การหารือ 2 แกนนำรัฐบาล ก้าวไกล–เพื่อไทย ต่างฝ่ายต่างประกาศยึดข้อตกลงตาม MOU ของ 8 พรรคร่วมรัฐบาล ผลักดันให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ แต่ในทางปฏิบัติส่อให้เห็นรอยร้าวระหว่าง พรรคอันดับ 1 และ 2 ที่โดยธรรมชาติแล้วจะต้องอยู่กันคนละขั้ว แต่ผลการเลือกตั้งที่ออกมาพรรคอันดับ 1 และ 2 อยู่ขั้วฝ่ายค้าน เป็นฝั่งประชาธิปไตย เหมือนกัน จึงเกิดการแข่งขันระหว่างพรรคอันดับ 1 และ 2 ขึ้นโดยอัตโนมัติฉากทัศน์แรก ตำแหน่งประธานรัฐสภา โดยปกติพรรคอันดับ 1 หรือพรรคอันดับ 2 ควรจะได้รับตำแหน่งนี้ เหตุผลเพราะต้องคุมเสียงข้างมากในสภา แต่เมื่อพรรคอันดับ 1 และ 2 ตกลงกันไม่ได้ก็ยกให้ พรรคอันดับ 3 ก็พอดีเป็นพรรคประชาชาติ ของ วันมูหะมัดนอร์ มะทา ยุติความขัดแย้งไปชนิดที่ยังคาใจกันอยู่สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ต้องยกตำแหน่งประธานรัฐสภาให้ ชวน หลีกภัย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับที่ 3 เช่นกัน เหตุผลเดียวกันคือต้องการตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ความสำคัญอยู่ที่ฉากทัศน์ต่อมาคือ การโหวตนายกฯ พรรคอันดับ 1 หรือ พรรคที่รวบรวมได้เสียงข้างมาก ต้องได้ตำแหน่งนายกฯ ที่ไม่ใช่พรรคอันดับ 1 ก็เป็นพรรคอันดับ 2 หรือพรรคอันดับ 3 ตามลำดับ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์สิ่งแวดล้อมทางการเมืองรัฐบาลที่ผ่านมา พลังประชารัฐ เป็นแกนนำยอมแลกกับตำแหน่งสำคัญและโควตา รมต.กระทรวงเกรดเอ ประเคนให้ ภูมิใจไทย และ ประชาธิปัตย์ แบบไม่คิดชีวิต เพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ขึ้นเป็นนายกฯคนที่ 29 ของประเทศไทย แม้ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ การต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลที่ถือไพ่เหนือกว่า พรรคแกนนำรัฐบาล ส่งผลให้การทำหน้าที่นายกฯได้ไม่เต็มร้อย รัฐบาลไม่มีเอกภาพ ชาวบ้านต้องรับกรรมไปตามระเบียบสู้มาจนถึงยกที่สอง ก้าวไกล พยายาม จะยึดเอาตำแหน่งนายกฯไว้ให้ได้ เกิดคำถามว่าการโหวตนายกฯในสภาของ พิธา ยังลูกผีลูกคน เหตุใด ก้าวไกล จึงเสนอให้มีการ แก้รัฐธรรมนูญ ม.272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. รู้ทั้งรู้ว่าความเป็นไปได้เป็นศูนย์ นอกจากต้องการซื้อเวลา และ ก้าวไกล ก็น่าจะรู้อยู่เต็มอกว่า การโหวตนายกฯไม่ว่าจะกี่รอบ ก็เป็นศูนย์ ถ้ายังไม่ยกเลิกนโยบาย ม.112 ถ้ายึดในหลักการของ MOU ต้องการให้ฝั่งประชาธิปไตย ประสบชัยชนะจริงเหตุใดก้าวไกลไม่ยอมถอยให้เพื่อไทยเพื่อก้าวไปข้างหน้าวันนี้คู่ต่อสู้ของ ก้าวไกล ไม่ใช่ฝั่งอนุรักษ์ หรือพรรคสองลุง แต่กลายเป็น เพื่อไทย และ ในจำนวน 8 พรรคร่วมรัฐบาล การจะจับมือกันเดินต่อไปข้างหน้า ก็ไม่ใช่ 6 พรรคที่เป็นตัวประกอบ แต่ขึ้นอยู่กับ ก้าวไกล และ เพื่อไทย ที่รวมเสียงกันได้ 292 เสียง จะจริงใจต่อระบอบประชาธิปไตยแค่ไหนฉากทัศน์ในสมรภูมิโหวตนายกฯรอบสอง สาม สี่ ห้า และสมรภูมิแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 ก็เพื่อดึงเวลาให้พิธาเป็นนายกฯของก้าวไกลที่ตามโรดแม็ปจะยาวไปถึงเดือน ก.ย. ในระหว่างทางจะต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างมหาศาล.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thอ่านข่าวเพิ่มเติม "คาบลูกคาบดอก"