เล่นให้เด็กมันดู ตามฟอร์มของบรมครูการเมืองยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ฟาดฟันกันแย่งเก้าอี้ประมุขพรรค ด้วยเกมเขี้ยวๆแบบที่ทีมหนุน “เดอะมาร์ค” นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำโดยปรมาจารย์ “ชวน หลีกภัย” เดินหมากเบรกก๊วนของ “เสี่ยต่อ” นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ไม่ให้ยึดป้อมค่ายได้ ประลองกำลังกันหลายกระบวนท่า จบด้วยเกม “ล่มองค์ประชุม”ทำให้การประลองยุทธ์เลือกหัวหน้าพรรค ปชป.ต้องเลื่อนออกไปหนังตัวอย่าง “เสียงข้างมาก” ไม่อาจหักดิบ เอาชนะ “เสียงข้างน้อย” ได้ง่ายๆ ตำราเกมยุทธ์ สูตรการเมืองแบบไทยๆที่ไม่อาจตัดสินด้วยตัวเลขของเสียงโหวตเสมอไปนี่คือกรณีศึกษาที่ “มือใหม่หัดตั้งรัฐบาล” ทีมงานพรรคก้าวไกลควรต้องเรียนรู้ลำพังการต่อสู้ด้วยเกมแห่เสียงข้างมาก ไม่อาจการันตีขบวนหาม “หนุ่มทิม” นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี หัวหน้ากองทัพส้ม ขึ้นถึงสวรรค์ได้เกมเดิมพันเลือกผู้นำประเทศไทย มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าเลือกหัวหน้าชั้นเรียนระดับเซียนเหนือเซียนทั้งนั้นที่อยู่ในกระดานอำนาจที่แน่ๆในจังหวะที่ก๊วน “เสี่ยต่อ” ยังยึดประชาธิปัตย์ไม่ได้ นั่นก็หมายถึงดีลพิสดาร ที่ร่ำลือว่ามีการต่อสายกับคนแดนไกลไว้ จะขนทีม ปชป.กระโดดค้ำถ่อข้ามขั้วไปเติมสมการเสียงข้างมากของ “รัฐบาลแห่งความฝัน” ดันแต้มเพิ่มจาก 312 เสียงมันยังเป็นอะไรที่ไม่อาจข้าม “ไอ้เข้ขวางคลอง” ไปได้ ตราบใดที่ “ชวน-อภิสิทธิ์” ยังแบกหลักการขวางลำอยู่ การผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างประชาธิปัตย์กับขุมข่ายค่ายเพื่อไทยยากจะเกิดขึ้นง่ายๆกลายเป็นสมการ “ติดล็อก” แก้โจทย์ยากไปอีกชั้นโดยเงื่อนไขสถานการณ์แคะประชาธิปัตย์ออกจากขั้วอำนาจรัฐบาลเดิมลำบาก ยิ่งทำให้การไล่เก็บ “เบี้ยใต้ถุนร้าน” เติมแต้มฝ่ายเสียงข้างมาก 312 เสียง ให้ได้ 376 เสียง โหวตหนุน “พิธา”มันไม่ใกล้เคียงความจริงกับสิ่งที่เหล่า “ด้อมส้ม” คาดหวังกันซะเลยในจังหวะที่กระชั้นเข้ามา เหลือเวลาอีกไม่กี่อึดใจ 13 กรกฎาคมนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เคาะระฆังยกแรก โหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมร่วมรัฐสภา และเผื่อโอกาสล่วงหน้า วันที่ 19-20 กรกฎาคม ให้ลุ้นช็อต 2 ช็อต 3ตามเกม อย่างเก่งก็ลากให้ได้มากสุด 3 ยกเท่านั้น“วันนอร์” เล่นบท “คนกลาง” ตอบแทนความไว้วางใจของกองทัพส้มได้เท่านี้ ปล่อยให้แก๊งฟันน้ำนมดิ้นเต็มที่ ดันกันสุดแรงเกิด ถ้าหาม “พิธา” ไม่ขึ้น ก็ต้องฟาวล์ไปตามกติกา เปิดทางให้ “ขบวนการฟันปลอม” ที่กระดิกเท้ารอ รวบจังหวะสองมาถึงตรงนี้ดูจะหมดหวังกับการลุ้นแต้มในสภา ในการแคะ ส.ส.จากขั้วตรงข้ามลำบาก ยากมากที่จะแซะ “250 ส.ว.ลากตั้ง” แก้โจทย์สมการเติมช่องว่างให้ครบ 376 คะแนนเพราะมันขาดอีก 64 เสียง บานตะไท พอๆกับพรรคขนาดกลางไปถึงพรรคใหญ่ตามรูปการณ์ที่ “พิธา” ต้องหันไปพึ่งมุกถนัด ปั่นแนวร่วมนอกสภา อารมณ์แบบที่ทวิตชวน “เทย์เลอร์ สวิฟต์” มาจัดคอนเสิร์ตในเมืองไทย ฉลองบรรยากาศที่กำลังจะมีรัฐบาลประชาธิปไตย พร้อมๆไปกับเดินสายต่างจังหวัดปลุกพลัง “ด้อมส้ม” คอยอารักขาเดินหมาก โลกล้อมประเทศไทย ป่าล้อมเมือง มวลชนล้อมสภารุก ขู่ กดดันสภา ต้องโหวตตามมติประชาชนส่วนใหญ่ แต่อีกทางก็ต้องตั้งรับ นำทัพฝ่าวงล้อม “นิติสงคราม” ตามสัญญาณล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขยับชนักปักกลางหลัง เดินหน้าคดีถือหุ้นสื่อ “เศษซากไอทีวี” ชู้ตลูกต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญลุ้นคำสั่ง “พิธา” หยุดปฏิบัติหน้าที่ ในห้วงคาบลูกคาบดอก โหวตนายกฯในสภาเผลอๆจะโดนเตะตัดขาหัวทิ่ม ล้มกลิ้งก่อนขึ้นเวที.ทีมข่าวการเมือง