยากหาคนมาผจญภัยกับเรา?“ทุกคน ไม่ว่าจะแต่งงาน มีลูก หรืออะไรก็แล้วแต่ ทุกคนต้องการเพื่อนที่จะอยู่เคียงข้าง เพื่อจะมีความสุขในชีวิตที่เรามีอยู่ ทุกคนต้องการเพื่อน แต่เพื่อนคนนั้นจะรักแบบไหน บางคนอาจจะไม่ได้แต่งงาน ไม่ได้ง้อผู้ชาย แต่เค้าอยากอยู่กับพี่น้อง ไปกับพี่น้อง มันต้องการคนที่จะผจญภัยในโลกนี้ไปด้วยกันแค่นั้นเอง คนที่แต่งงานแล้วก็อยากให้สามีเค้าหรือภรรยาเค้าผจญภัยไปด้วยกันบนโลกนี้ การดำเนินชีวิตร่วมกัน เราคุยกันเรื่องความรักเยอะมาก ไม่ใช่ว่าคริสเป็นคนสตรองนะ คริสก็เคยร้องไห้ เคยเจ็บ เสียใจ ทุกวันนี้คริสก็รู้สึกเท่าเดิม แต่คริสเอาอันนั้นมาดำเนินชีวิตต่อไปให้แข็งแรงขึ้น ไม่ใช่ว่าเคยล้มแล้วก็ล้มที่เดิมอีก ไม่เอาล้มแล้วก็ต้องเรียนรู้ ถ้าโดนขัดขาอีกก็แค่สะดุดค่ะ”.