ไทยพบเหยื่อค้ามนุษย์หนีตายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์-สแกมเมอร์เพิ่มอีก 2 ราย เป็นหนุ่มเคนยาจากฝั่งเมียวดี สภาพสะบักสะบอม ชาวบ้านพาส่ง ตร.พบพระ คาดยังมีตกค้างในป่าอีกเพียบ อีกรายเป็นหนุ่มจีนกำลังถูกลักพาตัวไปเขมร ตร.เมืองสุรินทร์ตามไปช่วยพร้อมขยายผลช่วยคนจีนได้เพิ่มอีก 4 ราย พร้อมจับเวียดนามลอบเช่าตึกกลางเมืองเป็นฐาน พบอุปกรณ์ทำพาสปอร์ตปลอม คาดเป็นขบวนการอาชญากรข้ามชาติ ขณะที่กะเหรี่ยง DKBA ทำเข้มออกประกาศขับจีนเทาออกนอกพื้นที่ที่ติด จ.ตาก-กาญจนบุรี ภายในสิ้น ก.พ.นี้ หวังให้ไทยกลับมาส่งกระแสไฟฟ้า-น้ำมันเชื้อเพลิงตามเดิม ด้าน กสทช.จับมือ ตร.ภ.2 ลุยตัดสายสัญญาณมือถือใน อ.อรัญประเทศ ริมชายแดนเขมรอีก 3 จุด พร้อมออกมาตรการ “เสา-สาย-ซิม” ล้มเสา ตัดสาย ทำลายซิม ส่วน “ทรู” ก็ลุยตัดสัญญาณมือถือเพิ่มตามใบสั่งแล้วภายหลังจากที่รัฐบาลไทยตัดกระแสไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต รวมถึงระงับการส่งน้ำมันเชื้อเพลิง 5 จุด ในประเทศเมียนมา ที่เมืองเมียวดี บริเวณริมชายแดนไทยติดกับ อ.แม่สอด อ.พบพระ จ.ตาก และเมืองพญาตองซู ติดกับ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มาตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา เพื่อตัดช่องทางของกลุ่มจีนเทาที่ตั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงคนได้รับความเสียหายไปทั่วโลก และกดดันให้รัฐบาลเมียนมาปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างจริงจัง โดยตลอดวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการพบบุคคลต่างชาติหลบหนีออกมาจากแก๊งคอลฯได้อีก ที่ อ.พบพระ จ.ตาก พ.ต.อ.แมน รัตนประทีป รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก รักษาราชการแทน ผู้กำกับการ สภ.พบพระ เปิดเผยว่า เมื่อเช้าพบชาวเคนยา 1 ราย มาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน หมู่ที่ 5 บ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ บริเวณใกล้เคียงกับที่พบนายเจมส์ โอพุนเด อะมุนกา ชาวเคนยา จึงพามาส่งให้ตำรวจ สภ.พบพระ เบื้องต้นทราบชื่อว่านายวิกเตอร์ นากีตารี อายุ 27 ปี ชาวเคนยา อ้างว่าถูกหลอกโดยเพื่อนชาวเคนยา ให้มาทำงานในไทย เป็น Customer manager เมื่อมาถึงไทยมีรถยนต์มารับข้ามชายแดน บังคับให้ทำงานให้เป็นสแกมเมอร์ จึงหลบหนีออกมาพ.ต.อ.แมนกล่าวอีกว่า ชาวเคนยารายนี้ ระบุด้วยว่าเป็นเพื่อนกับนายเจมส์ โอพุนเด อะมุนกา นัดกันหนีมาเมื่อคืนวันเสาร์ และมีกลุ่มคนประมาณ 50-60 คน ที่จะหนีออกมาจากเมืองสแกมเมอร์ ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านห้วยน้ำนัก อ.พบพระ เป็นจุดเดียวกับที่นายเจมส์ โอพุนเด อะมุนกา หลบหนีออกมาเมื่อเช้าวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายวิกเตอร์ นัดกันหนีมาราว 10 คน คาดว่าคนที่เหลือจะกระจัดกระจายกันไปและยังติดอยู่ในป่าทั่วชายแดนเมียวดีตอนใต้ จึงประสานฝ่ายปกครอง ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนูให้ลาดตระเวนมากขึ้น จะได้ช่วยเหลือได้ทันท่วงที ส่วนนายวิกเตอร์ นากีตารี หลังคัดกรองแล้ว หากยืนยันเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ จะส่งเข้าศูนย์บูรณาการคัดแยกจังหวัดตากต่อไปเช่นเดียวกับที่ อ.