ชุดเก็บกู้ทุ่นระเบิด กองกำลังบูรพา เข้าเคลียร์ทุ่นระเบิดบ้านหนองหญ้าแก้ว วันที่ 4 พบเพิ่มอีก 2 ทุ่นสภาพพร้อมใช้งานและลุยรื้อถอนเพิงพักของชาวกัมพูชาที่ล้ำเข้ามาในดินแดนไทยชนิดกวาดเรียบไม่เหลือกองทัพภาคที่ 2 ยืนยันความพร้อมปกป้องอธิปไตยตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ลั่นจะไม่ยอมให้เสียอธิปไตยของชาติแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว ผบ.ตร.ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว รับฟังสถานการณ์ให้กำลังใจ ตชด. ยืนยันตำรวจพร้อมร่วมปกป้องอธิปไตยชาติ “อนุทิน” ขอฟังซาวด์ผีหลอนหลังคนแย้งละเมิดสิทธิ ส่วนปม MOU ย้ำยึดหลักไม่ให้ไทยเสียเปรียบ ส่วนกรณีชาวกัมพูชาร้องเรียนเสียงดัง ไทยชี้แจงเป็นการ เปิดภาพยนตร์ สารคดีและเพลงปลุกใจ สร้างขวัญ กำลังใจให้กำลังพล ไม่มีเจตนายั่วยุ ขณะที่ “กัน จอมพลัง” จัดฉายหนังกลางแปลงและรถแห่ฮาโลวีนคืนวันที่ 13 ต.ค. สร้างสีสันและความสนุกสนานให้ทหารไทยหายเหนื่อย ก่อนประกาศยุติการใช้ “เสียงผี” ที่ชายแดนไทย-กัมพูชาความคืบหน้าการดำเนินการผลักดันชาวกัมพูชาที่ปลูกบ้านเรือนรุกล้ำเข้ามาในดินแดนไทย เมื่อวันที่ 13 ต.ค. กองทัพภาคที่ 1 ได้ใช้รถถากถางหุ้มเกราะ D5 รื้อถอนเคลียร์เพิงพัก สิ่งปลูกสร้างของชาวกัมพูชา ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ชนิดกวาดเรียบไม่เหลือ ขณะเดียวกันพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล 2 ทุ่นในสภาพพร้อมทำงาน“อนุทิน” ขอฟังซาวด์ผีหลอนที่พรรคภูมิใจไทย เมื่อเที่ยงวันที่ 13 ต.ค.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงการเปิดซาวน์หลอนบริเวณชายแดน ถือเป็นมาตรการผลักดันชาวกัมพูชาจากเบาไปหาหนักหรือไม่ว่า เรื่องการปฏิบัติมอบอำนาจให้กองทัพตัดสินใจเต็มที่ ทั้งเรื่องการเจรจาทางการทูตที่เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 12 ต.ค.นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศ ไปกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย พบฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายมาเลเซีย และเดินทางกลับมาแล้วเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ส่วนหนังสือตอบกลับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำไปแล้ว เมื่อถามว่าการเปิดซาวด์เสียงผีหลอนผิดหลักมนุษยชนหรือไม่ เพราะมี สว.ออกมาติงเรื่องนี้ นายกฯกล่าวว่า ขอไปฟังก่อนยังไม่มีเวลาฟัง ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาลงพื้นที่ตลอด ถึงอย่างไรยังยืนยันว่าทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ทั้งกฎหมายไทย กฎหมายสากล รวมถึงกฎกติกาสากลด้วยย้ำปม MOU ยึดหลักไม่ให้ไทยเสียเปรียบผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่ทำให้ไทยเพลี่ยงพล้ำในเวทีโลกใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เรารักษาอธิปไตยของเรา ผู้สื่อข่าวถามว่า MOU 43-44 เราสามารถยกเลิกได้หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องมานั่งดูกันตรงนี้ ต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่สิ่งที่ยืนยันก็คือสำหรับรัฐบาลไม่มีวันทำอะไรให้ประเทศไทยเสียเปรียบ เพราะมีคนทำงาน มีคนเจรจาและศึกษาอยู่ สุดท้ายค่อยมาตัดสินใจมอบหมายให้ไปสรุปผลมานำเสนอผู้สื่อข่าวถามว่า การศึกษาของคณะกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาบันทึกความเข้าใจ MOU 43 และ 44 ที่มีนายไชยชนก ชิดชอบ รมว.