สถานการณ์แนวชายแดนไทย–กัมพูชา เริ่มปะทุตั้งแต่เดือน ก.ค.2568 เมื่อทหารกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ลอบวางกับระเบิดในเขตแดนไทย ส่งผลให้ทหารไทยขาขาด 2 นาย บาดเจ็บหลายราย จากนั้นกัมพูชายกระดับใช้ปืนใหญ่ จรวด BM–21 โจมตีเป้าหมายพลเรือน บาดเจ็บ 36 คน เสียชีวิต 15 ราย ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 1.5 แสนคน ก่อนหน้านั้น สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ปล่อยคลิปเจรจากับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในขณะนั้นพรรคภูมิใจไทยที่กำลังถูกบีบออกจากรัฐบาล ชิงถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล ตามด้วยสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา เสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลดีผลเสียยกเลิก MOU 43–MOU 44ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา ต่างก็ประชุมลับเพราะมีข้อมูลบางชุดละเอียดอ่อน สุ่มเสี่ยงกระทบต่อความมั่นคง เมื่อตั้ง กมธ.มีหลายครั้งที่ต้องประชุมลับ เอกสารลับที่สุดบางชุดห้ามถ่ายสำเนาแจก แต่ให้เปิดอ่านได้ก่อนเก็บเข้าตู้เซฟ ท่ามกลางกระแสชาตินิยมพุ่งติดเพดาน สังคมเชื่อมั่นกองทัพมากกว่าสถาบันทางการเมือง เมื่ออำนาจพลิกขั้วพรรคภูมิใจไทยตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย ได้แถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปจะทำประชามติเรื่องยกเลิก MOU 43–44 กลายเป็นประเด็นที่ประชาชนสนใจ เมื่อผลสำรวจนิด้าโพลชี้กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นควรทำประชามติ แต่ประ ชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เข้าใจรายละเอียด MOU ทั้ง 2 ฉบับประชามตินับเป็นกลไกสำคัญตามระบอบประชาธิปไตย การเปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมชี้ขาด การกระบวน การรณรงค์ ให้ข้อมูลต้องโปร่งใส รอบด้าน ไม่ชี้นำ แต่การให้ข้อมูลผลได้ผลเสีย ยกเลิก MOU 43 และ 44 ข้อมูลหลายส่วนมีความอ่อนไหว คือสิ่งที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ตั้งข้อสังเกตขณะที่การออกเสียงประชามติต้องไม่ชี้นำ โดย พ.ร.บ.ประชามติกำหนดไว้ชัดเจน โดยกำหนดให้รัฐบาลและ กกต.ต้องให้ข้อมูลรอบด้าน ทั้งข้อดี ข้อเสีย แม้รัฐบาลเตรียมใช้สื่อของรัฐเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจ แต่รัฐบาลและกกต.สุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากข้อมูลที่อ่อนไหวไม่สามารถเปิดให้ประชาชนรับรู้ได้ดังนั้น ทางออกที่ดี ครม.ควรใช้อำนาจ ฉีก MOU ทั้ง 2 ฉบับ แต่ถ้ายังขืนดันทุรังเดินหน้าทำประชามติ ก็อดมองไม่ได้ว่านักการเมืองไม่ว่าอยู่ฝ่ายไหน ล้วนหวังผลตอบแทนจากลัทธิชาตินิยม โดยไม่สนใจปัญหาที่จะเกิดขึ้นในการทำประชามติ และผลเสียหายที่จะเกิดขึ้นในการจัดการปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม