ชื่อชั้นเป็นที่รู้จักในวงการอาหารเป็นอย่างดี “ชลทิพย์ ระยามาศ” ผู้ทรงอิทธิพล หรือ Influencer ในด้านอาหารของไทย ที่สวมหมวกทั้งนักรีวิวและนักธุรกิจหน้าใหม่ในวงการอาหาร ซึ่งได้นำประสบการณ์ในการลิ้มรสความอร่อยมาสร้างสรรค์ขนมกรุบกรอบที่ถูกใจนักชิมคุณโบว์ลิ่ง หรือโบ–ชลทิพย์ ระยามาศ เจ้าของเฟซบุ๊กแฟนเพจ @eatandshout หรือ “Eat & Shout พี่เชาท์พากินพาเที่ยว” และอินสตาแกรม @eatandshout ที่คนทั่วไปมักรู้จักในชื่อ “พี่เชาท์” ตามชื่อเพจ เกริ่นถึงการก้าวมาสู่วงการนักชิมว่า เริ่มต้นจาก “โบ” ชอบกิน แล้วชอบถ่ายภาพอาหารลงใน Instagram เหมือนเรารีวิวอาหาร แล้วเพื่อนๆมักชอบมาถามว่าร้านไหนอร่อย โบเลยสร้างเพจ “Eat & Shout” ขึ้นมาว่า โอเค ร้านนี้เราไปกินแล้วอร่อยดี ทำเป็นงานอดิเรก ส่วนงานประจำคือ ช่วยธุรกิจทําโรงงานกระสอบของที่บ้าน เป็นกระสอบใส่ข้าวส่งออก รวมถึงกระสอบใส่อาหารสัตว์ ใส่เคมีภัณฑ์ จากนั้นมีงานรีวิวเข้ามาเยอะ คุณแม่เลยบอกว่า ถ้างานอดิเรกที่เราเคยชอบแล้วไปได้ดี ลองออกมาทําเต็มตัวไหม โบ เลยมาทําเต็มตัวในปี 2561“ตั้งแต่ปี 2015 โบเริ่มไปเป็นกรรมการรายการทีวี รายการทําอาหารต่างๆ และปี 2015 โบก็ไปรับรางวัล Influence Asia Award ที่สิงคโปร์ เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ พอปี 2018 เลยมาทําเป็นจริงเป็นจัง จนปัจจุบัน Facebook : eat & shout พี่เชาท์พากินพาเที่ยว มีคนติดตาม 872,000 Instagram : eatandshout มียอดติดตาม 477,000 ส่วน TikTok : eatandshout มียอดติดตาม 151,700” ชีวิตนักชิมคนนี้ได้ก้าวสู่ธุรกิจอาหารโดยได้มาสวมหมวกเจ้าของธุรกิจอาหารในช่วงวิกฤติโควิด โดย คุณโบ เล่าว่า ช่วงโควิดออกไปรีวิวอาหารไม่ได้ โบ เลยเปลี่ยนมาเป็นการแจกสูตรอาหาร ให้คนที่อยู่บ้านสามารถทําเมนูต่างๆกินที่บ้านได้ โดยให้คุณแม่มาแจกสูตรอาหาร ทําไปทํามากลายเป็นว่าคนดูขี้เกียจที่จะทําตาม ก็เลยขอให้คุณแม่ทําขาย จึงเป็นที่มาของ Chao Shop ขายก๋วยเตี๋ยวหลอด เผือกทรงเครื่อง กุยช่าย จุ๋ยก้วย ช่วงนั้นขายดีมาก ต่อมาเพื่อนๆอยากจะชิม “กุยช่ายทอด” แต่กุยช่ายทอดพอไปถึงมืิอลูกค้าแล้วจะอมน้ำมันไม่น่ารับประทาน เราก็เลยพัฒนาออกมาเป็น “กุยช่ายกรอบ” ชื่อว่า ShoutSnacks ซึ่งเป็นกุยช่ายกรอบพร้อมน้ำจิ้ม แผ่นบางกรอบ แป้งน้อยและใช้น้ำมันรำข้าว ซึ่งจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์ และผ่านตัวแทนจำหน่ายต่างๆ สั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์หรือ LINE OA: @shoutsnacks “ด้วยความเป็นนักชิมทําให้เราไม่สามารถทําออกมาแค่พอดี หรือแค่โอเค กินได้ สําหรับโบมันไม่ได้ คือสําหรับโบ คือกินเข้าไปแล้วแบบ เฮ้ย มันใช่ มันเหมือนเรากินกุยช่ายทอดจริงๆ เราเพิ่มความกดดันเพราะว่าคนเขาเชื่อว่าเราเป็นนักชิม เราน่าจะทําอะไรได้ดี ในการทำงานโบภูมิใจทุกบทบาท ในการเป็นนักชิมเราก็ได้ช่วยร้านค้า เศรษฐกิจตอนนี้ไม่ค่อยดี เราก็ยิ่งต้องช่วยเหลือกันมากกว่าเดิม โบไม่ค่อยมี Negative feedback ลงไป ก็คือ ถ้าร้านไหนที่อร่อย โบก็จะเขียนชม แต่ถ้าร้านไหนที่ไม่อร่อย โบก็อาจจะบอกในมุมที่โบชอบ เราไปชิมอาหารต่างๆ เราก็ต้องบอกความจริงกับผู้ติดตามเราด้วย ในขณะที่เราพูดความจริงกับผู้ติดตาม มันก็จะต้องไม่ไปทําให้ร้านเขาเสียหาย เช่นเดียวกับการทำธุรกิจ จะพูดง่ายๆคือ โบทํางานทุกอย่างด้วยใจจริงๆ”...บทสรุปการทำงานของคนเก่งคนนี้!อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่