ดิจิทัลเพื่อ เศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธาน จะต้องมายื่นให้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ชุดของนายไชยชนก เป็นของสภาผู้แทนราษฎร เรื่องนี้เป็นเรื่องของผลการศึกษาต้องส่งกลับมาที่คณะรัฐมนตรีก่อน จากนั้นนายกฯจะเป็นผู้มอบหมายให้ใครคนใดคนหนึ่งไปสรุปผลการศึกษามานำเสนอต่อไป อาจจะมี รมว.กลาโหม และ รมว.ต่างประเทศ รมว.มหาดไทย ร่วมด้วยก็ได้ ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้ต้องเร่งด่วนหรือไม่ เพราะอย่างเรื่องรัฐธรรมนูญก็ทำเร่งด่วน นายกฯกล่าวว่า ตามกระบวนการเตรียมฟ้องคนปล่อยข่าวปลอมนายอนุทินยังกล่าวถึงกรณีเตรียมให้ทนายความแจ้งดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยข่าวปลอมว่าตำหนิ พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ว่า เสนอข่าวอย่างนี้แย่ ที่บอกว่าตนไปตำหนิรองแม่ทัพภาคที่ 2 ตนยังไม่เคยรู้จักท่านเลย มันใช่ไหมที่จะไปตำหนิคนนั้นคนนี้ ทุกคนทำงานเพื่อบ้านเมือง การเสนอข่าวแบบนี้ชัดเจนว่าประสงค์ร้าย ดังนั้น ต้องดูและแยกแยะ เราต้องดำเนินการฟ้องร้อง เมื่อถามว่าให้ทีมทนายไปฟ้องร้องแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบรับว่า “ครับ ให้ทีมกฎหมายของพรรคไปฟ้องร้อง แต่วันนี้เป็นวันหยุด”“อังคณา” โต้ไม่ได้ตำหนิใครวันเดียวกัน นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ให้สัมภาษณ์ถึงการโพสต์เฟซบุ๊กตำหนิกรณีการเปิดเสียงซาวด์ผีที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว เข้าข่ายการละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนว่า ไม่ได้ตำหนิใคร เพียงแค่แปลหนังสือของประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ที่ส่งถึงข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ว่า เป็นการทรมานทางจิตวิทยาที่กระทำต่อพลเรือนหรือไม่ เป็นการตั้งคำถามว่าพื้นที่ดังกล่าวประกาศกฎอัยการศึก บรรดาอินฟลูฯ ทั้งรถแห่ รถติดเครื่องขยายเสียง เข้าไปในพื้นที่ได้อย่างไร ยืนยันไม่ได้สนับสนุนฝ่ายกัมพูชา ส่วนที่กัมพูชาใช้โพสต์ของตนไปเพิ่มน้ำหนักให้ฝ่ายตัวเอง ส่วนตัวไม่ได้ใส่ใจ ยืนยันเป็นการโพสต์แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต พื้นที่ตรงนั้นขณะนี้ไม่มีการปะทะ ไม่มีปฏิบัติการทางทหาร เป็นพื้นที่พลเรือน แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหมือนเอาพลเรือนไปปะทะกับพลเรือนด้วยกันต้องระวัง จะทำลายพื้นที่ความสัมพันธ์พลเรือนด้วยกัน เป็นเรื่องมนุษยธรรมระหว่างประเทศด้วยไทยชี้แจงเสียงดังหลังกัมพูชาโวยผู้สื่อข่าวรายงานจากพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ว่า หลังจากกลุ่มชาวกัมพูชาฝั่งตรงข้ามบ้านหนองจาน ออกมาร้องเรียน แสดงความไม่พอใจที่ฝั่งไทยเปิดเสียงดังรบกวนพื้นที่ชายแดนในช่วงค่ำนั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ชี้แจงข้อเท็จจริง