ก้าวไกลยืนกรานขอครองบัลลังก์ประธานสภาฯ เชื่อ พท.มุ่งบรรลุเป้าใหญ่ตั้งรัฐบาลไม่หวั่นบานเป็นปมผิดใจกัน “ภูมิธรรม” คอเป็นเอ็นยึดมติโต๊ะเจรจา เบรก “โรม” มั่นหน้าแสดงความเห็นส่วนตัวเสียงเขียวมารยาทไม่มีใครทำ “พิธา” แจ้งเลื่อนถก 8 หัวหน้าพรรครอเช็กหัว ส.ส.ให้ชัดก่อน เปิดพรรคนัดหารือ 22 มิ.ย. จับตา ป.ป.ช.รอ “พิธา” ยื่นบัญชีทรัพย์สิน ลุ้นส่องรายการถือหุ้นไอทีวี ขณะที่ ปชป.ตกอยู่ในสภาพฉาวโฉ่ แกนนำต้องออกโรงโต้ลูกพรรคทวงเงินค่าเลือกตั้ง ยืนยันจ่ายทุกคนเท่ากัน พรรคอุดมการณ์แน่วแน่ไร้นโยบายใช้เงินซื้อเสียงระหว่างตั้งตารอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศผลเลือกตั้งรับรองสถานะ ส.ส.อย่างเป็นทางการ ความเคลื่อนไหวฝ่ายพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะการเจรจาต่อรองด่านแรกในตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย ชักเขม็งเกลียวขึ้นเรื่อยๆก.ก.ยืนกรานขอบัลลังก์สภาฯเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มิ.ย. ที่ ม.ธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต นายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาฯระหว่างพรรค ก.ก.กับพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า พรรคต้องการตำแหน่งประธานสภาฯเพราะมีงานที่อยากผลักดัน ส่วนกระบวนการหารือกับพรรค พท.ยังไม่ได้รับรายงานผลการเจรจาว่าเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าพรรคจะทำหน้าที่ประธานสภาฯ ส่วนจะมีปัญหาขัดแย้งกันระหว่างพรรค พท. และพรรค ก.ก.หรือไม่ ตอนนี้ยังไม่เห็นว่ามีปัญหา ทุกเรื่องต้องพูดคุยกัน ไม่มีทางเห็นตรงกัน 100% เพียงแต่จุดไหนที่สองฝ่ายต้องการต้องหาทางพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองพรรคเห็นเป้าหมายใหญ่ที่จะเดินไปร่วมกัน ไม่กังวลเรื่องความผิดใจกันเผยล็อบบี้ ส.ว.สัญญาณบวกนายรังสิมันต์กล่าวด้วยว่า แนวโน้มการรวมเสียง ส.ว.เพื่อขอให้โหวตสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก.เป็นนายกฯดีขึ้นเรื่อยๆ แต่จะจบอย่างไรต้องไปดูวันโหวต ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะปิดสวิตช์มาตรา 272 ได้สำเร็จ ทั้งนี้ มาตรา 272 เป็นกระบวนการขั้นตอนตามกฎหมาย และจะหมดอายุปีหน้าอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่รู้จะให้มาตรา 272 แผลงฤทธิ์ตอนนี้ไปทำไม คิดว่าเดินหน้าด้วยการเคารพการตัดสินใจของประชาชนจากวันที่ 14 พ.ค. เป็นทางออกที่ดีที่สุด เป็นการชี้แจงด้วยเหตุและผลหลายฝ่ายรับฟัง และจากการพูดคุย บางส่วนขอเวลาตัดสินใจ แต่เท่าที่ทราบก็มีสัญญาณบวกในเรื่องนี้ เชื่อมั่นว่านายพิธาจะได้เป็นนายกฯแน่นอน ทั้งนี้ พรรคจะจัดสัมมนา ส.ส.ก่อนเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นการภายใน ทั้งเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ แบ่งปันประสบการณ์ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตั้งแต่วันแรกๆ วันเปิดประชุมสภาฯนัดแรกพรรคมีความพร้อม เราอยากให้กระบวนการเกิดเร็วที่สุด เพื่อเข้าไปทำประโยชน์กับประชาชนลั่นไม่คิดเลื่อนวันโหวตนายกฯเมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจรวบรวมรายชื่อ ส.