อิตาลี” ไม่ได้เป็นแค่จุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทาง ที่หลงใหลในเสน่ห์ของทัศนียภาพธรรมชาติ และชื่นชอบในความตระการตาของศิลปวัฒนธรรม, จิตรกรรม, สถาปัตยกรรม, ประวัติศาสตร์, แฟชั่น แต่แดนมะกะโรนีแห่งนี้ยังโด่งดังในฐานะต้นกำเนิดหนึ่งเดียวของ “ไวท์ทรัฟเฟิล” เห็ดทรัฟเฟิลสีขาวที่มีราคาแพงยิ่งกว่าทองคำ กิโลละหลายแสนบาท จนได้รับการขนานนามให้เป็น “คิงออฟทรัฟเฟิล”การตามล่า “ทรัฟเฟิลขาว” ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มีเมืองหุบเขาซานมิเนียโต แคว้นทัส-คานี ทางตอนกลางประเทศอิตาลี เป็นศูนย์กลางของการเก็บเกี่ยวเห็ดทรัฟเฟิล โดยหนึ่งในตระกูลนักล่าเห็ดทรัฟเฟิลเก่าแก่ระดับตำนานของอิตาลีต้องยกให้ตระกูลคุกเกียรา ซึ่งสืบสานประเพณีการเก็บทรัฟเฟิลมาต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษนับเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งของทีมข่าวหน้าสตรีไทยรัฐ ที่ได้ไปกระทบไหล่ “มร.ซัลวาโตเร คุกเกียรา” ราชาทรัฟเฟิลแห่งซานมิเนียโต นอกจากคุณลุงจะอนุญาตให้ตามติดไปชมการตามล่าเห็ดทรัฟเฟิลทั้งขาวและดำอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน พร้อมด้วยสุนัขคู่ใจ “สเตล่า” คุณลุงและลูกชาย “มาสซิโม คุกเกียรา” ยังเปิดใจให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรก เพื่อบอกเล่าถึงตำนานความยิ่งใหญ่ของการเป็นนักล่าเห็ดทรัฟเฟิล อะไรทำให้เมืองซานมิเนียโตโด่งดังทั่วโลก ทั้งๆที่ในอิตาลีก็มีเมืองอื่นเป็นศูนย์กลางตามล่าทรัฟเฟิลเมืองนี้สร้างตำนานเลื่องลือไว้ เพราะเคยมีการขุดพบทรัฟเฟิลขาวขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โลก น้ำหนัก 2.520 กิโลกรัม เมื่อวันที่ 26 ต.ค.1954 โดย “มร.อาร์ตูโร กัลเลอรินี” กับสุนัขคู่ใจ “ปาริกี” โดยเห็ดก้อนยักษ์ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นของกำนัลแก่ประธานาธิบดีดไวท์ ดี. ไอเซนฮาวร์ ขณะที่ทางการซานมิเนียโตได้สร้างอนุสาวรีย์เป็นอนุสรณ์รำลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของนักล่าทรัฟเฟิลและสุนัขในตำนานคนทั่วไปสงสัยว่า ทำไมเห็ดทรัฟเฟิลถึงได้มีราคาแพงนักทรัฟเฟิลคือส่วนดอกของเห็ดที่อาศัยอยู่ใต้ดิน มีกลิ่นหอมละมุนเฉพาะตัว สามารถเจริญเติบโตได้ดีบริเวณใต้ผิวดินที่ต้นโอ๊คหยั่งรากลึก สาเหตุที่มีราคาแพงเพราะได้รับความนิยมสูงมากจากเชฟมิชลินดังๆของโลก แต่เป็นเห็ดที่ไม่สามารถปลูกเองได้ ต้องเกิดจากธรรมชาติเท่านั้น ปีหนึ่งเก็บเกี่ยวได้เพียง 2 ครั้ง คือ ในช่วงฤดูร้อน และฤดูหนาว จริงไหมที่ว่า “ทรัฟเฟิลขาว” ราคาแพงยิ่งกว่าทองคำถ้าเป็นทรัฟเฟิลขาว จะขุดพบเฉพาะในประเทศอิตาลีเท่านั้น ไม่มี “ไวท์ ทรัฟเฟิล” ในประเทศฝรั่งเศส อย่างที่พยายามจะกล่าวอ้างกัน ทรัฟเฟิลขาวถือเป็นราชาแห่งทรัฟเฟิล ในช่วง 3 อาทิตย์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายนทุกปี จะมีการจัดเทศกาลไวท์ ทรัฟเฟิล อย่างคึกคักในซานมิเนียโต เพื่อเชิดชูประเพณีเก็บเกี่ยวทรัฟเฟิลขาวฤดูหนาว โดยปกติ “ทรัฟเฟิลขาว” มีราคาแพงกว่า “ทรัฟเฟิลดำ” ซึ่งขุดพบทั่วไปในฝรั่งเศส หลายเท่าตัว แต่ถ้ายิ่งเป็น “ไวท์ วินเทอร์ ทรัฟเฟิล” ทรัฟเฟิลขาวที่เก็บเกี่ยวในฤดูหนาว ยิ่งแพงระยับขึ้นไปอีก มีราคาตั้งแต่ปอนด์ละ 6,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (เทียบเท่ากับครึ่งกิโลกรัม ราคา 200,000-350,000 บาท) เมื่อปี 2007 เคยมีการประมูลทรัฟเฟิลขาว น้ำหนัก 3.3 ปอนด์ ในราคาสูงถึง 330,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทย 11.5 ล้านบาท) โดยเจ้าพ่อกาสิโนมาเก๊า “สแตนลีย์ โฮ” ขณะที่เมื่อปี 2010 โซเธบี้ส์ เปิดประมูลทรัฟเฟิลขาวก้อนใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน ขนาด 4.16 ปอนด์ (1.89 กิโลกรัม) ทำราคาได้สูงถึง 417,200 ดอลลาร์สหรัฐฯ (14.6 ล้านบาท) ทรัฟเฟิลเหล่านี้ล้วนขุดพบในอิตาลีครอบครัวคุกเกียราเริ่มสร้างตำนานนักล่าเห็ดทรัฟเฟิลขึ้นอย่างไรผมโตมากับเห็ดทรัฟเฟิล โดยคุณพ่อ “ลิโน คุกเกียรา” ปลูกฝังให้รักธรรมชาติตั้งแต่เล็กๆ และกระตุ้นให้ผมเกิดแพสชั่นที่อยากจะเป็นนักล่าทรัฟเฟิลเหมือนกับท่าน ท่านมักจะเล่าถึงตำนานการค้นหาทรัฟเฟิล ความน่าตื่นเต้นของการผจญภัย และความโชคดีของนักล่าทรัฟเฟิล สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมมุ่งมั่นสืบทอดประเพณีการตามหาทรัฟเฟิลมาจนถึงปัจจุบัน และได้ส่งต่อตำนานของครอบครัวเราสู่รุ่นลูกเป็นเจนเนอเรชั่นที่สาม โดยมีลูกชายคนโต “มาสซิโม” เป็นกำลังสำคัญ นักล่าทรัฟเฟิลทุกคนจะต้องมีใบอนุญาตเก็บทรัฟเฟิล คนที่ไม่มีไลเซนส์ไม่มีสิทธิเข้าป่าตามอำเภอใจ อาวุธสำคัญที่สุดของการตามล่าทรัฟเฟิลคืออะไรนักล่าทรัฟเฟิลมีอาวุธอยู่เพียงอย่างเดียวคือ สุนัขคู่ใจ สำหรับสุนัขคู่ใจของผม ตั้งชื่อให้ว่า “สเตล่า” หมายถึงดาวนำโชค ผมฝึกมันมากับมือตั้งแต่แรกเกิด เรากินนอนอยู่ด้วยกันเหมือนพ่อลูก และสเตล่าก็นำโชคมาให้ผมจริงๆจากประสบการณ์หลายสิบปี ที่ไหนคือขุมทรัพย์ของทรัฟเฟิลชั้นดีความน่าตื่นเต้นของการค้นหาทรัฟเฟิลคือ เมื่อเรามุ่งหน้าเข้าไปในป่าเพื่อเก็บทรัฟเฟิล แต่ละวันเราไม่มีทางรู้ว่าจะได้เจออะไร บางวันอาจได้ทรัฟเฟิลก้อนใหญ่ แต่บางวันอาจกลับบ้านมือเปล่า ต้องอาศัยโชคมากๆ สำหรับธรรมชาติของทรัฟเฟิล จะเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณใต้ผิวดินที่ต้นโอ๊คหยั่งรากลึก ภายใต้สภาพอากาศเย็นสบาย ปราศจากมลพิษ มนุษย์อย่างเราไม่มีทางรู้ว่าทรัฟเฟิลจะโผล่ขึ้นมาตรงไหน ต้องอาศัยสุนัขที่ผ่านการฝึกดมกลิ่นมาแล้วอย่างแม่นยำเป็นผู้นำทาง โดยสุนัขที่มีพรสวรรค์ด้านการดมกลิ่นและขุดหาทรัฟเฟิลคือ สุนัขพันธุ์โรมันโบราณ “Lagotto Romagnolo” ซึ่งเป็นสุนัขสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของอิตาลี ตั้งแต่โบราณมาคนอิตาเลียนจะเลี้ยงไว้สำหรับตามล่าเห็ดทรัฟเฟิลโดยเฉพาะ แต่ถ้าย้อนกลับไปในยุคโบราณกว่านั้น มีการใช้หมูขุดหาทรัฟเฟิล แต่เนื่องจากหมูมักจะกินทรัฟเฟิลทันทีที่ขุดเจอ ภายหลังจึงเปลี่ยนธรรมเนียมมาใช้สุนัขตามล่าเห็ดมหัศจรรย์ การฝึกฝนสุนัขล่าทรัฟเฟิล ต้องเคี่ยวเข็ญเข้มงวดขนาดไหนสุนัขเหล่านี้จะถูกฝึกให้ดมกลิ่นและขุดหาทรัฟเฟิลตั้งแต่แรกเกิด โดยจะโยนทรัฟเฟิลให้พวกมันไล่คาบกลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า สุนัขของนักล่าทรัฟเฟิลจะเชื่อฟังคำสั่งเจ้าของเพียงคนเดียว เพราะเลี้ยงดูกันมาอย่างใกล้ชิดตั้งแต่แบเบาะ กินนอนด้วยกันทั้งวันทั้งคืน ทันทีที่ได้กลิ่นทรัฟเฟิล สุนัขแสนรู้จะปรี่เข้าไปขุดๆๆ ตะกุยดินเพื่อหาทรัฟเฟิลมาให้เจ้านายที่รัก เมื่อปฏิบัติหน้าที่สำเร็จ พวกมันจะกระดิกหางรอรับรางวัลจากเจ้านาย นั่นก็คือบิสกิตชิ้นเล็กๆที่ป้อนจากมือเจ้านาย และการลูบหัวด้วยความรักใคร่เอ็นดูช่วยแนะนำเคล็ดลับการเลือกซื้อทรัฟเฟิลโดยไม่ถูกหลอกลวงนอกจากการเลือกขนาดตามความพอใจแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือ การดมกลิ่นของทรัฟเฟิล ถ้าจับเห็ดทรัฟเฟิลแล้วมีกลิ่นติดมือมา แสดงว่าเป็นทรัฟเฟิลที่ดี สามารถเก็บไว้ได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ที่สำคัญอยากให้เลือกทานทรัฟเฟิลแบบสดๆ อย่าไปซื้อพวกน้ำมันทรัฟเฟิล เพราะในนั้นมีแต่น้ำมันมะกอกกับกลิ่นสังเคราะห์ของทรัฟเฟิล จนถึงวันนี้ อะไรคือความฝันสูงสุดของนักล่าทรัฟเฟิลเมื่อปีที่แล้วเราขายทรัฟเฟิลขาวทั้งหมด 10 กิโลกรัม ได้ราคาดีมาก แต่มันยังไม่ใช่ความฝันของผม เพราะผมฝันไปไกลกว่านั้นว่า สักวันจะเก็บไวท์ทรัฟเฟิลก้อนใหญ่ที่สุดในโลกได้ ลบสถิติที่มีคนทำไว้ การเป็นนักล่าทรัฟเฟิล ต้องอาศัยประสบการณ์ ขณะเดียวกัน ก็ต้องพึ่งโชคช่วยอยู่มาก ตอนนี้ลูกชายและลูกสาวของผมก็มาเดินตามรอยเป็นนักล่าทรัฟเฟิล ผมตั้งใจว่าจะสืบสานประเพณีนี้ตราบชั่วลูกชั่วหลาน เพื่อไม่ให้ประเพณีล่าทรัฟเฟิลสูญหายไปจากโลก.ทีมข่าวหน้าสตรี
