วันนี้มีการโหวตเลือก “นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 รอบสอง” ตามระบอบประชาธิปไตยพิสดารแบบไทยๆ คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกฯก้าวไกล จะได้รับการเสนอชื่อให้โหวตเป็นนายกฯรอบสองหรือไม่? ยังเป็นปัญหาที่ต้องถกกันในที่ประชุมรัฐสภา ท่ามกลางเกมการเมืองและขวากหนามมากมาย เช้าวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องของ กกต. เรื่องการถือหุ้นสื่อไอทีวีของคุณพิธา ยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย เมื่อวานนี้ผมได้เขียนฟันธงล่วงหน้า “จุดจบของเกมนี้ พรรคก้าวไกลจะถูกบีบให้ไปเป็นฝ่ายค้าน” ส่วน เพื่อไทยฉลุยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล วันนี้ก็คงรู้ “ดีลลับ” จะเป็น “ดีลจริง” หรือไม่ ถือเป็นฉากทัศน์ใหม่การเมืองภาคพิสดารของไทยแต่ฉากทัศน์หลังจากนั้น เกินปัญญาที่ผมจะคาดเดาตั้งแต่ค่ำวันอาทิตย์ต่อเนื่องถึงสายวันจันทร์ ฉากทัศน์ใหม่การจัดตั้งรัฐบาลชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ เริ่มจาก พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ซึ่งมีเพียง 1 เสียงใน 8 พรรคร่วมรัฐบาลก้าวไกล ได้ออกมาวิเคราะห์แบบชี้นำว่า ถ้าต้องโหวตอีก หากมีโอกาส 8 พรรคก็คงจะโหวตให้ แต่ถ้าไม่มีโอกาส ก็คงต้องเลือกพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ถ้า ส.ส.ฝั่งตรงข้ามหรือ ส.ว.ยังติดเงื่อนไขว่า ไม่เอาพรรคก้าวไกลมาร่วมด้วย ก็เป็นเรื่องของเพื่อไทยและก้าวไกลต้องตกลงกันเองว่าจะเอาอย่างไรในที่สุด เพื่อให้มีนายกฯคนที่ 30 ให้ได้ ก้าวไกลคงต้องเสียสละออกไปเป็นฝ่ายค้าน และโหวตสนับสนุนเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเหมือนฉากทัศน์ที่ผมได้เขียนไปเมื่อวานนี้ บีบก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้านพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่เพียงวิเคราะห์ได้เป็นฉากๆเหมือนคนเดินหมากเอง แต่ยังเป็นผู้ประสานงานด้วย คุณวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง เปิดเผยว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ได้โทรศัพท์ไปหาตนด้วยตัวเอง ชวนให้ร่วมรัฐบาล (แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ารัฐบาลไหน) ตนยังไม่ได้ให้คำตอบ ขอคุยกับพรรคก่อน และยํ้าจุดยืนว่าคัดค้านการแก้มาตรา 112ในขณะที่ เพื่อไทย พรรคใหญ่อันดับสอง 141 เสียง ที่ ก้าวไกล หวังใช้เอ็มโอยูผูกมัดเป็นข้าวต้มมัดอยู่ด้วยกัน ไม่ว่าพิธาได้เป็นนายกฯ หรือไม่ได้เป็น แต่ในโลกความเป็นจริงไม่ได้สวยงามอย่างที่ก้าวไกลวาดฝัน คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แกนนำคนสำคัญของเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ คุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการคุยนอกจอเช้าวันจันทร์ว่า ประชาธิปไตยมีหลายเฉดหลายลำดับสี เผด็จการก็มีหลายเฉดหลายลำดับสี หากการโหวตรอบที่สอง พิธาไม่ได้คะแนนเสียง ส.ว.เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ (จาก 13 เสียงในครั้งแรก) หรืออย่างน้อยไม่เกิน 350 เสียง ก็ไม่มีรอบ 3 แล้ว (เพื่อไทยไม่เอาพิธาแล้ว)คุณภูมิธรรม ยังเปิดเผยด้วยว่า การเมือง (ไทย) อะไรก็เกิดขึ้นได้ มีความเป็นไปได้ที่ขั้วรัฐบาลเดิม 188 เสียง บวกกับ ส.ว.250 เสียง จัดตั้งเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย รัฐบาลเสียงข้างน้อยเราเคยพบบรรยากาศมาแล้ว งูเห่าเต็มฟาร์ม กล้วยเต็มสวน มาแล้ว คุณภูมิธรรมเปิดเผยอีกว่า มีคนเพื่อไทยถูกต้อนเข้าไปคุยมากกว่า 20 คน (ทำไมใช้คำว่า “ต้อน” ก็ไม่อาจทราบได้?) พรรคก้าวไกลก็มีประมาณ 30 กว่าคน เท่าที่ผมรู้ข้อมูลมา จริงไม่จริงไม่รู้ ให้คุณไปตรวจสอบคนของคุณ ผมพยายามตรวจสอบคนของผมแล้ว คนไหนที่ผมรู้ว่ามีการคุย ผมพยายามคุย จริงไม่จริงไม่รู้ เมื่อมีเสียงเอ๊ะ ผมปล่อยให้เอ๊ะผ่านไปเฉยๆไม่ได้แต่ยังมี “อีกฉากทัศน์หนึ่ง” ที่ คุณภูมิธรรม ยังไม่ได้เปิดเผยที่ไหนทั้งสิ้นเป็น “ฉากทัศน์สุดท้าย” ที่ผมได้ยินมา จริงไม่จริงไม่รู้ เป็นฉากทัศน์ที่มี เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ 7 พรรคเดิม ไม่มีพรรคก้าวไกล แต่มีพรรคใหม่เข้ามาเพิ่ม และ เพื่อไทยได้เป็นนายกฯ มี “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็น รองนายกฯควบรัฐมนตรีกลาโหม ฉากทัศน์นี้ เพื่อไทยกินรวบทั้งกระดาน.“ลม เปลี่ยนทิศ”อ่านข่าวเพิ่มเติม "หมายเหตุประเทศไทย"