ระบุว่า เสียงที่ดังออกมาจากฝั่งไทย เป็นกิจกรรมภายในพื้นที่ควบคุมของกองกำลังบูรพาได้เปิดภาพยนตร์ สารคดีและเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพล ที่ปฏิบัติภารกิจอยู่แนวชายแดน หลังจากต้องเผชิญกับความตึงเครียด ความเหน็ดเหนื่อยจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อเนื่องมาเป็นเวลานานยันจัดในพื้นที่ทหารไม่ได้ละเมิดใครเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยชี้แจงด้วยว่า สื่อที่นำมาเผยแพร่ มีทั้งภาพยนตร์เชิงประวัติศาสตร์ สารคดีให้ความรู้ บทเพลงปลุกใจ ที่มุ่งเน้นให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ทั้งยังมีเนื้อหาสอดแทรกข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่มาของข้อพิพาทแนวชายแดน การรุกล้ำพื้นที่ของกัมพูชาในบางจุด รวมถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ไทยเคยให้ความช่วยเหลือกัมพูชาในหลายด้าน ทั้งมนุษยธรรม การลี้ภัย การสนับสนุนด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน สิ่งที่เราทำเป็นกิจกรรมเพื่อทหารไทย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ ให้เจ้าหน้าที่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ รวมถึงตระหนักถึงหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่มีเจตนาจะยั่วยุหรือสร้างความรำคาญให้กับประเทศเพื่อนบ้านแต่อย่างใด การเปิดภาพยนตร์และสื่อต่างๆเหล่านี้ ดำเนินการอยู่บนผืนแผ่นดินไทย 100% จัดขึ้นในพื้นที่ควบคุมของหน่วยทหาร ห่างจากแนวชายแดนในระยะที่ไม่เป็นการละเมิดเขตแดน การดำเนินการทั้งหมดจึงเป็นไปตามกฎหมายและหลักสากล “ขอยืนยันว่าทหารไทยทุกนายมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจในการปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน และพร้อมยืนหยัดทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ” เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยกล่าวย้ำในตอนท้าย ทหาร กกล.บูรพาลาดตระเวนเข้มสำหรับบรรยากาศในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ช่วงเช้าวันที่ 13 ต.ค.ยังคงสงบเรียบร้อย ทหารกองกำลังบูรพาเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวน ตรวจตราพื้นที่ ใช้โดรนบินสำรวจตลอดแนว ป้องกันเหตุรุนแรงหรือการปลุกระดมจากฝั่งตรงข้าม ไม่มีกลุ่มมวลชนกัมพูชาออกมารวมตัวที่แนวชายแดนเหมือนที่ผ่านมา ขณะที่ฝั่งกัมพูชาโดยเฉพาะในพื้นที่จุดเพิงพักสีฟ้า มีทหารกัมพูชาประจำการคอยสอดส่องสังเกตการณ์มายังฝั่งไทยตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้จับตาอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินสถานการณ์และป้องกันเหตุความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกขณะผบ.ตร.ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ ตชด.อีกด้านเวลา 08.30 น. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รองผบ.ตร., พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบช.ตชด. และ พล.ต.ท.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร. เดินทางไปตรวจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว และเยี่ยมกำลังพล ตชด. ที่จุดตรวจบ้านหนองจาน ผบ.ตร.และคณะได้ประชุมรับฟังสถานการณ์ ตรวจเยี่ยมกองร้อยควบคุมฝูงชนจากตำรวจภูธรภาค 2 โดยมีพล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ.จ.สระแก้ว พล.ต.ต.ชาตรี สุขศิริ ผบก.อก.ภ.2 รอง ผบก.ภ.จ.สระแก้ว หน.สถานีตำรวจ ผู้แทนฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง ป่าไม้ มาร่วมประชุมด้วย ที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 พัน. 3 รอ.) ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ ผบ.ตร.กล่าวว่าลงพื้นที่ดูสถานการณ์และให้กำลังใจกำลังพลทุกนาย ได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาดูแลอย่างเต็มที่ ยืนยันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมบูรณาการสนับสนุนการปฏิบัติอย่างเต็มที่และพร้อมดำเนินการด้านกฎหมาย เพื่อปกป้องรักษาอธิปไตยของไทยมทภ.2 ยันความพร้อม ปกป้องอธิปไตยขณะที่ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่กองกำลังสุรนารี ติดตามสถานการณ์ตรวจเยี่ยมสร้างขวัญกำลังใจและกำชับแนวทางการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบกและรัฐบาล พล.ท.วีระยุทธกล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 เฝ้าตรวจและเตรียมความพร้อมตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอด 24 ชั่วโมง กำลังพลทุกนายมีขวัญกำลังใจดี ได้รับการดูแลสวัสดิการ อาหาร น้ำดื่ม สิ่งของจำเป็นอย่างเพียงพอ มีแผนสนับสนุนครบทุกมิติ เพื่อให้การปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์ และดำเนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ป้องกันความสูญเสียที่ไม่จำเป็น หากตรวจพบการล่วงล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย จะดำเนินการตอบโต้ตามกฎการใช้กำลังทันที เพื่อปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติ ทภ.2 ขอให้คำมั่นว่า “จะไม่ยอมให้เสียอธิปไตยของชาติแม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว”เก็บทุ่นระเบิดพร้อมใช้งานอีก 2 ทุ่น ผู้สื่อข่าวรายงานจากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดว่า ในการเคลียร์ทุ่นระเบิดเป็นวันที่ 4 ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในพื้นที่ปฏิบัติการบ้านหนองหญ้าแก้วอีก 2 ทุ่น เป็นระเบิดชนิดอยู่กับที่ MN79 1 ทุ่น สภาพพร้อมทำงาน ใกล้กันพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิดระเบิดอยู่กับที่ PMN 1 ทุ่น สภาพพร้อมทำงานเช่นกัน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดได้เก็บกู้ตามขั้นตอน ทั้งนี้ ตั้งแต่เริ่มปฏิบัติภารกิจมาตั้งแต่วันที่ 10-13 ต.ค. ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล รวม 7 ทุ่น แยกเป็นชนิดระเบิดอยู่กับที่ PMN สภาพพร้อมใช้งานทั้ง 6 ทุ่น ทุ่นระเบิดชนิดอยู่กับที่ MN79 สภาพพร้อมใช้งาน 1 ทุ่นใช้รถถากถางหุ้มเกราะ D5 รื้อเพิงพักขณะเดียวกัน ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 (ฉก.12) กองกำลังบูรพายังใช้รถถากถางหุ้มเกราะ D5 รื้อถอนเพิงพักของชาวกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ภารกิจดังกล่าวเป็นการปฏิบัติต่อเนื่อง หลังจากพบสิ่งปลูกสร้างชั่วคราวของชาวกัมพูชาฝั่งตรงข้ามล้ำเข้ามาในแนวเขตแดนไทย มีการตรวจพบวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง หลายจุดก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงต้องเก็บกู้เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะเกษตรกรชาวไทยบ้านหนองหญ้าแก้วและบ้านหนองจาน ที่ต้องเข้าไปทำมาหากินในนาในไร่ใกล้แนวชายแดน และเพิ่มการลาดตระเวนตรวจตราในพื้นที่เสี่ยง ป้องกันการกลับเข้ามาสร้างสิ่งปลูกสร้างและวางกับ ระเบิดซ้ำอีก ทั้งนี้ บรรยากาศในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกโล่งใจ หลังหน่วยงานความมั่นคงเข้ามาดำเนินการเก็บกู้วัตถุระเบิดและรื้อถอนเพิงพักที่เป็นภัยต่อความปลอดภัยแล้วจับกัมพูชาลอบข้ามแดนเข้าไทย 37 คนนอกจากนี้ทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 12 (ฉก.12) กองกำลังบูรพา ที่สนธิกำลังออกลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน อ.โคกสูงและได้จับกุมชาวกัมพูชาทั้งหญิงชายได้ 37 คนที่ลักลอบข้ามแดนที่ระหว่างหลักเขตแดน 47-48 บ้านอ่างศิลา ต.โนนหมากมุ่น แรงงานกลุ่มดังกล่าวให้การว่า เดินทางมาจาก จ.บันเตียเมียนเจยและเสียมราฐ กัมพูชา มีจุดหมายปลายทางจะไปทำงานรับจ้างทั่วไปและในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ชั้นในของไทย เช่น กทม. ชลบุรี สมุทรปราการ จ่ายค่าดำเนินการให้นายหน้าคนละประมาณ 3,000-5,000 บาท4 ชาติร่วมประชุม 4 ฝ่ายที่มาเลย์ส่วนการร่วมประชุม 4 ฝ่ายระหว่างไทย กัมพูชา สหรัฐฯ มาเลเซีย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ หารือการแก้ปัญหา ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชาและประเด็นการสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 12 ต.ค.มีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.ต่างประเทศไทย นายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศและความร่วมมือนานาชาติของกัมพูชา เข้าร่วมประชุม นายปรัก สุคน กล่าวว่า กัมพูชาเห็นความสำคัญของการปฏิบัติตามกรอบข้อตกลงหยุดยิงของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือจีบีซี คณะกรรมการส่วนภูมิภาค หรืออาร์บีซี และคณะกรรมาธิการเขตชายแดนร่วม หรือเจบีซี อย่างเคร่งครัดและจริงใจ และยังระบุว่าทั้งสองฝ่ายมีภารกิจเร่งด่วนในการลดความตึงเครียดยกระดับความร่วมมือกันในหลายด้าน เช่น การถอนอาวุธหนัก การบริหารจัดการที่อยู่อาศัยของพลเรือนในเขตชายแดน การปราบแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ ลดการเผยแพร่ข่าวที่เป็นเท็จฉายหนังกลางแปลง-ฮาโลวีน ให้ทหารดู ทางด้านนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 13 ต.ค. ได้เดินทางมาที่บ้านหนองจาน เตรียมกิจกรรมฉายหนังกลางแปลงและกิจกรรมรถแห่ฮาโลวีนในคืนวันที่ 13 ต.ค.