เป็นหนึ่งซีรีส์กระแสแรงเป็นที่พูดถึง สำหรับ "Good Doctor หมอใจพิเศษ" ทาง TrueID ทุกวันศุกร์ เวลา 20.00 น. ครั้งละสองตอน ผลิตโดย "True CJ Creations" (ทรู ซีเจ ครีเอชั่นส์) กับบท "หมอโฌน" คุณหมออัจฉริยะที่มีภาวะออทิสติกและพยายามพิสูจน์ตัวเอง รับบทโดย “เน๋ง ศรัณย์ นราประเสริฐกุล” นักแสดงหนุ่มและสัตวแพทย์สุดฮอตที่ได้รับคำชื่นชมว่าตีบทแตก รวมทั้งทีมนักแสดงฝีมือเฉียบ แพต-ชญานิษฐ์ ชาญสง่าเวช, ดู๋-สัญญา คุณากร, โทนี่ รากแก่น และอีกคับคั่ง ที่ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวในวงการแพทย์ให้แฟนๆได้อย่างดี ทุกองค์ประกอบ กระแสครึ่งทางถึง EP10 ถูกใจผู้ชมจนยอดคนดูพุ่งกว่า 11 ล้านวิวที่ TrueID และมาแรงใน TikTok ยอดรับชมมากถึง 465 ล้านวิว เลยชวน “เน๋ง ศรัณย์” พูดคุยเป็นกระแสชื่นชมในฝีมือการแสดงเรื่องนี้?“ขอบคุณทุกคนมากจริงๆที่เอ็นดูหมอโฌนและคอยเอาใจช่วยครับ ก็ดีใจแทนเค้าที่มีคนรักเยอะ ผมดีใจมากที่คนรักหมอโฌน และอยากเอาใจช่วยว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าห้องผ่าตัดซะที ผมรู้สึกว่าสิ่งที่เราลงทุนทุ่มเทไปมันก็คุ้มนะ”เล่าถึงการทำงานเรื่องนี้?“มันยากนะ ผมต้องเป็นหมอโฌนอยู่ประมาณเกือบปี ก่อนจะมาเล่นมันมีทั้งความกลัวและความอยากผสมๆกัน เพราะผมเองก็ไม่ได้ เป็นนักแสดงที่เจนจัดหรือเป็นคนที่คนมองว่าเป็นนักแสดงที่เก่ง พอเค้าเปิดแคสต์เราก็มาลองดูแล้วก็ได้รับเลือก ผมเลยใช้พลังงานเยอะมากให้สมกับการเป็นหมอโฌนจริงๆ เรารู้ตัวว่าเราต้องพยายามมากกว่าคนอื่น ต้องศึกษาหลายด้าน อย่างเรื่องออทิสติก ผมก็ได้ทำงานกับมูลนิธิออทิสติกไทย ที่ทางทรูเป็นพาร์ตเนอร์อยู่แล้ว เลยได้ไปสังเกตและไปทำกิจกรรมกับน้องๆ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ พอทำเรื่องนี้ผมอยากให้เห็นมุมมองบางอย่างกับเด็กออทิสติก อยากให้เห็นในแง่บวกของพวกเขา น้องๆออทิสติกแต่ละคนก็มีแบ็กกราวด์ที่ไม่เหมือนกัน การสร้างตัวละครหมอโฌนก็ออกมาจากแบ็กกราวด์ของหมอโฌนเอง ก่อนเล่นผมตั้งปณิธานอย่างหนึ่งว่าอยากให้คนทั่วไปเข้าใจคาแรกเตอร์ของออทิสติกมากขึ้น เพื่อการอยู่ร่วมกันได้และเข้าใจพวกเค้ามากขึ้น” พาร์ตความเป็นหมอล่ะ ได้เปรียบมั้ยเพราะเป็นสัตวแพทย์?