ส.เพื่อเสนอญัตติให้สภาฯเลื่อนการโหวตนายกฯออกไปเพราะนายพิธายังติดปัญหาเรื่องคดีความ นายรังสิมันต์ตอบว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบ แต่คิดว่าจะเลื่อนจริงๆหรือ เลื่อนไปเพื่ออะไร ประชาชนไม่ได้อะไรจากเรื่องนั้น ใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ขอให้มองประชาชนด้วยว่าประชาชนกำลังรอคอยการพัฒนาเรื่องต่างๆ สุดท้ายหากมีการดำเนินคดีกันจริงๆ อย่าไปคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะได้ตำแหน่งนายกฯ ขั้วอำนาจเก่าจบไปแล้ว และข้อกล่าวหาใดๆไม่มีทางที่จะดำเนินการขัดขวางได้ รวมถึงเรื่องหุ้นสื่อไอทีวีติงอย่าผลักคนออกระบบศึกษานายรังสิมันต์กล่าวกรณีน้องหยก เยาวชนอายุ 15 ปี ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ปีนรั้วเข้าโรงเรียนเนื่องจากโรงเรียนปิดประตูไม่ให้เข้าเรียนว่า การกระทำของน้องหยก เชื่อว่าเป็นการตัดสินใจของน้องเอง ทุกอย่างที่เขาตัดสินใจไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง ณ วันนี้ทุกคนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาอยากจะทำอยากจะตัดสินใจแบบไหน ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง อย่าใช้กรณีนี้มาบอกว่า พรรค ก.ก.อยู่เบื้องหลังเลย การทำแบบนั้นมันไม่ดีต่อใคร ผู้สื่อข่าวถามว่า ทีมการศึกษาของพรรค ได้หารือถึงกรณีนี้หรือยัง นายรังสิมันต์ตอบว่า ยัง ไม่ได้คุยกับทีมการศึกษา แนวทางของการจัดการที่ดีที่สุดคือการพูดคุยกัน มันไม่มีเห็นตรงกัน 100% พูดคุยคือการดีที่สุด ปัจจุบันนี้ยังมีคนอยู่นอกการศึกษา ดังนั้น ใครที่อยู่ในระบบการศึกษาอยู่แล้วอย่า ไปผลักเขาออก ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่ อย่าผลักใครออก เราใช้วิธีการพูดคุยทำความเข้าใจหาทางกัน คือวิธีการที่ดีและเป็นอารยะที่สุด “ชัยธวัช” ติวเข้มทีม ก.ก.ปักษ์ใต้ที่ จ.พัทลุง พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีการจัดการสัมมนาคณะทำงาน 14 จังหวัดภาคใต้ มีนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. เป็นวิทยากรบรรยายร่วมกับบุคลากรและสมาชิกพรรค นายชัยธวัชกล่าวว่า ชัยชนะเลือกตั้งที่พรรค ก.ก. ได้รับคือ ผลลัพธ์จากการทำงานหนักของเครือข่าย และทีมงานจังหวัดทั่วประเทศอีกทั้งการวางโครงสร้างพรรคบนฐานความคิดที่เปิดให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม และขับเคลื่อนงานเพื่อวัตถุประสงค์ของพรรคไปด้วยกัน ตั้งแต่เป็นพรรคอนาคตใหม่ มีแนวคิดสร้างพรรคการเมืองที่มีชีวิต เดินทางไปกับประชาชนไม่ใช่เพียงมีชีวิตในช่วงที่มีการเลือกตั้งเท่านั้น การที่จะทำให้พรรค ก.ก. มีความเคลื่อนไหวและทำงานความคิดในสังคมได้ คือการกำหนดวาระแห่งการเปลี่ยนแปลงให้ได้ 4 ปีที่ผ่านมาบทบาทของพรรคอยู่ในฐานะฝ่ายค้าน แต่กลับได้รับการยอมรับ สามารถผลักดันวาระต่างๆได้ เพราะพรรคกำหนดโจทย์และดำเนินงานอย่างมีเป้าหมาย ถึงวันนี้ต้องย้ำกันซ้ำๆว่า พรรคอนาคตใหม่ต่อเนื่องมาถึงพรรค ก.