วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมมีข่าวดีที่สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย และส่งผลบวกต่อการท่องเที่ยวมาเล่าสู่กันฟัง นั่นคือแหล่งท่องเที่ยวเมืองเก่าสุโขทัย (Mueang Kao Sukhothai) ได้รับการรับรองมาตรฐาน Green Destinations Certification Programs for Destinations ในระดับ Gold Award จาก Green Destinations องค์กรอิสระที่ไม่แสวงหาผลกำไรจากประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ดำเนินงานส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ถือเป็นเหรียญทองที่ 2 ต่อจากเมืองเก่าน่านที่ได้รับรางวัลเมื่อปีที่แล้วเมืองเก่าสุโขทัยประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ได้คะแนน 8.6 จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน เนื่องจากมีการบูรณาการแนวคิดความยั่งยืนเข้ากับการบริหารจัดการเชิงพื้นที่มาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน โดยใช้ แนวทางตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลกทั้ง 38 ข้อของ GSTC คณะกรรมการของ Green Destinations ให้เหรียญทองโดยประเมินว่า เมืองเก่าสุโขทัยมีความโดดเด่นที่ชัดเจนใน 4 ด้าน ประกอบด้วยด้านประเพณีและวัฒนธรรม (Culture & Tradition) ในฐานะที่เป็นแหล่งมรดกโลก สุโขทัยไม่ได้เพียงแค่รักษาโบราณสถานได้อย่างดีเยี่ยมเท่านั้น แต่ยัง อนุรักษ์สินทรัพย์ทั้งที่จับต้องได้ (Tangible Heritage) และจับต้องไม่ได้ (Intangible Heritage) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญคือ การนำคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมมาสร้างมูลค่าเพิ่ม ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์และกิจกรรมที่สร้างสรรค์ ทำให้มรดกทางวัฒนธรรมสามารถหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างยั่งยืนโบราณสถานและโบราณวัตถุภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยได้รับการดูแลรักษา และบริหารจัดการ โดยคำนึงถึงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ความสมบูรณ์ของพื้นที่ ขณะที่ภูมิปัญญางานหัตถกรรม โดยเฉพาะเครื่องสังคโลกที่เป็นอัตลักษณ์เฉพาะของสุโขทัย ก็ได้รับการต่อยอดเชื่อมโยงภูมิปัญญาดั้งเดิมกับแนวคิดร่วมสมัย เกิดเป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ที่นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ ทดลอง และสัมผัสได้ด้วยตนเอง เช่น การปั้นสังคโลกหรือเขียนลายบนภาชนะดินเผาหรือเสื้อยืด แนวทางนี้ช่วยให้รักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้ได้ และมรดกนั้นมีชีวิตอยู่ในวิถีปัจจุบันของผู้คนความเป็นอยู่ที่ดีของคนในชุมชน (Social Well–being) เมืองเก่าสุโขทัยแสดงให้เห็นถึง ความรับผิดชอบต่อสังคม อย่างจริงจัง ด้วยการจัดตั้ง คณะกรรมการเฉพาะกิจดูแลสวัสดิภาพความเป็นอยู่ที่ดีของทั้งผู้อยู่อาศัยในพื้นที่และนักท่องเที่ยว มีการประชุมอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง ร่วมกันวางแผน แก้ไข และติดตามประเด็นสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย เช่น ติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดเสี่ยง จัดเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครดูแลนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล การปรับปรุงเส้นทางจักรยานและทางเดินเท้า พร้อมยึดหลักการดูแลความปลอดภัยต้องเริ่มจากการดูแลประชาชนในพื้นที่ก่อน นักท่องเที่ยวก็จะปลอดภัยไปด้วยด้านการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Destination Management) ได้วางรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนมานานหลายปี ทั้งในมิติของการบริหารจัดการ การพัฒนาสังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม มีการประสานงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมให้ชุมชนเป็นเจ้าของทรัพยากรและมีบทบาทในการดูแลพื้นที่ ทำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชีวิตท้องถิ่น และเห็นความตั้งใจของคนในพื้นที่ที่ช่วยกันรักษาเมืองมรดกโลกให้คงอยู่ด้านการส่งเสริมภาคธุรกิจและการสื่อสาร (Business & Communication) ภาคเอกชนในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร ธุรกิจบริการ ตระหนักรู้และให้คุณค่ากับการปฏิบัติที่เน้นความยั่งยืนเป็นอย่างสูง สถานประกอบการจำนวนมากได้รับมาตรฐานสากล อาทิ Green Hotel, Green Restaurant, Good Travel Seal, Green Production สะท้อนถึงคุณภาพการบริการที่สอดคล้องกับหลักการอนุรักษ์รักษาสิ่งแวดล้อมในงานประกาศรางวัลครั้งนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยว 5 แห่งในพื้นที่ขององค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ได้รับรางวัลแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แหล่งของโลก ประจำปี 2025 พ่วงมาด้วย วันเสาร์หน้าจะมาเล่าให้ฟังต่อครับ.ลมกรดคลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม