เมื่อวันที่ 12 ก.พ.นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ตนได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำโดย น.ส.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ ที่ปรึกษา กมธ. น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ รองประธาน กมธ. คนที่หนึ่ง เพื่อหารือการแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นกับเด็ก สตรี ผู้ถูกกระทำความรุนแรงทางเพศ และบุคคลในครอบครัว ซึ่งตนได้เน้นย้ำถึงความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางเพศ และผลกระทบทางสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นกับเด็ก และสตรี เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบร้ายแรงเนื่องจากทำให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง มีโอกาสเป็นโรคจิตเวช 3 เท่า การทำร้ายตัวเอง 4 เท่า การติดสารเสพติด 2.9 เท่า และมีภาวะความเครียดหลังจากเหตุการณ์สะเทือนใจ ถึง 8.2 เท่า และจากข้อมูลของศูนย์พึ่งได้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พบว่า ปี 2566 มีผู้เข้ารับบริการกว่า 12,500 ราย โดย 48% เป็นกรณีความรุนแรงทางร่างกาย 27% เป็นความรุนแรงทางเพศ และ 18% เป็นความรุนแรงทางจิตใจ โดย สธ.มุ่งมั่นแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นระบบ สอดคล้องกับหลักการขององค์การอนามัยโลก (WHO) ผ่านระบบบริการและมาตรการต่างๆ นอกจากนี้ยังมีสายด่วนสุขภาพจิต 1323 ให้คำปรึกษาและประสานงานส่งต่อผู้ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงไปยังหน่วยงานที่เหมาะสม“ในการประชุมร่วมกับ กมธ. ผมได้เล่าว่า เมื่อวันที่ 28 ม.ค.68 ได้ร่วมเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหิดล ประจำปี 2567 โดยหนึ่งในผู้ที่ได้รับรางวัลคือ ศ.โจนาธาน พี. เชฟเพิร์ด ผู้ริเริ่มและพัฒนาคาร์ดิฟฟ์โมเดล นวัตกรรมด้านสาธารณสุข ที่มุ่งลดเหตุความรุนแรงในชุมชน ผ่านการบูรณาการข้อมูลเหตุการณ์ความรุนแรง จากโรงพยาบาล และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ช่วยลดการสูญเสียชีวิต สร้างความปลอดภัยให้กับสังคม จนกลายเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และนำไปใช้ในหลายประเทศ เพราะจากข้อมูลพบว่า ข้อมูลความรุนแรงของตำรวจ จะไม่ครบถ้วนเท่ากับของ รพ. ดังนั้น ถ้า กมธ.ตามไปดูต้นเหตุในชุมชน หมู่บ้าน ครอบครัวได้ ก็จะช่วยลดความรุนแรงได้จำนวนมาก” รมว.สธ.กล่าว.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