ก. ไม่ได้ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อส่งบุคคลใดเข้าสภาฯ หรือแสวงหาอำนาจรัฐ แต่เราต้องการปักธง สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในสังคมระยะยาวพท.ยังยึดโต๊ะเจรจาเป็นหลักนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวว่าพรรค ก.ก. กับ พท.ตกลงเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เป็นที่พอใจของทั้งสองฝ่ายเพียงแต่ยังไม่ได้ระบุตัวบุคคลว่า เรื่องดังกล่าวทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนที่เคยให้สัมภาษณ์ไปก่อนหน้านี้ว่า ตั้งแต่คุยกันครั้งก่อน ที่พรรค พท.เสนอไปว่าอยากได้ตำแหน่งดังกล่าว แล้วพรรค ก.ก. จะนำไปหารือภายในเพื่อแจ้งความเห็นของพรรค ก.ก. กลับมา ตอนนี้เรายังคงรอคำตอบอยู่ จากการสอบถามไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค พท. ที่รับผิดชอบเจรจาจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับตน ยังไม่มีการประสานกลับมาจากพรรค ก.ก.แต่อย่างใด เรื่องนี้ อยากให้ทั้งสองพรรคคุยกันให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยสรุป ขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าจากจุดเดิม ส่วนตัวมองว่า ประเด็นเหล่านี้ที่จะนำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล ทั้งพรรค ก.ก.และพรรค พท.เป็นพรรคใหญ่ทั้งคู่ยังหารือกันไม่มากพอ เราต้องเร่งหารือกันเพื่อให้ผ่านการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ไปให้ได้ เบรก “โรม” ควรรักษามารยาทเมื่อถามถึงกรณี นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรค ก.ก.ออกมาระบุต้องการตำแหน่งประธานสภาฯควรเป็นของพรรค ก.ก.เพื่อขับเคลื่อนงานในสภาฯ นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นของนายรังสิมันต์ มองว่าเรื่องนี้คนอื่นไม่ควรแสดงความคิดเห็น รอให้การหารือของสองพรรคจบเรียบร้อยก่อนจะดีกว่า เพราะเมื่อการหารือยังไม่จบแล้วออกมาพูดเช่นนี้นั้นตามมารยาททางการเมืองเขาไม่ทำกัน รอให้คนที่มีหน้าที่ในการหารือจริงๆดำเนินการให้เรียบร้อยก่อนจะดีกว่า และตอนนี้พรรค พท.รอคำตอบอยู่เล็งคุมงานปราบยาเสพติดนายโกศล ปัทมะ ว่าที่ ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. กล่าวว่า ปัญหาที่ประเทศเจอหนักมากในเวลานี้คือเรื่องยาเสพติดระบาดทุกพื้นที่ หาง่ายยิ่งกว่าร้านสะดวกซื้อ ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมารัฐบาลแก้ปัญหาล้มเหลวขาดการเอาใจใส่ไม่ตั้งใจอย่างจริงจัง สถานการณ์ยาเสพติดเข้าขั้นวิกฤติมีผลกระทบต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ช่วงหาเสียงประชาชนได้สะท้อนปัญหาเกี่ยวกับลูกหลานติดยาเป็นจำนวนมาก คิดถึงผลงานนโยบายปราบปรามยาเสพติดในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่มีนายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกฯ วันนี้เขาโชคร้ายที่ลูกหลานเติบโตมาในยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ที่ยาเสพติดระบาด พรรค พท. เราจะนำแนวทางการแก้ปัญหาอย่างจริงจังกลับมาใช้อีกครั้ง ฝ่ายบริหารจะลงไปนั่งหัวโต๊ะแก้ปัญหาเอง ไม่ทำเหมือนรัฐบาลปัจจุบัน ที่ได้แต่พูดว่าเอาจริงเอาจังแต่ตัวนายกฯไม่เคยลงไปสัมผัสการทำงานของเจ้าหน้าที่ รัฐบาลหน้าจะได้เห็นฝ่ายบริหารลงไปจัดประชุมกับหน่วยปฏิบัติ อัปเดตกันเป็นรายสัปดาห์ เงินพ่อค้ายาจะไม่มีวันได้ใช้ มั่นใจได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ปัญหายาเสพติดจากหน้ามือพลิกเป็นหลังมือทันทีให้รอ รบ.