ทั้งๆที่โหวตนายกรัฐมนตรีในวันที่ 13 ก.ค.66 แต่กลับไปถกเถียงกันถึงเรื่องที่จะต้องโหวตครั้งที่ 2-3 หรือไม่ก็แสดงว่าการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตจาก “ก้าวไกล” ไม่ผ่านตั้งแต่โหวตแรกแล้วหรือไงก็เป็นคำถามที่พอจะรู้คำตอบแล้วในเนื้องานจริงๆนั้น “ศิริกัญญา ตันสกุล” รองหัวหน้า “ก้าวไกล” ตัวเต็งที่จะนั่งเก้าอี้รัฐมนตรีคลังคนใหม่ ที่ซ้อมบทไม่น้อยกว่าหัวหน้าพรรค ด้วยฉากทัศน์นายกรัฐมนตรีคนที่ 30“ไหม” บอกอย่างมั่นใจว่าได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ครบถ้วนตามเป้า ทำให้ได้เสียง 376 เกินกึ่งหนึ่งความหมายที่จะบอกก็คือโหวตเพียงครั้งเดียวก็จบแล้วไม่ต้องไปถกเถียงกันให้มากความว่า ต้องโหวตกันกี่ครั้งถึงจะจบกระบวนการ เนื่องจากมีเสียงสะท้อนว่า 3 ครั้งคือครั้งที่ 1 จากนั้นก็ครั้งที่ 2 ในวันที่ 19 ก.ค. และครั้งสุดท้ายปิดเกม 20 ก.ค.อีกฝ่ายหนึ่งบอกว่าครั้งเดียวก็เกินพอนํ้าเสียงจากรองหัวหน้า “ก้าวไกล” นั้นว่าไปแล้วค่อนข้างจะยํ้าคำ เพราะอยู่ใกล้ชิดติดกับทีมงานล็อบบี้ของพรรคแต่ไม่ยอมเปิดเผยว่าตัวเลข ส.ว.นั้นเท่าใดแน่ ที่จะเอาไปยืนยันกับ ส.ว.ที่ระบุว่า หลายคนที่เคยบอกว่าจะยกมือให้นั้นเปลี่ยนใจแล้ว...นี่ก็เลยงงๆกันพอสมควรไม่รู้ว่าใครจริงใครเท็จจึงไม่แปลกที่ความสนใจโดยทั่วไป จึงมองข้ามวันที่ 13 ก.ค.ไปอย่างไม่อินังขังขอบ แต่ไปถกเถียงกันในประเด็นควรโหวตกี่ครั้งนํ้าเสียงจากประธานสภาฯ ที่มีการพูดคุยกับ 2 รองประธาน ก็ยังแปร่งๆอยู่ เมื่อรองประธานคนที่ 2 ฟันธงไปเลยว่าจะมีครั้งที่ 2 และ 3แต่ประธานฯบอกว่า ต้องดูที่หน้างานและพูดคุยกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อน แต่เห็นด้วยที่จะทอดระยะออกไปสักสัปดาห์หนึ่งจึงเหมาะสม เพราะสามารถเรียกประชุมได้ตรงกับวันประชุมของ ส.ส.พอดีว่าไปแล้วหลังผ่านการโหวตรอบที่ 1 ที่ไม่ผ่านนั้น เท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายสนับสนุนได้มีเวลาที่จะเริ่มต้นล็อบบี้กันได้อีกยกมีเวลาที่จะวางแผนเพื่อแก้เกม หาเสียงสนับสนุนให้ได้ตามเป้า กรณีนี้คือทำอย่างไรให้ ส.ว.เปลี่ยนใจหันมาสนับสนุนที่สำคัญก็จะต้องร่วมมือร่วมใจกับ 8 พรรค เพื่อช่วยกันหาช่องทางอย่างสุดความสามารถอย่างแถลงการณ์ที่ประกาศไปแล้วเพราะถือว่าเป็นเฮือกสุดท้ายแล้วอีกมุมหนึ่งที่ผ่านไปไม่ได้ก็คือ การหารือร่วมกันว่าถ้า “ไม่ผ่าน” จะทำอย่างไรต่อไป ถ้ารูปการณ์เป็นไปอย่างนี้“เพื่อไทย” ต้องการคำตอบมากที่สุด เนื่องจากเป็นพรรคอันดับ 2 ที่ต้องดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลต่อไปแทนที่เห็นแกนนำ “เพื่อไทย” พยายามจะบอกว่าไม่มีแผน 2 แต่อย่างใดมีแต่จะหนุน “พิธา” ลูกเดียว ซึ่งคงไม่มีใครเชื่อว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงเนื่องจากอยู่ในฐานะอย่างนี้ ไม่คิดไม่เตรียมไม่ได้เพราะสถานการณ์ตรงนั้นการเมืองจะเข้าสู่โหมดใหม่ คือการแย่งชิงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลรอคิว “ส้มหล่น” เหมือนกัน!“สายล่อฟ้า”