เมืองสุรินทร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.10 น. วันที่ 8 ก.พ. ตร.สภ.เมืองสุรินทร์ เข้าช่วยเหลือนายซู ลี อายุ 29 ปี ชาวจีน จากบริเวณใต้สะพานลอย ใกล้แยกบ้านดงมัน ต.คอโค อ.เมืองสุรินทร์ หลังโทร.เข้ามาขอความช่วยเหลือโดยแจ้งว่าถูกหลอกลักพาตัวมาเพื่อบังคับให้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กัมพูชา ต่อมาในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน ตร.เมืองสุรินทร์ ขยายผลตามไปจับกุม MRS.NGUYEN THI NHAT LE อายุ 24 ปี สัญชาติเวียดนาม และนำไปสู่การเข้าช่วยเหลือชาวจีนที่ บ้านเลขที่ 98 บ.สนายตรวจ ม.5 ต.คอโค อ.เมืองสุรินทร์ ได้แก่ MR.CHE HAO อายุ 23 ปี นายหลิว เฉียว อายุ 34 ปี นายลำ พู อายุ 36 ปี และนายเจียว เหวินจิ้น อายุ 22 ปี จากนั้น พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เรียกประชุมด่วนก่อนเข้าตรวจสอบในพื้นที่ ต.ท่าสว่าง และ ต.คอโค เนื่องจากเชื่อว่าน่าจะเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งโอร์เสม็ด ประเทศกัมพูชา ซึ่งจากการตรวจค้นพบอุปกรณ์การปลอมแปลงพาสปอร์ตจำนวนมาก คาดมีทั้งคนไทย เวียดนาม และจีน อยู่ในขบวนการดังกล่าว ตามด้วยสายวันที่ 9 ก.พ. ตร.เมืองสุรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงานเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 224-255 ม.21 ต.ท่าสว่าง อ.เมืองสุรินทร์ จับกุมชาวเวียดนาม 2 ราย ได้แก่ Mr.TU VAN DIEP อายุ 34 ปี และ Mr. TRUONG ANH HUNG อายุ 32 ปี พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และเอกสารการดัดแปลงพาสปอร์ตจำนวนมาก และนำตัวส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์ต่อมา พล.ต.ท.วัฒนา กล่าวเพิ่มเติมถึงคดีนี้ว่า จากการสอบสวนชาวจีนที่โทร.ไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจ จนทราบว่ามีแหล่งที่พักพิงต่างด้าวคือชาวเวียดนามและชาวจีน ขยายผลต่อได้อีกจุดที่เป็นแหล่งชาวเวียดนามเชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีการทำพาสปอร์ตขึ้นมา พาสปอร์ตที่ยึดได้บางส่วนมีการเชื่อมโยงโดยตรงกับบุคคลที่ตำรวจไปตรวจพบในวันแรก 3 ราย เชื่อว่าขบวนการนี้เป็นขบวนการอาชญากรรมข้ามชาติ เอามาพักอยู่ตรงนี้เตรียมข้ามไปประเทศที่ 3 เพราะว่ามีการจัดทำพาสปอร์ตเตรียมไว้ ตอนนี้ให้ทางพื้นที่ประสานไปทางตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สำหรับการเชื่อมโยงไปฝั่งพม่านั้น ยังไปไม่ถึง แต่จะตรวจสอบว่าบุคคลที่เช่าอยู่เป็นคนไทย ต้องตรวจสอบต่อไปว่ามีการเชื่องโยงไปบัญชีม้าหรือค้ามนุษย์ และคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ส่วนมาตรการเฝ้าระวังต่างๆตามแนวตะเข็บชายแดนไทยนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงสายวันที่ 10 ก.พ. ที่จุดตรวจม่วงมี ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อม พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะที่เกี่ยวข้องตรวจติดตามสถานการณ์ตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด รับฟังการรายงานสถานการณ์ต่างๆจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร แม่สอด ท่าสองยาง พบพระ อุ้มผาง แม่ระมาด โดยในพื้นที่ดังกล่าวมีการตรึงกำลังทหารอย่างรัดกุม ส่วนจุดตรวจม่วงมีเป็นพื้นที่บ้านวังตะเคียน มีหมู่บ้านอยู่โดยรอบ ลักษณะมีแม่น้ำเมย เป็นเส้นรูปโค้งวน ใช้เป็นเส้นแบ่งเขตระหว่างไทยกับเมียนมา ขณะนี้กลุ่มกะเหรี่ยง BGF พยายามจะผลักดันกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ออกนอกพื้นที่ จากนั้นคณะของ ผบ.ทบ.เดินทางต่อไปยังท่า 34 ท่าขนส่งของเอกชน แจ้งกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงการขนส่งสินค้าข้ามไปยังเมียนมา และมาตรการในการป้องกันการลักลอบขนส่งน้ำมัน และเดินทางไปที่ร้านไชน่า วิว เพื่อรับฟังรายงาน และสถานการณ์ชายแดนฝั่งตรงกับแหล่งสแกมเมอร์ ชเวก๊กโก่ เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา แหล่งอาชญากรรมขนาดใหญ่ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (Democratic Karen Buddhist Army, DKBA) ที่ดูแลพื้นที่ริมชายแดนติด อ.แม่สอด และ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ได้แก่ พันเอกพิเศษไซจ่อ ละ ผู้บัญชาการทหารดีเคบีเอ ที่เมืองโซซีเมี่ยง รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ตรงข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.ตาก และ พันเอกซอเอ วัน ผู้บังคับการยุทธวิธีที่ 2 ดีเคบีเอ ในพื้นที่ อ.พญาตองซู ออกประกาศมาเมื่อวันที่ 9 ก.พ. ผลักดันจีนเทาพ้นพื้นที่ทั้งหมดที่ติดชายแดน อ.แม่สอด ยัน อ.พบพระ ถึงเจดีย์สามองค์ อ.สังขละ จ.กาญจนบุรี ก่อนวันที่ 28 ก.พ.นี้ หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อเร่งให้สถานการณ์ในพื้นที่กลับมาเหมือนเดิมโดยเร็วสำหรับมาตรการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทางชายแดนไทยติดกัมพูชานั้นที่ สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เมื่อช่วงสาย วันที่ 10 ก.พ. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำคณะ แถลงข่าวร่วมกับนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.ในการเปิด “ยุทธการ อรัญ 68 Seal Border ระเบิดสะพานโจร Call center ทลายสัญญาณอินเทอร์เน็ตและสัญญาณโทรศัพท์” ตัดเส้นเลือดใหญ่ขบวนการหลอกลวงออนไลน์ โดยร่วมกันตัดสัญญาณฯในจุดสำคัญบริเวณแนวชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว หลังพบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ฝั่งปอยเปต กัมพูชา ใช้สัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ตจากประเทศไทย โดย พล.ต.ท.ยิ่งยศ เปิดเผยว่า จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มมิจฉาชีพใช้ซิมบ็อกซ์ ติดตั้งอยู่ชายแดนฝั่งกัมพูชาในหลายจุด สำหรับยุทธการอรัญ 68 การตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต และทลายสัญญาณโทรศัพท์ 3 จุด ชายแดนอรัญประเทศ-ปอตเปต คือ 1.สถานีรถไฟบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ 2.เสาโทรศัพท์หลังตลาดเบญจวรรณ ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ และ 3.เสาโทรศัพท์ บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ และขอเตือนผู้ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในการกระทำความผิด ร่วมขบวนการคอลเซ็นเตอร์ เว็บพนัน ไม่ว่าจะเป็นซิมม้า บัญชีม้า จะอ้างเหตุของการเป็นเหยื่อเพื่อไม่ต้องถูกดำเนินคดีไม่ได้ เพราะตำรวจมีการคัดกรองเหยื่อเข้มข้น สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหยื่อ หรือจงใจร่วมขบวนการ ที่ต้องถูกดำเนินคดีด้านนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทน เลขาธิการ กสทช. กล่าวถึงการปฏิบัติการร่วมกับตร.ภ.2 ใน 3 จุดดังกล่าวว่า บริเวณตลาดเบญจวรรณ มีเสามือถือที่นำสายอากาศหันหน้าไปประเทศเพื่อนบ้าน 1 ต้น และบ้านโคกสะแบง 2 ต้น จึงสั่งผู้ให้บริการหันสายอากาศเข้าประเทศ และลดระดับเสาลง ทั้งนี้ กสทช.ได้ออกมาตรการ “เสา-สาย-ซิม” คุมเข้ม ประกอบด้วย มาตรการตั้งเสาบริเวณชายแดนแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกกรณีผู้ให้บริการตั้งเสาติดเขตแดนไม่เกิน 50 เมตร ให้ผู้ประกอบการรื้อถอนสายอากาศ ยกเว้นกรณีมีชุมชน ให้ติดตั้งความสูงของสายอากาศไม่เกิน 10 เมตร หรือติดตั้งเสาอากาศขนาดเล็ก กลุ่มสอง การตั้งเสาระยะไม่เกิน 1 พันเมตร นับจากเส้นแบ่งเขตแดน ให้ลดกำลังส่งและปรับลดระดับความสูงของสายอากาศไม่เกิน 15 เมตร และกลุ่มที่สาม กรณีตั้งเสาระยะไม่เกิน 3,500 เมตรนับจากเส้นแบ่งเขตแดน ให้ตั้งเสาอากาศความสูงไม่เกิน 30 เมตรนอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.เป็นต้นไป สำนักงาน กสทช.จะไม่อนุญาตการขอติดตั้งเสาในเขตพื้นที่ติดชายแดน ยกเว้นพิสูจน์ได้ว่าอยู่ในเขตชุมชนมีประชาชนอยู่อาศัยจำนวนมาก แต่จะให้ตั้งเสาความสูงไม่เกิน 10 เมตร เพื่อไม่ให้สัญญาณโทรศัพท์ครอบคลุมเลยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากตรวจพบมีการลักลอบติดสายอากาศ จะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด นอกจากนั้น ยังจะตรวจสอบสายสื่อสารตามจุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีการลักลอบลากสายสื่อสารต่อมานายจักรกฤษณ์ อุไรรัตน์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกิจการองค์กร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่นเปิดเผยว่า ขณะนี้ทรูได้ถอดอุปกรณ์เสาระงับบริการในพื้นที่เสี่ยงตามแนวพรมแดน 7 จังหวัด 11 อำเภอ ตั้งแต่เดือน มิ.ย.67 ได้แก่ อ.แม่สอด อ.แม่ระมาด อ.พบพระ จ.ตาก อ.แม่สาย อ.เชียงของ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี อำเภอเมืองระนอง จ.ระนอง อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ และ อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยกำลังเดินหน้ารื้อถอนเสาอีก 10 แห่งใน จ.ตาก และจากที่ กสทช.กำหนดให้รื้อถอนเสา จ.ตาก ที่อยู่ในรัศมี 50 เมตร จากแนวชายแดนทั้งหมด ส่วนเสาที่อยู่ในรัศมี 200 เมตร ต้องปรับลดกำลังส่งและจำกัดความสูงไม่เกิน 15 เมตร ขณะที่เสาในรัศมี 3.5 กิโลเมตร ต้องลดกำลังส่งและมีความสูงไม่เกิน 30 เมตร และจะวางแผนติดตั้งเสาสัญญาณขนาดเล็ก หรือ Small Cell หากพบว่าสัญญาณในเขตชุมชนแถวนั้นได้รับผลกระทบอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่