กกต.แถลงสถิติจำนวนผู้ไป ใช้สิทธิเลือกตั้ง นายก อบจ. 47 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 16.3 ล้านคนหรือ 58.45 เปอร์เซ็นต์ของยอดผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 27.9 ล้านคนจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งที่ลดลงจากการเลือกตั้งนายก อบจ. ปี 2563 ประมาณ 4 เปอร์เซ็นต์เพราะครั้งนี้ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งนายก อบจ.ในวันเสาร์แทนที่จะเลือกตั้งในวันอาทิตย์อย่างทุกครั้งที่ผ่านมาการที่จำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งลดลง 4 เปอร์เซ็นต์ จึงเป็นความโหลยโท่ยของ กกต.โดยตรงแต่ประเด็นที่สมาชิกสภากาแฟวิจารณ์กันน้ำลายแตกฟอง คือ จำนวนบัตรเสียที่บานเบ้อไปถึง 931,290 ใบ หรือ 5.69 เปอร์เซ็นต์และจำนวนบัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครคนใด หรือบัตรโหวตโน ซึ่งบานทะโร่ไปถึง 1,158,201 ใบ หรือ 7.08 เปอร์เซ็นต์หากเอาจำนวนบัตรเสีย และบัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครคนใด มารวมกันจะมากกว่า 2 ล้านใบ หรือ 12.77 เปอร์เซ็นต์ของผู้ไปใช้สิทธิ เลือกตั้ง 16.3 ล้านคนพูดง่ายๆ บัตรเลือกตั้งนายกอบจ. ทุก 100 ใบ จะมีบัตรเสียและ บัตรโหวตโนกว่า 12 ใบตัวอย่างเช่น “จังหวัดนครราชสีมา” มีบัตรเสีย 71,306 ใบ และบัตรไม่ประสงค์เลือกผู้สมัครคนใดมากถึง 110,934 คะแนนคะแนนเลือกตั้งหายไปกว่า 1.8 แสนคะแนน!!สนามเลือกตั้งจังหวัดสงขลา มีบัตรเสีย 28,593 ใบ บัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนอีก 86,855 ใบจังหวัดสงขลา คะแนนเลือกตั้งโดนเททิ้งนํ้าไปมากถึง 115,448 คะแนน“แม่ลูกจันทร์” เสียดายบัตรเลือกตั้งที่ไม่ถูกนับเป็นคะแนนกว่า 2 ล้านใบซึ่งถ้ากลายเป็นคะแนน อาจทำให้ผลการเลือกตั้งพลิกจากชนะเป็นแพ้ พลิกจากแพ้เป็นชนะได้เลยหากเทียบสถิติการเลือกตั้งนายก อบจ.ปี 2563 จำนวนบัตรเสียก็สูงถึง 1,652,651 ใบและจำนวนบัตรโหวตโนก็สูงถึง 1,912,623 ใบแสดงว่าการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อ 4 ปีก่อนมีบัตรเลือกตั้งที่ไม่ถูกนับเป็นคะแนนมากมหาศาลกว่า 3.5 ล้านใบสูงกว่าการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ถึง 1.5 ล้านใบหากเทียบการเลือกตั้ง สส.ครั้งล่าสุดปี 2566 ก็มีจำนวนบัตรเสียสูงถึง 1.4 ล้านใบ และบัตรโหวตโนอีก 8.6 แสนใบเท่ากับมีบัตรเลือกตั้งที่ไม่ถูกนับเป็นคะแนนกว่า 2.2 ล้านใบสรุปว่าปัญหาบัตรเสีย และบัตรไม่ประสงค์เลือกใคร เป็นปัญหาเรื้อรังของการเลือกตั้งเมืองไทยแก้ไขไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามบุญตามกรรม“แม่ลูกจันทร์” มองว่า แม้จำนวนบัตรเสีย และจำนวนบัตรโหวตโนจะสูงกว่า 2 ล้านใบ ยังดีกว่าคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง แต่นอนหลับทับสิทธิ์ ไม่ยอมไปใช้สิทธิเลือกตั้งอีก 11 ล้านคนหรือมองอีกมุม การที่คนไปใช้สิทธิเลือกตั้ง แต่ไม่ประสงค์ลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใดกว่า 1.1 ล้านคนแสดงว่าคุณภาพของผู้สมัครนายก อบจ.ยังไม่ถึงขั้นที่คนกลุ่มนี้อยากลงคะแนนให้เป็นนายก อบจ.การเต็มใจไปใช้สิทธิเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่เต็ม ใจมอบคะแนนเสียงให้ผู้สมัครคนใดมันก็เก๋ไปอีกแบบเหมือนกันนะโยม.แม่ลูกจันทร์คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม