ล่าสุด พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) นำทีมบุกกองบัญชาการกองทัพเรือ เข้าพบ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือเพื่อขอรายละเอียดสัญญาโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ ทั้งกระบวนการใช้งบประมาณ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดทำทีโออาร์ย้ำเสียงแข็งเลยว่า ในฐานะที่ สตง.มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์เงินแผ่นดิน ถ้าระหว่างที่กองทัพเรือกำลังเซ็นสัญญาซื้อเรือดำน้ำ ถ้าข้อสังเกตมีนัยสำคัญ ที่ควรนำไปประกอบการพิจารณาหรืออาจจะเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น เราจะรีบแจ้งเตือนกองทัพเรือทันทีแต่ในทันทีก็มีการบลัฟมาจากฝ่ายต้านอำนาจพิเศษ เว็บเพจแนวร่วมยี่ห้อ “ทักษิณ” เย้ยเลยการขยับของ สตง.ก็แค่การ “ฟอกขาว” การันตีความโปร่งใสอย่างเป็นทางการก่อนที่ทีมงานกองทัพเรือไปทำสัญญากับผู้ผลิตที่เมืองจีนเรื่องของเรื่อง ถึงตรงนี้คงยั้งไม่หยุดฉุดไม่อยู่ โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำเดินหน้าเต็มกำลัง ตามบรรยากาศที่ล้อไปกับสถานการณ์การเมืองโลกที่กำลังตึงเครียดกับภาวะสงครามเย็นจังหวะเป็นใจให้กระแสต่อต้านลดโทนความเข้มข้นลงไปตามรูปการณ์ที่นักการเมืองไทยมุ่งไปที่การเตรียมเลือกตั้งมากกว่าสังเกตจากอาการขยับของมวยรุ่นเก๋าเชิงสูงอย่างนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล อดีตรัฐมนตรีสายตรง “น้าชวน หลีกภัย” ออกมาดักทางดักคอตีกัน “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส.รัวเกราะเคาะไม้เตือนออกอากาศเลยว่า สิ้นปีนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ และสิ่งที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต้องระวังคือคนใกล้ตัวและหอกข้างแคร่ต้องการขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคนั่นคือกลุ่ม กปปส.ที่ได้กลับเข้าพรรคแล้วประชาธิปัตย์ส่อแววเปิดศึกสายเลือด ยึดป้อมค่ายกันครั้งใหญ่ก่อนเลือกตั้งขณะที่สัญญาณจากพรรคเพื่อไทยยังผลุบๆโผล่ๆกับการเฟ้นตัวแม่ทัพใหญ่และที่โผล่มาก่อนเลยคือชื่อของ “เดอะตู่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส อดีต ผบ.ตร. ซึ่งไม่ได้มาจากคนวงใน สายตรง สายอ้อมของ “นายใหญ่” แดนไกลแต่เป็นการปูดโดยคนวงนอกติดๆกัน 2 ช็อต ทั้งคิว “บิ๊กเยิ้ม” พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ที่อภิปรายด่าในสภาเป็นเชิง อยากจับสื่อยิงเป้า เพราะเสนอข่าว พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ด่าทหารหวังสร้างกระแสปูทางลงสนามการเมืองตามท้องเรื่องเดียวกับนายไพศาล พืชมงคล ผู้ช่วย รมต.ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ก็ปูดข่าวตามฟอร์มโยนทุ่นกันลอยๆ บอกสังคมให้คอยจับตา พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ที่เตรียมหา 10 ล้านเสียงจากพรรคเพื่อไทยลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีโดยมีคนแดนไกลเป็นผู้อำนวยการสร้างล่าสุดก็ยังมีข่าวลืออีกออปชั่น ว่ากันว่า “นายใหญ่” มุ่งไปที่การ “เทกโอเวอร์” พรรคชาติไทยพัฒนาในยุคที่ไร้ “บิ๊กเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา เพื่อผนึกเป็นฐานการเมืองตามฟอร์มของ “เต็งหนึ่ง” ในสนามเลือกตั้ง ยี่ห้อ “ทักษิณ” ถูกล็อกเป้าจะเสี่ยงมาลัยให้ใครรับเป็น “นอมินี”แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น นั่นก็ประเมินกันบนพื้นฐานต้นทุนเก่า ไม่ได้เอาปัจจัยใหม่เข้าไปประกอบตามสถานการณ์แบบที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กัปตันทีมเศรษฐกิจรัฐบาล คสช. กดปุ่มเดินหน้ามาตรการ “อัดฉีด” ผู้มีรายได้น้อยต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีพวกอยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจน จะมีการแจกเงินให้พอดำรงชีพเป็นอีกหนึ่งโปรโมชั่น ลด แลก แจก แถม เพิ่มเติมจากเบี้ยคนชรา ที่รัฐบาลทหารจัดรายการมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องที่สัมผัสแตะต้อง ยังไงก็โดนใจชาวบ้านรากหญ้าเบื้องต้นเลย ยึดเอาตามยอดลงทะเบียนคนจนกว่า 15 ล้านรายฐานเสียงใหญ่สุดของประเทศไทยไม่ชัวร์แล้วว่าเป็นของใคร.ทีมข่าวการเมือง