ติดเครื่องเร่งตรวจสอบรัฐบาลทุกมิติหลังตัดสินใจทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มตัวฝ่ายค้านป้ายแดงส่งสัญญาณถึงรัฐบาล หลังจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นับตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมาก็ถืออำนาจรัฐมาตลอด เมื่อเล่นบทฝ่ายค้านก็ขอทำหน้าที่เต็มที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกถึงความมุ่งมั่นของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. คณะกรรมการบริหารพรรค และ 20 สส.ที่รวมพลังเป็นหนึ่งเดียวต่างกับ สส.อีก 20 คน ที่ตัวอยู่พรรค พปชร. ใจไปอยู่พรรคอื่น ยังอยู่ในขั้นตอนตั้งคณะกรรมการตรวจสอบให้สะเด็ดน้ำก่อน ถึงเห็นทิศทางในขั้นตอนต่อไปควรดำเนินการอย่างไรแต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่มีผลต่อการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน ขอทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ไม่ได้ทำหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อรอเสียบเป็นรัฐบาล ขนาดเพิ่งเริ่มต้นทำหน้าที่ สส. และคณะกรรมการบริหารพรรค พปชร.ยังคึกคักขนาดนี้ขอทำหน้าที่เต็มที่เฝ้าบ้านให้ประชาชนเห็นได้จากเขย่า “ดิ ไอคอนภาคการเมือง” หวังให้รัฐบาลสร้างความกระจ่างถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังโดยเร็ว อย่างน้อยควรย้อนอดีตไป 2 ปี ลากมาถึงปัจจุบันเพื่อยุติปัญหา และนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างแท้จริงพรรค พปชร.เปิดเกมให้รัฐบาลตรวจสอบและสะสางปัญหา ดิ ไอคอน ตามหาตัวเทวดา พร้อมๆกับเปิดประเด็นให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 นายสนธิรัตน์ บอกว่า พรรค พปชร.สนใจตั้งแต่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ภายใต้นโยบายด้านพลังงานที่จะทำให้ราคาถูก จำเป็นต้องเจรจาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาโดยตั้งให้ผมที่เคยเป็น รมว.พลังงาน เป็นหัวหน้าทีมงานศึกษาข้อมูลยกเลิกเอ็มโอยู 44 ข้อมูลเชิงลึกที่มีอยู่ในมือก็เท่าๆกับข้อมูลในมือของรัฐบาลยืนยันเกาะกูดเป็นพื้นที่ของประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสใจความว่า “เกาะกูดเป็นพื้นที่ของแผ่นดินไทย” พรรค พปชร. ขอทำทุกวิถีทาง รักษาไว้ซึ่งแผ่นดินไทย โดยไม่ยอมเสียผืนแผ่นดินไทยเป็นอันขาดแต่ “ปัญหาเขตแดน” มันสะสมจนมาถึงทุกวันนี้ ต่างฝ่ายต่างขีดเส้นคนละเส้นมาตลอด และมาตรการทำให้ราคาพลังงานถูกต้องไขกุญแจในพื้นที่ทับซ้อน ซึ่งมีปัญหาทับซ้อนอยู่หลายมิติต้องยึดหลักสำคัญ คืออธิปไตยประเทศ ข้อตกลงพรมแดนจริงๆเป็นหัวใจหลักที่พรรค พปชร.