นอกจากเป็นดินแดนแห่งอารยธรรมมายาอันยิ่งใหญ่ ประเทศกัวเตมาลา ในภูมิภาคอเมริกากลาง ยังเปี่ยมด้วยความหลากหลายทางภูมิประเทศและธรรมชาติอันงดงาม ทำให้กลายเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟคุณภาพระดับโลก ที่ได้รับการยอมรับจากนักดื่มกาแฟในวงกว้าง โดยเฉพาะวงการ Specialty Coffee หรือกาแฟพิเศษในงาน “Brewing Culture Across Continents: Guatemala Connects” ที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท เพื่อนำเสนอรสชาติของกาแฟกัวเตมาลาให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น นางชีร์เลย์ เดนนิเซ อากิลาร์ บาร์เรรา เอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศไทย ได้เน้นบทบาทของกาแฟในฐานะ “ภาษาสากล” ที่เชื่อมโยงผู้คนข้ามวัฒนธรรม และความสำคัญของการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม และเศรษฐกิจผ่านเครื่องดื่มแก้วนี้กาแฟกัวเตมาลาขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่กลมกล่อม หอมลึก และมีมิติอันหลากหลาย ซึ่งเกิดจากปัจจัยทางภูมิประเทศและภูมิอากาศของ 8 พื้นที่เพาะปลูกหลัก ได้แก่ แอนติกัว, อัตติลัน, หุบเขาอากาเตนังโก, โคบาน, ไฟรฮาเนส เวเวเตนังโก, นิว ออเรียนเต, รวมทั้งซัน มาร์โคส พื้นที่เหล่านี้มีทั้งดินภูเขาไฟที่อุดมสมบูรณ์ ความสูงจากระดับน้ำทะเลที่เหมาะสม และปริมาณฝนที่พอเหมาะ ส่งผลให้เมล็ดกาแฟที่ได้มีคุณภาพโดดเด่นต่างจากที่อื่นด้วยคุณค่าทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สืบทอดมายาวนาน กาแฟกัวเตมาลาจึงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้” ของชาติ ทั้งยังเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ส่งออกสำคัญที่สร้างรายได้ระหว่างปี 2566-2567 สูงถึง 898.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 29,135 ล้านบาทในโอกาสนี้ ยังมีการเปิดตัวกาแฟเบลนด์ พิเศษ “Great Man” จากความร่วมมือของ Infinix Hause ผสมผสานความละเมียด ของกาแฟไทยเข้ากับเอกลักษณ์ของเมล็ดกาแฟจากกัวเตมาลา ยังมี “Volcan Morning” กาแฟเบลนด์พิเศษพัฒนาร่วมกับ Kaffe Panitch สำหรับให้บริการเฉพาะที่โรงแรมไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิทหากมีโอกาสอย่าพลาดการสัมผัสรสชาติอันลึกซึ้งของกาแฟกัวเตมาลาด้วยตัวคุณเอง.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม
