พอเห็นลำแสงส่องสู่เส้นทางสันติภาพผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) ไทย-กัมพูชา เห็นพ้อง 13 ข้อสรุปหยุดยิง หวังคลี่คลายข้อพิพาทชายแดน เลี่ยงฉากปะทะทหาร 2 ประเทศกำชับข้อตกลงหนักแน่น ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท หยุดการโจมตีพลเรือนและเป้าหมายทางทหารทุกพื้นที่ในทุกกรณี ให้ทหารแต่ละฝ่ายอยู่ในที่ตั้ง ห้ามเคลื่อนย้ายหรือเพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดน หรือยั่วยุสร้างความตึงเครียดรวมไปถึงการปล่อยตัวเชลยศึกกลับประเทศ การหยุดเผยแพร่เฟกนิวส์ การวางแนวทางหารือในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคี คอยเจรจาห้ามศึกหน้างานกรณีเกิดความขัดแย้งพร้อมตั้งแท่นจัดประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) ในอีก 2 สัปดาห์ ติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลง ต่อยอดไปสู่การประชุมจีบีซีอีกครั้งในอีก 1 เดือนข้างหน้าแนวโน้มสถานการณ์ชายแดนหักเหจากการสาดกระสุนในสนามรบมาเปิดโต๊ะเจรจา สร้างสันติภาพจริงจัง แต่ก็ยังต้องจับตาพ่อลูกเจ้าเล่ห์ “ฮุน เซน–ฮุน มาเนต” ผู้นำกัมพูชา จะจริงใจสงบศึกหรือไม่ทหารไทยยังต้องตรึงกำลังคุมเข้มชายแดนใกล้ชิด เฝ้าระวังเกมตุกติกฉวยจังหวะลอบกัด ในช่วงหยุดยิงจนกว่าสถานการณ์จะนิ่ง กลับเข้าสู่ภาวะปกติรัฐบาลและกองทัพตั้งการ์ดสูง ระวังศึกนอกประเทศ ในสภาวะที่เริ่มกลับมาตั้งหลักได้ เป็นฝ่ายคุมเกมอยู่เหนือกัมพูชา เช่นเดียวกับศึกในประเทศที่รัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร กำลังเร่งเครื่องสร้างแต้มต่อให้อยู่เหนือศัตรูทางการเมืองตามฉากที่ “บิ๊กอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กำลังมันมือไล่ทุบฝ่ายค้านมือใหม่ พรรคภูมิใจไทยจนเมาหมัดเปิดฉากรุกหนัก เด้งบิ๊กข้าราชการสายสีน้ำเงินลอตใหญ่ ระดับผู้ว่าฯและอธิบดี กระทรวงมหาดไทย ตีคู่ไปกับการทำลายล้างอาณาจักรเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ฐานที่มั่นผู้ทรงอิทธิพลตัวจริงในพรรคภูมิใจไทยอารมณ์ฮึกเหิมสั่งการกรมที่ดินกางข้อกฎหมายไล่บี้ยึดพื้นที่ขุมทรัพย์ใจกลางเมืองอย่างสนามฟุตบอล สนามแข่งรถ ตลอดจนพื้นที่ชายขอบรวมไปถึงการเหยียบคันเร่ง เช็กบิลคดีฮั้วเลือก สว.ที่มี 136 สว.สีน้ำเงินเป็นตัวประกัน ให้ล้มเป็นโดมิโนไปถึงผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย ครูใหญ่บุรีรัมย์ล่าสุด สว.กลุ่มอิสระล่าชื่อยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญถอดถอน 136 สว.สีน้ำเงิน ขยันสาดน้ำมันเข้ากองไฟ ให้คดีฮั้ว สว.ลุกโชน เป็นที่จับจ้องของสังคมตลอดเวลาสถานการณ์ที่ค่ายสีน้ำเงินตกเป็นฝ่ายตั้งรับ ทำได้แค่ส่งทีมแถลงตอบโต้ทางกฎหมาย สกัดเกม เช็กบิลเขากระโดงและคดีฮั้วเลือก สว.เพื่อไทยพับสนามบุกภูมิใจไทย ทั้งกรมที่ดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แข็งขันลุยยึดที่ดิน และเช็กบิลองคาพยพทีมเซราะกราว ทำลายล้างคู่แค้นการเมืองขณะที่อีกทางต้องเร่งกู้ศรัทธา สร้างผลงานด่วนจี๋ ทั้งการสั่งเด้ง ผวจ.อุบลราชธานี ที่ชักช้าไม่กล้าเบิกจ่ายงบประมาณฉุกเฉินช่วยเหลือสถานการณ์แนวชายแดน หรือกรณี มท.1 มอบนโยบายเร่งด่วนกำราบยาเสพติดผนึกกำลังมหาดไทย ตำรวจ สาธารณสุข ตั้้งทีมเฉพาะกิจกวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ ขีดเส้น 3 เดือน ให้หมู่บ้าน ชุมชนปลอดพ่อค้ายา–ผู้เสพสร้างความแตกต่างให้เห็นการเปลี่ยนแปลงกระทรวงมหาดไทย ยุคพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยซีนทวงคืนความเชื่อมั่น แก้เกมความเสื่อมศรัทธาจากภาวะไฟสงครามไทย-กัมพูชา ที่ทำเรตติ้งรัฐบาลเพื่อไทยดิ่งเหว เพราะสังคมเชื่อว่า คลิปสนทนา “นายกฯอิ๊งค์–อังเคิล ฮุน เซน” มีส่วนเร่งปฏิกิริยาการสู้รบจังหวะเหยียบคันเร่งพรรคเพื่อไทย ประกาศล้างบางยาเสพติด ปัญหาเรื้อรังหมักหมมในสังคมไทย เพื่อกู้วิกฤติศรัทธา พ่วงไปกับการโค่นอำนาจพรรคภูมิใจไทย และเครือข่ายองคาพยพแต่ภายใต้การติดหล่มวิกฤติความเชื่อมั่น ความศรัทธาของประชาชนที่เสื่อมทรุด การที่รัฐบาลจะขยับสร้างผลงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้นทุนความน่าเชื่อถือร่อยหรอที่สำคัญไม่มีอะไรมาการันตีสถานะของ “นายกฯอิ๊งค์” หรือนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะไปต่อได้อีกกี่น้ำ จากคดีทางการเมืองที่งวดเข้ามาเรื่อยๆยิ่งถ้าผลทางคดีออกมาเป็นแง่ลบ ความเชื่อมั่น ความศรัทธาก็ยิ่งกู่ไม่กลับไปกันใหญ่กระดานอำนาจพลิกเมื่อไหร่ สถานะเพื่อไทยอาจเปลี่ยนจากฝ่ายรุกเป็นฝ่ายถูกไล่ได้ทันที!!!ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม