เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่แข่งขันกันดุเดือดที่สุด สำหรับธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงาม แม้จะได้รับแรงหนุนจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และการเพิ่มขึ้นของลูกค้า “Medical Tourism” แต่กำลังซื้อในหลายประเทศก็หดหายตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก คงจะมีก็แต่ “เกาหลีใต้” ที่เติบโตสวนทางชาวบ้านในขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่า ปี 2026 ธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามของไทย ซึ่งมีมูลค่าราว 75,200 ล้านบาท จะโตชะลอลง เหลือเพียง 1.0% เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงต่อเนื่อง และภาวะเศรษฐกิจที่กดดันกำลังซื้อของลูกค้า เจ้าแห่งอุตสาหกรรมความงามโลกอย่าง “เกาหลีใต้” กลับมีแนวโน้มจะเติบโตต่อเนื่องทุกปีไปจนถึงทศวรรษหน้าเบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจศัลยกรรมและเสริมความงามในเกาหลีใต้ เกิดขึ้นจากหลายปัจจัยที่ร่วมด้วยช่วยกันเขย่าให้ตลาดโต ปัจจัยแรกคือ “ความหนาแน่นของแพทย์, คลินิก และการแข่งขันที่ไดนามิก” เกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนศัลยแพทย์ต่อประชากรมากที่สุด นักศึกษาแพทย์เกาหลีใต้มุ่งแต่จะเรียนแพทย์ผิวหนังและศัลยกรรมตกแต่ง เพราะได้เงินมากกว่า และมีงานทำทันทีหลังเรียนจบ เกาหลีใต้ยังมีคลินิกเสริมความงามกระจายตัวอยู่ในเมืองใหญ่อย่างหนาแน่น โดยเฉพาะย่านกังนัม, ซอโช, มาโปจุง และซงเปา ด้วยการแข่งขันที่สูงมาก ส่งผลให้แต่ละคลินิกต้องหาจุดต่าง ไม่ใช่แข่งขันกันแค่เรื่องราคา“รัฐบาลเกาหลีใต้ผลักดันให้ “K–Beauty” เป็นซอฟต์พาวเวอร์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ” รับไม้ต่อจากอาหาร, สินค้าเทคโนโลยี, แฟชั่น, K-Pop และ K-Content โดยขอบเขตของ “K–Beauty ยุคใหม่” ไม่ได้จำกัดแค่เครื่องสำอางและสกินแคร์ส่งออก แต่จะครอบคลุมถึงธุรกิจศัลยกรรม, คลินิกเสริมความงาม, อุปกรณ์, เวชสำอาง และการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ ที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้ให้พื้นที่ทดลองสำหรับนวัตกรรมใหม่ๆ และมีความยืดหยุ่นด้านกฎระเบียบมากกว่าหลายประเทศ โดยคลินิกในเกาหลีใต้สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ เช่น เซลล์บำบัด มาใช้ได้เร็วกว่าในหลายประเทศตะวันตกอีกหนึ่งปัจจัยหนุนให้โตเร็วคือ “มีระบบอุตสาหกรรมแบบครบวงจรไม่ต้องพึ่งพาใคร” ในเกาหลีใต้มีครบทั้งบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และเครื่องมือ, บริษัทพัฒนาเวชสำอาง, เครือข่าย R&D ไปจนถึงมหาวิทยาลัยแพทย์ และโรงพยาบาลต้นแบบ“การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” คือตัวเร่งโมเมนตัมสำคัญ รัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยวทางการแพทย์ รวมถึงการทำศัลยกรรมและเสริมความงาม ให้ได้ 700,000 คน ภายในปี 2027 ทว่า ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคมของเกาหลีใต้ บ่งชี้ว่า ในปี 2024 มีจำนวนชาวต่างชาติที่เดินทางมาเพื่อการท่องเที่ยวทางการแพทย์เกินเป้าไปแล้วถึง 1.17 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากปี 2023 โดยใช้จ่ายเงินมากกว่า 860 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันดับหนึ่งของทัวร์ทำสวยคือ การทำหัตถการด้านผิวหนัง รองลงมาเป็นการทำศัลยกรรมพลาสติก และการแพทย์เฉพาะทางความคึกคักของ “ตลาดทัวร์ทำสวยในเกาหลีใต้” ทำให้คลินิกหลายแห่งต้องจ้างพนักงานนานาชาติมาให้บริการอย่างเข้าถึง และแข่งกันสร้างประสบการณ์เหนือระดับให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพรีเมียมเฉพาะตัว ซึ่งหาไม่ได้ในประเทศบ้านเกิดทั้งนี้ มีการคาดกันว่ามูลค่าตลาดของ “ทัวร์ทำสวย” จะเพิ่ม ขึ้นเป็น 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2033 ความฮอตของอุตสาหกรรมดังกล่าวทำให้คลินิกศัลยกรรมและเสริมความงามในเกาหลีใต้ผุดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2024 มีจำนวน 284 แห่ง เพิ่มจาก 193 แห่ง เมื่อปี 2023ความสำเร็จของการใช้วัฒนธรรมเพลง, ดารา, ไอดอล และซีรีส์ ทำให้รูปลักษณ์ความงามในแบบฉบับเกาหลี กลายเป็นอุดมคติในฝันของคนครึ่งค่อนโลก และเพื่อรับมือกับความอิ่มตัวของผู้บริโภคในประเทศ คลินิกเกาหลีหลายแห่งได้ขยายสาขาออกนอกประเทศ เพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่ๆรัฐบาลและเอกชนร่วมมือกันทำเป็นระบบขนาดนี้ ยิ่งตอกย้ำ ว่าความสำเร็จของอุตสาหกรรมความงามในเกาหลีใต้ ไม่ได้เกิดเพราะโชคช่วย!!มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม
