เมื่อวานผมย้อนอดีตกลับไป 40 ปี สู่ พ.ศ.2528 ที่ประเทศไทยเรามีโอกาสเป็น “เจ้าภาพ” เป็นครั้งแรกนับแต่ขยายเกมส์ให้ใหญ่ขึ้นจาก “เซียพเกมส์” หรือ “กีฬาแหลมทอง” เป็นกีฬาของชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ “ซีเกมส์”ผมเล่าด้วยว่า เมื่อเปลี่ยนเป็นซีเกมส์แล้ว ในการแข่งขัน 4 หนแรก อินโดนีเซีย คว้าตำแหน่งเจ้าเหรียญทองไปครองทั้ง 4 ครั้ง...ในขณะที่ไทยเราได้แค่ที่ 2 มา 3 ครั้งจึงตั้งเป้าหมายว่าในโอกาสที่การแข่งขันเวียนมาถึงคิวบ้านเราเป็นเจ้าภาพ...เราควรจะต้องทำให้สำเร็จ...ครองเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ 1985 หรือ 2528 หรือซีเกมส์ 13 ให้จงได้เป็นที่มาของโครงการ “เจ้าเหรียญทองซีเกมส์” ที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โดยท่าน ผอ.กำพล วัชรพล ประกาศเป็นสื่อกลางหาสปอนเซอร์มาสนับสนุนสมาคมกีฬาสมาคมละ 1 ล้านบาท ทุกสมาคมพร้อมทั้งตั้งคำถามว่า “เราทำได้” หรือเปล่า? ทบทวนความ ทรงจำของท่านผู้อ่านทิ้งท้ายไว้คำตอบก็คือ เราทำสำเร็จ ครับ ได้เหรียญทองรวม 92 เหรียญ ทิ้ง อินโดนีเซีย ซึ่งได้ 62 เหรียญไปอย่างขาดลอย โดย ฟิลิปปินส์ ได้ที่ 3 รวม 43 เหรียญทองนำความชื่นใจและภาคภูมิใจอย่างยิ่งมาสู่คนไทยทั้งประเทศที่นักกีฬาของเราสามารถโค่น อินโดนีเซีย ลงได้ในที่สุดทุกสนามการแข่งขันคนไทยจะเข้าไปเชียร์แบบแน่นขนัด ส่งเสียงเชียร์กึกก้อง รวมทั้งที่นั่งชมอยู่หน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสดทั่วประเทศไทยอย่าลืมว่าปี 2528 เป็นปีที่เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวอย่างแรง หลังรัฐบาลป๋าเปรมประกาศลดค่าเงินบาท จนเกิดข่าวลือว่า ฝ่ายทหารไม่พอใจ จะมีการปฏิวัติภายหลัง พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก ให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยกับนโยบายลดค่าเงินบาทของ ป๋าเปรม ในคืนลอยกระทง 2527 ที่ผมเพิ่งเล่าไปอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อนแต่แล้วป๋าเปรมก็สยบข่าวลือลงได้ และหันมาสั่งการให้ สภาพัฒน์ ซึ่งมี ดร.เสนาะ อูนากูล เป็นเลขาธิการ ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษเพื่อใช้ประโยชน์จากการลดค่าเงินบาทให้เต็มที่...และคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยภาครัฐ ภาคเอกชน ก็จับมือกันทำให้เศรษฐกิจไทยกระเตื้องอย่างรวดเร็ว และกลายเป็น “เสือตัวที่ 5” แห่งเอเชีย ในปีถัดมาครั้นพอถึงเดือนธันวาคมมีการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ เราก็คว้าเจ้าเหรียญทอง ล้มอินโดนีเซียได้อีก...จึงไม่แปลกอะไรที่คนไทยเราจะมีความสุขอย่างยิ่งในปีดังกล่าวนิทานจากความเป็นจริง 2 เรื่องนี้ เกิดขึ้นในห้วงเวลาเดียวกันคือปี 2527 ต่อปี 2528 และพิสูจน์ให้เห็นถึง “คุณสมบัติ” อันดีงามของคนไทยประการหนึ่ง...นั่นคือ ทุกครั้งที่คนไทย “สามัคคี” ร่วมแรงร่วมใจกันเรามักจะประสบความสำเร็จเสมอๆปี 2568 นี้เราต้องเผชิญปัญหาเศรษฐกิจที่หนักมาก และรัฐบาลอนุทินก็ตั้งทีม เศรษฐกิจ เชิญคนเก่งมาร่วมคณะรัฐมนตรี...ผมจึงเล่านิทานเรื่องที่ 1 ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนขอให้ทุกๆท่านมุ่งมั่นทำงานเต็มที่...เชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะกระเตื้องขึ้นมาได้ดังนั้นเมื่อมีการทำโพลของ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เรื่อง “ซีเกมส์ 2025” ที่เราจะเป็นเจ้าภาพในปลายปีนี้ขึ้นมาอีก ผมจึงขออนุญาตเล่านิทานเรื่องที่ 2...ซึ่งเกิดขึ้นในปีเดียวกันเรื่องเศรษฐกิจผมไม่หวังมากนัก เพราะมันยากอย่างที่กราบเรียนไว้แล้ว แต่เรื่องกีฬาผมหวังไว้มากพอสมควรจึงขอฝากรัฐบาลไว้ด้วยว่าจากโพลดังกล่าวคนไทยทั่วๆไปก็หวังมากเช่นกัน และถ้าเราไม่สามารถคว้า “เจ้าซีเกมส์” มาครองได้ในเดือนธันวาคม 2568 นี้ ละก็หลังประกาศยุบสภาเดือนมกราคม 2569 ระวังคะแนนของนายกฯอนุทิน ชาญวีรกูล ที่พุ่งสูงๆอย่างทุกวันนี้ จะดิ่งลงอย่างฮวบฮาบเอานะครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม