รวบแล้วแท็กซี่หื่นบังคับสาวพม่าอมเจ้าโลก ขณะหนีไปกบดานอยู่ในห้องเช่าเมืองกาญจน์ เบื้องต้น รับว่าชิงทรัพย์เพียงอย่างเดียว ปัดข่มขืนอนาจาร เผยหลังเกิดเหตุใช้เงินผู้เสียหายซื้อตั๋วขึ้นรถทัวร์หนีไปเรื่อย ตั้งแต่ หล่มสัก มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ย้อนกลับมาสุพรรณ จนมาถูกจับเมืองกาญจน์จากเหตุภัยสังคม โชเฟอร์แท็กซี่หื่น ทำร้ายร่างกายสาวพม่าด้วยการชกใบหน้าจนดั้งจมูกหัก หวังข่มขืน แต่เหยื่อมีประจำเดือนเลยถูกบังคับให้อมเจ้าโลก เหยื่อสาวฮึดสู้กัดเหวอะหวะเลือดสาดเลยต้องขับรถหนี เหตุเกิดบริเวณถนนเทียมร่วมมิตร (รฟม.ตัดใหม่) ข้างการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ ไทย แขวงและเขตห้วยขวาง กทม. เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง สอบสวนทราบชื่อคนร้ายคือนายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 35 ปี ชาว จ.เลย ได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้น เข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และจากการตรวจสอบพบว่ายังมีหมายจับศาลจังหวัดระยอง ลงวันที่ 19 พ.ย.58 ในข้อหากระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจของผู้อื่น และลักทรัพย์ในเวลากลางคืนตามที่เสนอข่าวไปนั้นสุดท้ายโชเฟอร์หื่นหนีไม่รอด โดยเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 5 เม.ย. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.ส.บช.น. และ รรท.ผกก.ส.บก.น.1 นำกำลังจับกุมนายคมสรรณ์ โตทิม อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 342/480 หมู่ 7 ต.เมืองเลย อ.เมืองเลย ผู้ต้องหาในคดีอนาจาร และชิงทรัพย์สาวพม่าได้ที่ห้องเช่าชั้นเดียว ไม่มีชื่อเลขที่ 14/2 ซอยหัวนา ต.หัวนา อ.เมืองกาญจนบุรี ก่อนนำตัวเข้ามาสอบสวนที่ บช.น. โดยใช้ผ้าขนหนูสีแดงปิดบังใบหน้าหลังเห็นสื่อมวลชนรอดักถ่ายรูปทำข่าวมีรายงานว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายคมสรรณ์รับสารภาพ ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์เหยื่อจริง แต่ไม่ได้ทำอนาจารอย่างที่เป็นข่าว หลังจากก่อเหตุแล้วได้นำรถไปคืน และเก็บข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวไปที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 ก่อนขึ้นรถทัวร์หนีไปที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เปิดห้องพักแล้วหนีต่อไปที่ จ.มุกดาหาร ร้อยเอ็ด สุพรรณบุรี และมาถูกจับที่ เมืองกาญจน์ โดยใช้เงินที่ได้จากการชิงทรัพย์มา 1 หมื่นกว่าบาท เป็นค่ารถเปิดห้องหนีไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย ส่วนเรื่องบังคับให้เหยื่อสาวพม่าอมเจ้าโลก และถูกกัดจนบาดเจ็บนั้น นายคมสรรณ์ปฏิเสธไม่ได้กระทำอนาจาร ต้องการแค่ชิงทรัพย์ อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบอวัยวะเพศเบื้องต้นของนายคมสรรณ์ ผู้ต้องหา ไม่พบร่องรอยการถูกกัดอย่างที่กล่าวอ้าง
