หมู่นี้เมืองไทยมีข่าวดีติดอันดับโลกหลายข่าว สวนทางกับข้อเท็จจริงที่คนไทยรู้สึก เมื่อวันจันทร์ คุณสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรัฐมนตรีคมนาคม ก็แถลงว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ติดอันดับ 1 ของโลกที่มีสายการบินมาใช้บริการมากที่สุดถึง 113 สายการบิน ชนะ สนามบินปารีส ชาร์ล เดอโกลล์ ของฝรั่งเศส ชนะ สนามบินดูไบ ของยูเออี ชนะ สนามบินเซี่ยงไฮ้ผู่ตง ของจีน ชนะ สนามบินนาริตะ ของญี่ปุ่น และชนะ สนามบินชางงี ของสิงคโปร์ที่เป็นคู่แข่งไทย สนามบินชางงีมีสายการบินไปใช้บริการแค่ 82 สายการบิน น้อยกว่าสุวรรณภูมิถึง 31 สายการบิน สุดยอดจริงๆแต่เมื่อดูศักยภาพสนามบินสุวรรณภูมิ ปัจจุบัน รับผู้โดยสารได้สูงสุด 60 ล้านคนต่อปี ขณะที่ สนามบินชางงีมีศักยภาพรับผู้โดยสารได้สูงสุด 90 ล้านคนต่อปี แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ต้องชื่นชมว่าทำได้สุดยอดมากเช่นเดียวกับ กรุงเทพมหานคร ที่ได้รับการยกย่อง เป็นเมืองที่ดีที่สุดอันดับ 2 ของโลก จากนิตยสาร Time Out และ เมืองเชียงใหม่ ก็ได้รับการยกย่อง เป็นเมืองที่ดีที่สุดในโลกอันดับ 2 จากนิตยสาร Travel+Leisureเมืองไทยมีของดีมากมายขนาดนี้ ทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงมาเที่ยวไทยลดลง อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะครับ คุณสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพิ่งแถลงหลังจากที่ประชุมกับ นายกฯแพทองธาร ชินวัตร แล้ว จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2568 นี้จะดันให้ได้ที่ 35 ล้านคน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 39 ล้านคน ของจริงจะได้ 35 ล้านคน อย่างที่คาดการณ์หรือไม่ ต้องดูฝีมือของรัฐบาลนายกฯแพทองธาร เห็นเก่งเรื่องท่องเที่ยว เรื่อง Soft Power จะสามารถผลักดันให้ถึงเป้าได้หรือไม่ ส่วนปีหน้า 2569 คุณสรวงศ์ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติไว้แค่ 36 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีนี้เพียง 1 ล้านคนสาเหตุที่ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ไม่กล้าตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติสูงถึง 39-40 ล้านคนเหมือนปีนี้ คุณสรวงศ์ แถลงว่า รัฐบาลปรับยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวเป็น “เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ” ด้วยแนวทาง “สะอาด สะดวก ปลอดภัย และทันสมัย” และขับเคลื่อนด้วย 5 ปรากฏการณ์ใหม่ คือ New Customer, New Product, New Partnership, New Marketing Strategy และ New KPI ก็เอาใจช่วยครับ หวังว่ารัฐบาลจะทำสำเร็จ เพราะ การท่องเที่ยว คือ เครื่องยนต์เศรษฐกิจเดียวที่ยังเหลืออยู่ เครื่องยนต์อื่นรัฐบาลทำเจ๊งไปหมดแล้ว ถ้าเครื่องยนต์ท่องเที่ยวอ่อนแรง เศรษฐกิจไทยก็ยิ่งอ่อนแรงตามทีนี้ก็มาถึงคำถามสำคัญ ทำไมนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะ “นักท่องเที่ยวจีน” จึงมาเที่ยวไทยลดลงอย่างมาก ทั้งที่ไทยเคยเป็นเมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวจีนมาก่อน วันก่อนผมเพิ่งอ่านโพสต์ “เขียนไว้ให้เธอ” ของ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ เรื่อง “เพราะฉันไม่ดีหรือเพราะเธอเปลี่ยนไป” เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวจีน มีเนื้อหาข้อมูลดีมาก ผมจึงขออนุญาต “น้องโจ้” ตรงนี้ นำเนื้อหาบางส่วนมาลงในคอลัมน์นี้นะครับ เผื่อข้อมูลดีๆเหล่านี้จะไปถึง นายกฯแพทองธาร และ คุณสรวงศ์ รัฐมนตรีการท่องเที่ยวฯ จะได้มีข้อมูลจริงเพิ่มขึ้นเมืองไทยในสายตานักท่องเที่ยวจีนวันนี้มีแต่เรื่องน่ากลัว การหลอกลวงด้วยคอลเซ็นเตอร์ จีนเทาเต็มเมืองไทย ข่าวตึก สตง.ถล่มน่ากลัวมาก จนภาพลักษณ์ประเทศไทยทรุดลง กระทบไปถึงจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่รู้สึกว่าเมืองไทยไม่ปลอดภัย จึงหันไปเที่ยวเวียดนามแทนในบทความนี้ คุณธนา ได้คุยกับ “น้องเฟิร์น” ที่ทำธุรกิจกับจีนมีบริษัทอยู่ที่จีน น้องเฟิร์นเล่าให้ฟังว่า “ช่วงหลายปีที่ผ่านมาเมืองจีนเจริญขึ้นมาก และมีความมั่นใจในชาติตัวเองอย่างที่สุด เพราะเกิดจากความเอาจริงของภาครัฐ และทำได้จริงในหลายๆ เรื่อง ในช่วงโควิดก็คิดวัคซีนได้ก่อน คุมโรคได้ดี เก่งขนาดสร้างโรงพยาบาลหนึ่งได้ภายใน 22 ชั่วโมงในช่วงนั้น...คนจีนเองในเวลาไม่กี่ปีก็เคารพกฎ มีวัฒนธรรม เคารพกฎระเบียบมากขึ้นมาก การเข้าคิวยาวๆไม่แซงคิวกลายเป็นเรื่องปกติ เป็นต้น”อ่านแล้วก็ทึ่ง คนจีนเปลี่ยนไปแล้วอย่างรวดเร็ว พรุ่งนี้อ่านต่อครับ."ลม เปลี่ยนทิศ"คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม