กรณีช่วงดึกวันที่ 7 กันยายน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล จับกุมขณะพยายามลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้า บริเวณถนนสายตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูลนายเอรับว่าร่วมกับพวก 3 คนที่หลบหนี มีนายศักดิ์สิทธิ์ บิดานายเอ นายสมจิตร ปู่นายเอ และ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี แฟนสาว ร่วมกันขับรถซาเล้งตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้าพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างทำเป็นอาชีพครอบครัวสภ.เมืองสตูล ออกหมายจับผู้ต้องหาลักสายไฟทั้งครอบครัว ตำรวจทางหลวงที่ดำเนินการกับแก๊งลักสายไฟมาต่อเนื่องร่วมกับกรมทางหลวง สืบทราบว่าแก๊งนี้ทำเป็นอาชีพ นำเครือญาติมาร่วมตระเวนลักทรัพย์สืบสวนต่อเนื่องก่อนพบว่าบุคคลตามหมายจับกำลังเดินทางเข้ากรุงเทพฯ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล. ให้ พ.ต.อ.ภคพล สุชล ผกก.2 บก.ทล. พ.ต.ต.วรฉัตร ฉลวยแสง สว.ทล.2 กก.2 บก.ทล. (เพชรบุรี) วางกำลังสกัดจับพบรถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้หลบหนีเรียกให้หยุดรถพบนายศักดิ์สิทธิ์ และนายสมจิตรนำตัวส่ง สภ.เมืองสตูล ดำเนินคดี ผู้ต้องหารับว่าร่วมกันขับขี่รถซาเล้งไปลักหม้อแปลงไฟฟ้า เมื่อไปถึงบริเวณเสาไฟฟ้ามีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่ นายเอขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งวิธีการลักหม้อแปลงไฟฟ้าศึกษาหาความรู้มาจากยูทูบ มีนายศักดิ์สิทธิ์ คอยให้การช่วยเหลือและรอรับหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านล่างนายสมจิตร และ น.ส.น้ำ ดูต้นทาง หลังถอดหม้อแปลงไฟฟ้านำกลับมาแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ นำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าขายได้ 8,000-10,000 บาทต่อลูก รับทำมา 4 ครั้ง ได้เงินส่วนแบ่งครั้งละ 40,000 บาทนำเงินใช้จ่ายในครอบครัวสภ.เมืองสตูล ตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่า มีหมายจับ 8 หมายจับคดีลักหม้อแปลงไฟฟ้าผลงานตำรวจทางหลวงนำนโยบาย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เร่งปราบลักหม้อแปลงไฟฟ้าทำความเสียหายหนักต่อสังคม.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม