วันนี้ (พุธที่ 19 กรกฎาคม 2566) เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งสำหรับประเทศไทยของเรา เพราะจะเป็นวันประชุมรัฐสภานัดที่ 2 หลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม เพื่อจะโหวตคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งผมจำเป็นต้องส่งต้นฉบับก่อนที่การประชุมพรรคร่วม 8 พรรค ที่สนับสนุนคุณพิธาจะมีมติอย่างไร? จะเสนอชื่อคุณพิธาอีกหรือไม่? หรือจะเสนอในแบบใด?เนื่องจากมีข่าวพาดหัวของหนังสือพิมพ์บางฉบับระบุว่า คุณภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำคนสำคัญของพรรคยังไม่ตกลงปลงใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะส่งคุณพิธาในรอบ 2 ขอปรึกษาหารือกันก่อนขณะเดียวกันก็มีหลายๆท่านโดยเฉพาะ ส.ว.ที่ออกมาเตือนว่าการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ซึ่งจะขัดกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภาข้อ 41 ที่ว่าไม่ให้นำญัตติที่ตกไป มาเสนอใหม่ในสมัยประชุมเดียวกันหรือไม่?, อย่างไร?จึงจำเป็นที่จะต้องหารือกันก่อนการประชุมรัฐสภาแม้สถานการณ์จะยังไม่แน่นอน ณ นาทีที่ผมเขียนต้นฉบับ แต่เพื่อให้ผมส่งไปตีพิมพ์ได้ทันเวลา ก็ขออนุญาตสมมติว่าเหตุการณ์จะเป็นไปตามวาระการประชุมที่กำหนดไว้ในตอนแรกว่าจะมีการประชุมเพื่อโหวตคุณพิธาเป็นนายกฯในยกที่ 2 ก็แล้วกันเมื่อสมมติเช่นนี้แล้วผมก็ขอวิงวอนกองเชียร์ทั้ง 2 ฝ่ายอีกครั้งเหมือน กับที่วิงวอนไว้เมื่อครั้งก่อน...คือไม่ว่าคุณพิธาจะได้เป็นนายกฯหรือไม่ได้เป็นนายกฯ ขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายจงอยู่ในความสงบและใช้สติปัญญาเป็นที่ตั้งอย่ากระทำการใดๆอันจะนำไปสู่ความวุ่นวายจนถึงขั้นปะทะกันอย่างรุนแรง อันจะเป็นผลเสียต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังฟื้นฟูอย่างดียิ่งในขณะนี้ให้ตกตํ่าถดถอยต่อไปอีกที่ผมเป็นห่วงเป็นพิเศษก็ทางฝ่ายของกองเชียร์คุณพิธานั่นแหละครับ เพราะส่วนใหญ่มักเป็นวัยรุ่นอารมณ์ร้อนอาจจะลงสู่ท้องถนนกันอีก หากคุณพิธาแพ้เป็นครั้งที่ 2ผมจึงต้องเข้าห้องพระไหว้พระอีกครั้งด้วยประการฉะนี้อย่างไรก็ดี ขณะที่นั่งเขียนต้นฉบับวันนี้ ก็พอจะมีข่าวดีที่น่าชื่นใจเกี่ยวกับประเทศไทย โดยรวมของเราเกิดขึ้นถึง 2 ข่าวนั่นก็คือข่าวที่ว่าเมื่อ 2-3 วันนี่เอง ซีรีส์ฮิตของเกาหลีชุด King the land Ep.10 ที่ออกมาฉายทางเน็ตฟลิกซ์เรียบร้อยแล้วนั้น ก็มาถึงฉากที่พระเอกนางเอกในเนื้อเรื่องชวนกันมาเที่ยวประเทศไทยผ่านสถานที่ต่างๆถึง 15 แห่ง ทั้งร้านอาหารและแหล่งท่องเที่ยว เช่น คุณแดงกวยจั๊บญวน, โลหะปราสาท วัดราชนัดดาฯ, วัดอรุณฯ, ไอคอนสยาม, ตลาดร่มหุบ, คลองโอ่งอ่าง, ถนนข้าวสาร, เอเชียทีค, เสาชิงช้า, สยามสแควร์ ฯลฯ เป็นต้นทำให้เชื่อกันว่าจะมีแฟนคลับของซีรีส์เกาหลีชุดนี้ติดตามมาเที่ยวสถานที่ต่างๆ รวมทั้งมากินอาหารต่างๆที่เอ่ยถึงอย่างแน่นอนเรียกว่าช่วยโปรโมตประเทศไทยเราอย่างเต็มที่ชนิด ททท.ทุ่มเงินเท่าไรก็อาจทำไม่ได้เท่านี้อีกข่าวหนึ่งแถลงโดย ท่านผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครชิคาโก สหรัฐฯ อ้างการสำรวจล่าสุดของศูนย์วิจัย PEW Research Center เกี่ยวกับตลาดอาหารในสหรัฐฯว่า...อาหารไทยเป็นอาหารเอเชียที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 ในสหรัฐฯ รองจากจีน และญี่ปุ่น โดยอาหารไทยเรามีสัดส่วน 11 เปอร์เซ็นต์ ญี่ปุ่น 28 เปอร์เซ็นต์ และจีน 39 เปอร์เซ็นต์ปัจจุบันมีร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ 5,400 ร้าน มูลค่าการตลาด 13,200 ล้านเหรียญต่อปี (ประมาณ 462,066 ล้านบาท) ทำให้สหรัฐฯต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารจากไทย เช่น ข้าวหอมมะลิ, กะทิกระป๋อง, เครื่องแกง, ซอสปรุงรส ฯลฯ จำนวนมากอ่านแล้วก็ชื่นใจเช่นเดียวกัน เพราะการเป็นอันดับ 3 รองจากอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น เป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก เพราะทั้ง 2 ชาติ เขาไปบุกเบิกก่อนเรา แต่เราซึ่งไปทีหลังทำได้ขนาดนี้ ผมถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงแล้วครับครับ! ก็เอาข่าวดีๆมาปลอบประโลมใจกันในวันแห่งความลุ้นระทึก...เผื่อจะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างจบลงในแง่ดีได้บ้างอย่าลืมว่าข่าวดีๆ ไม่ว่าเรื่องท่องเที่ยวหรืออาหารไทยที่ว่านี้จะกลายเป็นข่าวร้าย ยอดขายหรือยอดท่องเที่ยวลดวูบลงอย่างแน่นอนถ้าคนไทยทะเลาะกัน...อาหารไทยอาจไม่เท่าไรนัก เพราะขายอยู่ที่สหรัฐฯ แต่ท่องเที่ยวไทยที่จะได้เพิ่มจากติ่งเกาหลีร่วงแน่นอนครับ...ถ้ามีเหตุการณ์บานปลายเกิดขึ้นในวันที่ 19 กรกฎาคม และหลังจากนั้นก็ยังไม่ยุติลง.“ซูม”อ่านข่าวเพิ่มเติม "เหะหะพาที"