หยิบยกขึ้นมาชี้ให้รัฐบาลได้ตระหนัก หากเริ่มต้นเจรจาอะไรต้องเคลียร์ให้ชัดเจนเขตแดนประเทศไทย“ขอเสนอยกเลิกเอ็มโอยู 44 เพื่อเริ่มต้นวางกรอบเจรจาใหม่ หากไม่เดินตามแนวนี้รับรองรัฐบาลนี้อยู่ครบวาระก็เจรจาไม่สำเร็จ เพราะเอ็มโอยูไม่สามารถเดินไปสู่ข้อยุติของการตกลงได้ยิ่งเจรจาช้า ยิ่งไม่มั่นคงในด้านพลังงาน โดยเฉพาะมีผลให้แก๊สมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เพราะแก๊สในอ่าวไทยเหลือใช้ไม่ถึง 10 ปี ต้องนำเข้า มันคือระเบิดเวลาที่ซ่อนอยู่ภายใต้การเจรจาหากเปิดเจรจาโดยไม่ยกเลิกเอ็มโอยูก่อน ก็เดินต่อไปไม่ได้ คนรักชาติไม่ยอมแน่ ห่วงเกาะกูดหายไป”เจรจาโดยเดินตามกรอบเอ็มโอยู 44 เกาะกูดหายไปแค่ครึ่งเกาะหรือทั้งเกาะ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหารพรรค พปชร. และทีมงานศึกษาข้อมูลยกเลิกเอ็มโอยู 44 ที่เกาะติดการขุดน้ำมันในทะเลมาตั้งแต่ปี 2551 มีข้อมูลเต็มหน้าตักบอกว่า ยืนยันหายไปครึ่งเกาะเพราะก่อนมีเอ็มโอยู 44 ไม่มีพื้นที่ทับซ้อน พอกัมพูชาประกาศเส้นปี 2515 ลากเส้นจากหลักเขตที่ 73 (บริเวณบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด) ขีดเส้นเกินสิทธิกฎหมายทางทะเลแต่หลักฐานตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส (สยามยกสิทธิการปกครองได้แก่ พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณให้ฝรั่งเศส แลกเปลี่ยนที่ฝรั่งเศสยอมคืนดินแดนเมืองด่านซ้าย เมืองตราด เกาะทั้งหลายลงไปจนถึงเกาะกูดให้สยาม ต้องมี 12 ไมล์ทะเล ที่สำคัญทำให้น่านน้ำไทยใน จ.ตราดหายไปตามแผนที่ของกัมพูชาด้วยแต่กลับเอาเส้นที่ขีดเกินสิทธิตามกฎหมายมาอยู่ในเอ็มโอยู 44 เจรจาไปไทยเสียเปรียบทุกประตู ขอเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกเอ็มโอยู 44 แล้วไปเริ่มใช้โมเดลไทย-มาเลเซีย และไทย-เวียดนาม ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายทะเล ถึงไม่มีเสียงคัดค้านใดๆเกิดขึ้น“มีเอ็มโอยูเท่ากับรับรองทางอ้อมในเส้นที่กัมพูชาประกาศ แม้ไม่ยอมรับเส้น แต่ยอมรับพื้นที่ทับซ้อน เป็นการยอมรับเส้นทางอ้อมก่อนมีเอ็มโอยู ไทยเป็นฝ่ายถูก พอเกิดปั๊ง ไทยเสียเปรียบทันที จับเกาะกูดครึ่งล่าง น่านน้ำ จ.ตราด เป็นตัวประกัน เจรจาไม่ได้เริ่มต้นที่จุดยืนเท่ากันพื้นที่ทับซ้อนจริงคาดไม่เกิน 6–7 พัน ตร.กม. ไม่ใช่กว่า 2.6 ตร.กม. ตามที่โอเวอร์เคลมไปไกลมาก”ไม่ยกเลิกเอ็มโอยู 44 เปิดเจรจาไปประเทศไทยเสียหายอย่างไร ม.ล.กรกสิวัฒน์ บอกว่า แผนที่แนบท้ายเอ็มโอยู 44 คือตัวปัญหา เป็นสิ่งที่กัมพูชาอ้างเกิดสิทธิตามกฎหมายทะเล สงสัยไปยอมในกรอบเอ็มโอยูได้อย่างไรขอย้ำว่ารัฐบาลควรยกเลิกเอ็มโอยู 44 และทำตามโมเดลไทย-มาเลเซีย เดินตามกฎหมายทะเลก่อนเริ่มทำเอ็มโอยู ทำตามนี้ปุ๊บจบง่ายมากสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกต มีระดับผู้นำไทยบางคนหารือลับประเด็นพื้นที่ทับซ้อนกับผู้นำกัมพูชา พรรค พปชร.ถึงเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ม.ล.กรกสิวัฒน์ บอกว่า คาดพูดคุยนอกรอบมาหลายครั้ง โดยมีฝ่ายตะวันตกอยู่เบื้องหลังผลักดันตามรายงานของสำนักข่าวต่างประเทศเพราะเขามีหีบสมบัติในอ่าวไทย แต่ยังเปิดหีบไม่ได้จึงอยากใช้ช่องทางนี้ช่วยเปิดหีบสมบัติดังกล่าว ตรงนี้ควรระมัดระวังอย่างสูงผลประโยชน์ชาติ–บริษัท–ประชาชนต้องสมดุลกัมพูชาถมพื้นที่ทะเลหวังผลรุกคืบเขตพื้นที่ทับซ้อนเพิ่มขึ้น ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ม.ล.กรกสิวัฒน์ บอกว่า กฎสหประชาชาติระบุชัดเจน ถ้าทำเขื่อนใดที่ติดกับแผ่นดิน ให้นับเหมือนเป็นแผ่นดิน ทำให้การวัดเส้นที่ยิงออกมาไกลขึ้นเยอะเลยสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประท้วงไป 2 ครั้ง กัมพูชายังไม่รื้อ มีผลต่อการวัด 12 ไมล์ทะเล รัฐบาลไทยเงียบกริบ ไม่พูดถึงตรงนี้เลยพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาเป็นหนึ่งใน 6 ประเด็นที่มีการยืนคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญชี้เอาผิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และยุบพรรคเพื่อไทย ขณะเดียวกันภาคประชาชนเริ่มเคลื่อนไหวในประเด็นนี้พร้อมกับพรรค พปชร. หวังผลถึงขั้นล้มรัฐบาลชุดนี้ นายสนธิรัตน์ บอกว่า สิ่งเหล่านั้นเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องพรรค พปชร.ทำหน้าที่ยืนอยู่บนฐานข้อมูล บังเอิญเป็นประเด็นร้อนที่ทุกภาคส่วน ให้ความสนใจ ไม่ได้ตั้งใจล้มรัฐบาล แค่ต้องการรัฐบาลให้ตอบข้อสงสัยทั้งหมดบนข้อมูลจริงที่รัฐบาลตั้งใจเดินหน้าตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภาเป็นอย่างไร รัฐบาลแจงให้กระจ่างในข้อสงสัยทั้งหมดบนหลักที่โปร่งใส หยุดกระแสชาตินิยมเมื่อรัฐบาลไม่มีถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการ สังคมถึงระแวงต่อเรื่องนี้ ยิ่งภาคส่วนต่างๆระแวงรัฐบาลมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องสร้างความโปร่งใส รัฐบาลจะล้มหรือไม่ ขึ้นอยู่ที่รัฐบาลดำเนินการด้วยความโปร่งใส ไม่เกี่ยวกับพรรค พปชร.ถูกตั้งข้อสังเกตเกิดจากแรงแค้นที่ถูกขับออกจากการร่วมรัฐบาล ถึงลงมือตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะนายทักษิณ ชินวัตร สนิทสนมเป็นพิเศษกับอดีตผู้นำกัมพูชา นายสนธิรัตน์ บอกว่า การเมืองไม่มีรัก ไม่มีแค้น มันเป็นไปตามกลไกการเมืองที่ทำตามหน้าที่และภารกิจ ปกป้องผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนยิ่งมีภาพความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดเป็นพิเศษ รัฐบาลโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯปฏิเสธไม่ได้ต้องชี้แจงทั้งหมดเป็นภารกิจเริ่มตรวจสอบรัฐบาล ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็ต้องเตรียมนโยบายทางการเมืองที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ภูมิภาค เริ่มภาคอีสานก่อน รวมถึงเตรียมพร้อมพลิกบทบาทฝ่ายค้านในสภาช่วงเปิดสมัยประชุมด้วยขอทำหน้าที่ฝ่ายค้านเต็มที่รักษาผลประโยชน์ประชาชนใต้ยุทธศาสตร์นิติสงครามคู่ขนานตรวจสอบเข้มข้น.ทีมการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม