ในขณะที่มนุษย์เรากำลังถกเถียงกันว่า AI ตัวไหนเก่งสุด ระหว่าง ChatGPT, Gemini, Claude และพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อใช้งานมันให้ได้ประโยชน์สูงสุด รู้หรือไม่ว่ายิ่งเราพัฒนาวิธีการใช้ AI ได้เก่งขึ้นเท่าไหร่ สั่งงานได้เจาะจงชัดเจนมากขึ้นเท่าไหร่ มอบความไว้วางใจให้มันมากเท่าไหร่ อำนาจการควบคุมและตัดสินใจก็จะตกไปอยู่ในมือของ AI เร็วขึ้นเท่านั้นในหนังสือ “โฮโมดีอุส” ประวัติย่อของวันพรุ่งนี้ “ดร.ยูวัล โนอาห์ แฮรารี” พาพวกเรามองไปยังอนาคตที่ไกลออกไปพอสมควร หลายคนไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง และมองว่าเป็นความฝันเฟื่องของนักประวัติศาสตร์คนหนึ่ง กระนั้น ผู้เขียนย้ำตลอดว่ามันเป็นแค่ “อนาคตทางเลือกแบบหนึ่ง” ซึ่งอาจเกิดขึ้นหรือไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่นักประวัติศาสตร์อย่างเขาอยากจะออกมาเตือนล่วงหน้า เพื่อช่วยป้องกันมิให้เกิดเรื่องร้ายๆขึ้นหนึ่งในบทที่น่าสนใจคือ การคืบคลานเข้ามาของ “เทพพยากรณ์ผู้รอบรู้” เช่น กูเกิล, เฟซบุ๊ก และอัลกอริทึมอื่นๆ ที่วิวัฒนาการต่อไปเป็นผู้แทนของมนุษย์ และสุดท้ายก็กลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเสียเองเพื่อให้เห็นภาพชัด “ดร.ยูวัล” ยกตัวอย่างของ “เวซ” (Waze) แอปพลิเคชันนำทางโดยอาศัยจีพีเอสที่คนขับรถมากมายใช้กันอยู่ในปัจจุบัน “เวซ” ไม่ได้เป็นแค่แผนที่ แต่ผู้ใช้นับล้านๆคนคอยอัปเดตอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูการจราจรที่ติดขัด, อุบัติเหตุรถยนต์ และตำแหน่งรถตำรวจ แอปอัจฉริยะจึงรู้ว่าควรเปลี่ยนแปลงเส้นทางให้หลบหลีกการจราจรติดขัดอย่างไร และจะพาเจ้านายไปยังจุดหมายด้วยเส้นทาง เร็วที่สุดได้อย่างไร ซึ่งไม่นานผู้ใช้งานก็เรียนรู้ว่าเราควรฟังคำแนะนำของ “เวซ” แทนที่จะเชื่อความรู้สึกของตัวเองในตอนแรก อัลกอริทึมของ “เวซ” ทำหน้าที่เป็นแค่ผู้พยากรณ์ ประมาณว่าคุณถาม...เวซตอบ แต่จะตัดสินใจอย่างไรก็ขึ้นกับเจ้านาย กระนั้น เมื่อผู้พยากรณ์เอาชนะความไว้วางใจของเราได้ มันก็จะวิวัฒนาการตัวเองขึ้นเป็นตัวแทนของเจ้านาย เราแค่มอบเป้าหมายสุดท้ายให้มัน อัลกอริทึมสุดฉลาดก็จะลงมือทำให้บรรลุผลโดยที่เราไม่ต้องไปดูแลควบคุมเลย เราเลือกเป้าหมาย แล้วปล่อยให้อัลกอริทึมจัดการทุกอย่างให้การที่มนุษย์ใช้ AI ช่วยแบ่งเบาภาระ เพื่อแลกกับความสะดวกสบาย โดยยอมละทิ้งความเป็นส่วนตัว และบันทึกทุกความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ สุดท้ายแล้ว AI เหล่านี้ก็อาจกลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุด เมื่อมันมีอำนาจมากมายในมือ แถมยังรู้ดีกว่ามนุษย์ซะด้วย มันอาจเริ่มเข้าสิงใจเรา โดยวาง กรอบความต้องการให้เรา และตัดสินใจแทนเราแบบเนียนๆ ไม่ให้ทันรู้ตัว“ดร.ยูวัล” ยกตัวอย่าง “ไมโครซอฟท์” ที่พัฒนาระบบ “คอร์ตานา” (Cortana) ให้เป็น AI ผู้ช่วยส่วนตัว ที่จะผนวกรวมเข้าไปเป็นฟีเจอร์หนึ่งในวินโดว์เวอร์ชันอนาคต ผู้ใช้งานจะถูกกระตุ้นให้ยินยอมให้ “คอร์ตานา” เข้าถึงไฟล์, อีเมล และแอปพลิเคชันต่างๆของพวกเขา เพื่อที่มันจะรู้จักพวกเขา และสามารถเสนอคำแนะนำในเรื่องต่างๆได้โดนใจ “คอร์ตานา” จะเตือนให้ซื้อของบางอย่างในวันเกิดสามี หรือขณะที่เรากำลังจะเข้าประชุม มันอาจเตือนว่าแรงดันเลือดของเราสูงเกินไป และระดับโดพามีนต่ำเกินไป มีแนวโน้มจะทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ จึงควรชะลอการตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ“คอร์ตานา” วิวัฒนาการตัวเองจากผู้พยากรณ์มาเป็นตัวแทนของมนุษย์ ซึ่งเป็นเจ้านายของมัน จากนั้นมันก็จะคุยกันเองระหว่าง “คอร์ตานา” ด้วยกัน และตัดสินใจทำอะไรบางอย่างลับหลังมนุษย์ เพื่อสนับสนุนผลประโยชน์ของเจ้านายตัวเอง ต่อไปใครมี “คอร์ตานา” รุ่นใหม่ล่าสุดกว่าฉลาดกว่า ก็จะได้เปรียบคนอื่นๆหลายช่วงตัว ไมโครซอฟท์ไม่ได้เป็นผู้เล่นเดียวในเกมนี้ แต่ยังมี “Google Now” และ “Siri” ที่กำลังมุ่งหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เช่นเดียวกับ “แอมะซอน” ก็ใช้อัลกอริทึมตามเก็บข้อมูลของลูกค้าสม่ำเสมอ จะได้แนะนำสินค้าให้ตรงใจท้ายที่สุด “ดร.ยูวัล” เชื่อว่ามนุษย์ในอนาคตอาจจะต้องหลอมรวมร่างกายเข้ากับกลุ่มอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, อวัยวะประดิษฐ์ และหุ่นยนต์นาโน เพื่อโกงความตาย!! มนุษย์จะมีอายุยืนยาวถึง 120 ปี จึงอาจไม่ใช่เรื่องฝันเฟื่องแล้ว.มิสแซฟไฟร์คลิกอ่านคอลัมน์ “คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์” เพิ่มเติม