และให้สัมภาษณ์ว่า ช่วงนี้ใกล้เข้าสู่วันฮาโลวีน หลังจากทหารปฏิบัติหน้าที่เหน็ดเหนื่อยกันมาหลายเดือนไม่ได้กลับบ้านไปพบกับครอบครัว จึงตั้งใจจัดกิจกรรมฮาโลวีนให้ทหารไทยได้มีสีสัน สนุกสนาน ที่บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน ได้เตรียมโครงกระดูกผี และนำหนังผีมาให้เข้ากับบรรยากาศฮาโลวีน กิจกรรมต่างๆและหนังที่ฉาย ทำในผืนแผ่นดินไทยเอนเตอร์เทนทหารในเขตไทยไม่ผิดส่วนที่ชาวบ้านกัมพูชาออกมาดิ้นบอกว่าไม่เห็นด้วยกับการกระทำ กัน จอมพลัง ระบุว่า อาจจะเกินไปกับอดีตเพื่อนที่เข้ามาอยู่ในบ้านเรา เห็นว่าเมื่อคืนวันที่ 12 ต.ค. ก็นั่งดูสารคดี คนไทยทำอะไรให้เยอะมากตอนที่กัมพูชาเข้ามา ทำหลายอย่างเพื่อให้กัมพูชารอดชีวิตจนทำให้เขาสามารถตั้งหลักได้ แต่วันนี้ปีกกล้าขาแข็งใส่เรา เราเปิดเพลงอะไรกัมพูชาก็ไม่ถูกใจ เปิดอะไรกัมพูชาก็ไม่ชอบ มองว่าเกินไปทั้งเรื่องของการอยากยึดแผ่นดินไทย หรือการร้องเรียนชาวโลก กัมพูชาเป็นเผ่าพันธุ์ที่เอาแต่ใจตัวเองเกินไป ยืนยันว่าเราเปิดเพลงและฉายหนังในบ้านเรา เอนเตอร์เทนทหารไทยของเราไม่ถือว่าเป็นการทำผิดจวกลูกสาวฮุนเซนไลฟ์บิดเบือน ส่วนประเด็นที่สื่อของลูกสาวฮุน เซน ออกมาไลฟ์สดพยายามบิดเบือนสารคดีที่ไทยเปิด กัน จอมพลัง กล่าวว่า คนเหล่านั้นไม่มีจิตสำนึก ไม่รู้จักบุญคุณ ขอความช่วยเหลือเขาแต่กลับบิดเบือนบุญคุณ ฮุน เซน ผู้นำของกัมพูชา เป็นคนในกลุ่มของเขมรแดงจริงไม่ใช่หรือ เป็นผู้ที่สั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์คนกัมพูชาใช่หรือไม่ จึงอย่าบิดเบือนความจริงฉะ สว.ห่วงคนไทยหรือคนกัมพูชา กัน จอมพลังกล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่ตนทำมักจะมีคนขัดขวางอยู่เสมอ แต่หลังจบเรื่องผลลัพธ์ออกมาดีตลอด เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ยังอยากให้ทำอยู่ ส่วนกรณีนางอังคณา นีละไพจิตร สว. ที่ตั้งคำถามปล่อยอินฟลูฯเข้ากดดันหรือสร้างความหวาดกลัวในพื้นที่ขัดแย้ง จนกัมพูชาร้องข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ต้องถามว่าวันนี้ท่านห่วงใยคนไทยหรือคนกัมพูชา อย่าลืมว่าท่านเป็นผู้ทรงเกียรติของประเทศไทย กินเงินเดือนของประเทศไทย วันนี้อยากโฟกัสคนไทยก่อน และเรื่องสิทธิมนุษยชนและเรื่องมนุษยธรรมเราให้กัมพูชา การที่เราช่วยกัมพูชารอดจนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะเรามีมนุษยธรรม เราใจดีกับกัมพูชามาก แต่สุดท้ายกัมพูชาใจร้ายกับเรา ตอนยิงระเบิด BM-21 เด็กฝั่งเราเสียชีวิตอยู่ใน 7-11 บ้าง อยู่ในบ้านบ้างประกาศยุติใช้ “ซาวด์ผี” กันปัญหา ต่อมา “กัน จอมพลัง” ได้ประกาศยุติการใช้ “เสียงผี” หรือ “ซาวด์ผี” บริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่าย และเจ้าตัวได้เปิดเผยผ่านการไลฟ์สดว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากความปรารถนาดี ไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดหรือความบาดหมางระหว่างประชาชนสองประเทศ ยืนยันว่ากิจกรรมที่ชายแดนยังคงดำเนินต่อไป แต่จะปรับรูปแบบเป็น “หนังกลางแปลง” และกิจกรรมสร้างความเข้าใจเชิงวัฒนธรรมแทน ขอหยุดใช้เสียงผี เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ แต่เรายังยืนหยัดปกป้องแผ่นดินไทยด้วยวิธีที่สร้างสรรค์และถูกต้องอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่