ใหม่คลี่ปมเมียนมานายนพดล ปัทมะ รองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะอดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวนายดอน ปรมัตถ์ วินัย รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศไทย (กต.) ทำหนังสือเชิญประเทศในอาเซียนมาประชุมอย่างไม่เป็นทางการเรื่องเมียนมาที่ไทยแต่อินโดนีเซีย ประธานอาเซียนไม่ตอบรับว่า รู้สึกแปลกใจว่าประเด็นเมียนมาที่ประชุมสุดยอดอาเซียนเพิ่งหารือกันเมื่อเดือน พ.ค. ดังนั้น รัฐบาลรักษาการควรรอให้รัฐบาลใหม่ เข้ามาดำเนินการแก้ประเด็นเรื่องเมียนมา รัฐบาลใหม่น่าจะมีท่าทีที่แตกต่างจากรัฐบาลนี้ค่อนข้างมาก ไม่ว่า จะเป็นเรื่องปัญหาผู้อพยพ ปัญหาสิทธิมนุษยชน ปัญหาชนกลุ่มน้อย ที่ผ่านมาการดำเนินงานด้านต่างประเทศของรัฐบาลนี้ถูกวิจารณ์ค่อนข้างมากว่าอ่อนแอ ไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าอยู่มา 8 ปีแก้ไม่ได้ ปัญหานี้ยืดเยื้อมานานยากที่รัฐบาลรักษาการจะแก้ได้ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่ นโยบายใหม่ ผู้นำใหม่ จะทำให้สถานะประเทศ ไทยดีขึ้น ช่วยให้แก้ไขปัญหาเมียนมาประสบความสำเร็จได้รอนับหัว ส.ส.เลื่อนถก 8 พรรคผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคที่นำโดยพรรค ก.ก. ในวันที่ 20 มิ.ย. ที่จะใช้พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) เป็นสถานที่ประชุมนั้น กำหนดการเดิมจะประชุมคณะกรรมการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลในช่วงเช้า ต่อด้วยการประชุมหัวหน้าและเลขาธิการพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค ในช่วงบ่าย แต่เนื่องจาก กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.ในวันที่ 21 มิ.ย. ทำให้แกนนำพรรคร่วมทั้ง 8 พรรค เห็นว่าการประชุมหัวหน้าพรรคควรเลื่อนออกไปเพื่อรอความชัดเจนจำนวน ส.ส.จาก กกต.ก่อน เพื่อการหารือเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลจะได้มีความชัดเจนเกี่ยวกับจำนวน ส.ส.ของแต่ละพรรค โดยนัดประชุมกันใหม่วันที่ 22 มิ.ย. ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล หัวหมาก หัวหน้าพรรคจะมีการวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง และพูดคุยประเด็นในการจัดตั้งรัฐบาลในหลายเรื่องๆ ทั้งตำแหน่งรัฐมนตรี และตำแหน่งประธานสภาผู้แทน ราษฎรด้วย เพราะเมื่อ กกต. รับรอง ส.ส.แล้ว จากนั้นจะเข้าสู่การเปิดประชุมสภาฯ ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ค.นี้ ป.ป.ช.ตั้งท่ารอ “พิธา” ยื่นทรัพย์สินนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีการยื่นรายการบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ที่จะครบกำหนดในวันที่ 18 มิ.