อธิบดีกรมปศุสัตว์ พร้อมหัวหน้า ด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ฟ้องหมิ่นประมาทเรียกค่าเสียหาย 8 ล้านบาท กับ “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์” หลังถูกกล่าวหามีเอี่ยว ทุจริตนำเข้าหมูเถื่อนที่ท่าเรือแหลมฉบัง ขณะที่เจ้าตัวสวนทันควัน หอบหลักฐานไปยื่นเรื่องขอให้อธิบดีดีเอสไอรับคดี มีข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์ไปเกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิลักลอบส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีน โดยสำแดงเอกสารเท็จ สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท ยืนยันฟ้องได้ฟ้องไป ไม่เคยมีข้าราชการคนไหนฟ้องชนะแม้แต่คดีเดียวที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายสัตวแพทย์ สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายสัตวแพทย์ จิรภัทร อินทร์สุข หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ในฐานะผู้เสียหาย เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทต่อนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม หลังถูกใส่ความและถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่รัฐทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ ปกปิดข้อเท็จจริง ไม่รายงานต่อผู้บังคับบัญชา กรณีทุจริตนำเข้าหมูเถื่อนที่ท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งการให้ข้อความเท็จดังกล่าวเป็นการกระทำอันเป็นการละเมิดต่อบุคคล ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อชื่อเสียงและเกียรติคุณของผู้ถูกกล่าวหานายสัตวแพทย์ สมชวนเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะเปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลายช่องทาง โดยให้ข้อมูลแหล่งข่าวอันเป็นเท็จต่อสังคมหลายครั้งหลายหน กล่าวหาพวกตนกระทำการโดยทุจริตประพฤติมิชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียง ขอยืนยันว่าตนและผู้ใต้บังคับบัญชาตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมา“คดีนี้ผมและนายสัตวแพทย์ จิรภัทร หัวหน้าด่านกักกันสัตว์ชลบุรี ฟ้องร้องคดีหมิ่นประมาทซึ่งเป็นความผิดทางอาญาต่อนายอัจฉริยะ พร้อมเรียกร้องค่าเสียหายรวมทั้งหมด 8 ล้านบาท” นายสัตวแพทย์ สมชวนกล่าวอีกด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมคณะเดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อยื่นเรื่องร้องขอให้อธิบดีดีเอสไอ รับคดีที่มีข้าราชการระดับสูงของกรมปศุสัตว์ไปเกี่ยวข้องกับการสวมสิทธิลักลอบส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีนผ่านท่าเรือแหลมฉบัง สำแดงเอกสารเท็จและตราปลอม ทำเป็น ขบวนการใหญ่สร้างความเสียหายนับพันล้านบาทนายอัจฉริยะเปิดเผยว่า กรณีนี้มีนายทุนเข้ามาสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ไปยังประเทศจีนด้วยการสำแดงเท็จ มีเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์อยู่เบื้องหลังในการส่งออกครั้งนี้ ทำให้ประเทศจีนตีสินค้ากลับมายังประเทศไทย ทำให้เกษตรกรในประเทศได้รับความเสียหายอย่างหนัก และในอนาคตอาจจะกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรแขนงอื่นๆ“ผมทราบตัวข้าราชการระดับสูงที่เข้าไปเกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว มีหลักฐานเพียงพอในการฟ้องคดี รวมไปถึงมีผู้เสียหายอีกหลายคนที่พร้อมจะมาให้ข้อมูลกับดีเอสไอ ก่อนหน้านี้ผมนำหลักฐานบางส่วนไปมอบให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ส่วนนายทุนที่อยู่เบื้องหลังเป็นน้องชายของอดีตรัฐมนตรีฝั่งรัฐบาล พยายามวิ่งเต้นอย่างหนัก ให้ที่ปรึกษามาคุยกับผม ติดต่อผ่านตำรวจนายหนึ่งใน บช.ก. ยินดีจะจ่ายเงินให้เพื่อไม่ให้ไปฟ้องร้อง แต่ผมปฏิเสธและด่ากลับไป เพราะไม่ใช่โสเภณีที่จะเอาเงินมาซื้อตัวได้ ยืนยันต้องล้างบางกับข้าราชการระดับสูงที่คดโกง เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศ ไทยให้ได้รับความเป็นธรรม ส่วนที่อธิบดีกรมปศุสัตว์ไปฟ้องร้องผมในข้อหาหมิ่นประมาทนั้น ไม่รู้สึกกังวล เป็นคดีเล็กน้อย ยิ่งไปฟ้องก็ยิ่งทำให้ดูโง่ ในอดีตไม่เคยมีข้าราชการคนไหนฟ้องชนะผมเลยสักครั้ง ขนาดอดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ยังฟ้องไม่ชนะเลย” นายอัจฉริยะกล่าวมีรายงานว่าก่อนหน้านี้นายอัจฉริยะยื่นหนังสือและหลักฐานต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ร้องทุกข์กล่าวโทษกรณีที่อธิบดีกรมปศุสัตว์และพวกร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานละเว้นหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตาม ม.157 ในกรณีมีกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลปลอมเอกสารราชการของกรมปศุสัตว์สวมสิทธิการส่งออกตีนไก่ไปจีน สร้างความเสียหายอย่างมากแต่อธิบดีกรมปศุสัตว์กับพวกเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆอ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่