“ก็ถือว่าได้เปรียบเรื่องหัตถการต่างๆ การผ่าตัดนิดหน่อยและศัพท์แพทย์ก็มีทั้งเหมือนและต่าง แต่สิ่งที่ใหม่สำหรับผมคือการรักษาคนจะมีกระบวนการของโรงพยาบาลที่ต้องมาเรียนรู้ หลายคนเข้าใจว่ามาเล่นเรื่องนี้คงสบาย แต่เรื่องนี้หมอโฌนทำงานกับแผนกศัลยกรรม แล้วโรงพยาบาลในเรื่องชอบมีเคสใหญ่ๆ บางทีเค้าเอาเคสที่วงการแพทย์ไทยทำได้จริงแล้ว แต่ละเคสก็ว้าวๆ เช่น การปลูกถ่ายอวัยวะ ผมก็ต้องไปศึกษาเพิ่มเติมเพราะผมไม่สามารถทำออกมาได้โดยที่ไม่รู้ลึก ผมอาจจะเป็นคนแบบนี้ ผมเลยต้องไปนั่งหาอ่านเปเปอร์ต่างๆที่ตีพิมพ์ให้เรารู้กระบวนการที่ต้องมีในหัว ทีมเค้าไม่ได้สั่งนะแต่ผมทำของผมเอง (หัวเราะ) ผมว่าเรื่องนี้คนจะได้ความรู้เยอะเพราะหลายๆโรคเกี่ยวข้องกับโรคที่คนไทยเป็นเยอะ”ในเรื่องมีฉากไหนประทับใจเป็นพิเศษ?“ฉากห้องผ่าตัดผมว่าดูเรียลจริงๆ อุปกรณ์ต่างๆและไวป์ที่ดี เตียงก็มีคนนอนจริงๆ รวมทั้งฉากรถเมล์ใน EP แรกพอเป็นเวอร์ชันไทยก็ทำได้ฉีกออกมาและเป็นบริบทคนไทยและมี mock-up เด็กครึ่งตัวที่ข้างในเป็นกลไก ที่ผมต้องกรีดเจาะช่องอกเอาหลอดเสียบเข้าไป ทีมบอกว่ากรีดได้ครั้งเดียวนะ เพราะตัวละ 35,000 นะ (หัวเราะ) มันเหมือนมาก เป็นโปรดักชันที่ยกระดับ ช่วยทำให้เราอินขึ้นไปอีก”ความเป็น “หมอโฌน” ที่อยู่กับตัวเราแค่ไหน?“ช่วงเวิร์กช็อปก็หากันอยู่นาน คิวแรกก็ยังมีมึนๆอยู่ มีถ่ายใหม่ช่วงแรกๆหลายฉากเหมือนกัน เหมือนมันยังไม่เข้าเนื้อ เราก็ปรึกษาผู้กำกับว่าซีนนี้เราทำอีกทีมั้ย ตอนนั้นถ่ายทำพร้อมละคร ดวงใจจอมกระบี่ มันช่วงคาบเกี่ยวพอดีนิดนึง ซึ่งหมอโฌนเค้าก็อยู่กับผมตลอดไม่เคยไปไหน ปกติเวลาเล่นคาแรกเตอร์ไหนก็ตาม ผมจะเข้าและออกทุกซีน แต่มีวันนึงผมกลับบ้านแล้วออกไปซื้อของ แล้วผมไปก็พูดกับพนักงานแบบเป็นหมอโฌน ผมก็ตกใจเหมือนกัน พอพูดแล้วได้ยินเสียงตัวเอง เราก็หายเลย มันเหมือนการเจริญสติ พอเรารู้ตัวว่าเราเป็นสิ่งนั้น เราจะหาย จริงๆตัวละครทุกตัวที่เราเคยเล่นมันก็อยู่ในบางส่วนของเรา เป็นความทรงจำของเราอยู่ดี”การเป็น “หมอโฌน” นำมาปรับใช้ในชีวิตยังไงบ้าง?“ทำให้รู้ว่าคนส่วนใหญ่เข้าใจในเรื่องเด็กออทิสติกผิด เราชอบปฏิบัติกับพวกเค้าหรือแม้แต่คนพิการ แบบสงสารเค้าโดยอัตโนมัติไม่รู้ตัว พอมาเล่นเรื่องนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าทุกคนก็ต้องการให้คนปฏิบัติต่อเค้าเหมือนเพื่อนคนหนึ่ง เหมือนมนุษย์ทั่วไป ผมเคยได้ยินน้องๆพูดว่าผมอยากเป็นคนปกติ เป็นคำที่ดูธรรมดาแต่บ่งบอกอะไรบางอย่าง ผมว่าพวกเค้าต้องการแค่โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองและหลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา หมอโฌนเองก็ต้องการแค่โอกาส ซึ่งเรื่องนี้ก็พยายามสื่อตรงนี้” เล่าถึงทีมนักแสดงมากฝีมือ เวลาอยู่ในการรับส่งอารมณ์นั้นๆ เราเป็นยังไง?“เราเล่นกันเหมือนเราใช้ชีวิตอยู่ในนั้นกันจริงๆ ผมมองว่านักแสดงรอบๆสำคัญมาก สิ่งที่ทำให้คนเชื่อว่าหมอโฌนเป็นหมอโฌนจริงๆมันคือตัวหมอโฌนเอง รวมทั้งรีแอ็กชันของคนรอบๆตัว มันมีรายละเอียดมากๆ มีทั้งคนที่มีความเข้าใจ และก็มีคนรอบๆอีกกลุ่มที่รีแอ็กกลับมาอีกแบบ ซึ่งผมว่าทุกตัวละครมันไปด้วยกัน เป็นการทำงานเป็นทีมที่ดีมากๆ ถ้าผมเล่นคนเดียว อาจจะไม่ได้ทำให้ทุกคนเชื่อได้ขนาดนี้”พอคนเริ่มมองเห็นฝีมือการแสดงเราต้องรักษามาตรฐานตรงนี้มั้ย?“ผมขอบคุณที่ทุกคนชื่นชอบและชอบในความทุ่มเท มองว่าเล่นทั้งตัวไม่ห่วงหล่อ มันก็เป็นกำลังใจที่ดีนะ สร้างเสริมความมั่นใจให้ผมมากขึ้นอีกนิดนึง แต่พอเรื่องใหม่ ก็เริ่มใหม่เหมือนเดิม (หัวเราะ) จริงๆเรื่องนี้เป็นจุดเปลี่ยนทางการแสดงของผมเหมือนกันนะ ผมก็ได้เข้าใจอะไรเพิ่มขึ้น พอคาแรก เตอร์มันฉีกมากๆ มุมมองของตัวละครที่ต่างจากเรามากๆ เราก็เอาไปปรับใช้กับตัวละครอื่นได้”ชีวิตในวงการก่อนหน้านี้ได้ปลดล็อกว่ากล้าพูดเยอะขึ้น ตอนนี้มีอะไรที่รู้สึกเติบโตขึ้นอีก?“คงเป็นความนิ่ง อาจจะโตขึ้นด้วย เข้าใจอะไรมากขึ้น”เมื่อก่อนไม่นิ่งเหรอ?“เมื่อก่อนนิ่งแบบขี้กังวล อันนั้นมันอีกแบบ (ยิ้ม) ตอนนี้ให้อภัยง่ายขึ้น อะไรที่มากระทบเราก็เจริญสติไป (ยิ้ม) เมื่อก่อนเวลาได้ยินคำวิจารณ์ต่างๆเราอาจจะมีเซ็งบ้าง เดี๋ยวนี้ก็ไม่เป็นไร อันไหนดีก็เก็บไว้ เรามองว่าเราเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เค้ารู้สึกแบบนั้น แต่ก่อนตอนเด็กๆเราจะคิดว่าทำไมต้องมาอคติกับเรา แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเราแก้ที่ตัวคนอื่นไม่ได้ เราก็ต้องแก้ที่เหตุของปัจจัยก็คือเรา เริ่มคิดแบบนี้ได้ก็ตั้งแต่เริ่มมาเป็นหมอโฌน เพราะอยู่กับตัวเองเยอะ ช่วงนั้นไม่ค่อยได้ยุ่งกับใคร (หัวเราะ)” ชีวิตส่วนตัว ชีวิตรักระยะไกลกับสาวนอกวงการล่ะ ยังประคับ ประคองได้ดี?“ก็เหมือนเดิมครับ ผมว่ามันก็อยู่ที่ตัวเรา มันไม่ได้มีปัญหาอะไร เรียบๆ”ว่างปุ๊บบินปั๊บ?“ก็มีบ้างแต่เอาที่ว่าง”เค้าเป็นหนึ่งในกำลังใจของเรา?“ใช่ ผมว่าต่างคนต่างมีเป้าหมาย เราก็ทำเป้าหมายตัวเองแล้วก็ซัพพอร์ตกัน ไม่จำเป็นว่าต้องมาทำงานด้วยกัน แต่ละคนก็มีแพสชันของตัวเอง มีคนถามผมนะว่าอยู่ไกลกันมันยากมั้ย อยู่ได้เหรอ ผมว่ามันอยู่ที่เรามากกว่า หลายๆคนอาจจะเป็นห่วง ผมก็บอกว่ามันได้นะ และก็โอเคด้วย เราก็มองไปที่อนาคต”เรียกว่าไว้ใจกัน?“เราก็ต้องชัดเจน ไม่ทำอะไรไม่ดีจริงๆ ผมคิดว่าเราสามารถควบคุมได้ว่าเราจะทำหรือไม่ทำ”. เรื่อง: สุภลัคน์ วุฒิกรีธาชัยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่