ย.ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลจนถึงเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา ยังไม่พบการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เข้ามายัง ป.ป.ช.และไม่มีการประสานงานมาว่าจะขอขยายเวลายื่นหรือไม่ แต่ไม่แน่ใจจะส่งเอกสารทางไปรษณีย์ และอยู่ระหว่างเอกสารกำลังเดินทางมาหรือไม่ หรืออีกทางอาจยื่นทางอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ ยังไม่ได้เปิดเข้าไปในระบบ และยังไม่ได้รับรายงาน หากหลังวันที่ 18 มิ.ย.แล้ว ป.ป.ช.จะมีหนังสือเตือนไปให้รีบมายื่น ไม่ได้หมายความว่าจะมีความผิดฐานหลีกเลี่ยง หรือปกปิดบัญชีทรัพย์สิน แต่ถ้าเตือนไปแล้วยังไม่มายื่นอีกค่อยมาพิจารณาดูเจตนาอีกครั้ง ส่วนยื่นขอขยายเวลาตามกฎหมายทำได้ แม้จะยื่นขยายเวลามาแล้วรอบหนึ่งแต่ต้องเป็นเหตุ สุดวิสัย มีความจำเป็นจริงๆจึงเลื่อนได้ และต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาอนุญาตการันตี “พิธา” ยื่นทันเส้นตายเเน่ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ก.ก.ฝ่ายกฎหมาย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการยื่นบัญชีทรัพย์สินของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกฯพรรค ก.ก. ต่อ ป.ป.ช.ว่า โดยข้อเท็จจริง ถ้ายื่นที่สำนักงาน ป.ป.ช.ต้องไปยื่นตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ถ้ายื่นทาง อิเล็กทรอนิกส์ระบบปิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. จะเหลือแต่ทางไปรษณีย์ที่สามารถยื่นได้ในวันที่ 17 มิ.ย. กับวันที่ 18 มิ.ย.เท่านั้น แต่เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ทีมงานนั่งทำกันทั้งวันที่พรรคก้าวไกล ที่มีการประชุมกรรมการบริหารพรรคพอดี ยืนยันทันแน่นอน เพราะมีทีมทนายส่วนตัวนายพิธา นั่งทำกันอยู่ด้วย นอกจากนี้ ในส่วนอดีต ส.ส.ก้าวไกล ที่ต้องยื่นหลังจากพ้นตำแหน่งในวันที่ 20 มี.ค. ได้ดำเนินการยื่นต่อ ป.ป.ช.จนครบหมดทุกคนแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลที่จะครบกำหนดในวันที่ 18 มิ.ย.อดีต ส.ส.ของพรรคได้ยื่นทั้งหมดแล้ว แต่จะให้ลงรายละเอียดเฉพาะเจาะจงแต่ละคน ตนไม่กล้าตอบ อย่างกรณีนายพิธาทางทีมทนายส่วนตัวตัดสินใจใช้การยื่นวิธีไหน แต่ยืนยันว่ากรณีนายพิธาน่าจะยื่นต่อ ป.ป.ช.ทันระยะเวลาตามกำหนดแน่อาจมีบางรายการที่ไม่ได้ยื่นไป หรือขาดตก บกพร่อง ระเบียบของสำนักงาน ป.ป.ช.สามารถให้ยื่นเพิ่มเติมได้เป็นเรื่องปกติว่า หากเพิ่งได้เอกสารมาทีหลังหรือตรวจพบว่า มีบางรายการที่ยังไม่ได้ยื่น เป็นเรื่องรูทีนปกติมาก ไม่มีอะไรซับซ้อน ทันแน่นอนเพราะทางไปรษณีย์จะดูที่ตราประทับ ไม่มีปัญหาตีกรรเชียงอุบคนนั่งเก้าอี้ ปธ.สภาเมื่อถามถึงบทสรุปเรื่องเก้าอี้ประธานสภาฯเป็นของเพื่อไทยหรือก้าวไกล นายณัฐวุฒิตอบว่า จริงๆเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏไปว่า ในเงื่อนไขคือมีการพูดคุยได้ข้อสรุปที่ตรงกันแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องการประชุมของ 8 พรรคร่วมที่คาดว่า จะมีการแถลงอย่างน้อยก็คาดว่า เป็นเรื่องกรอบความชัดเจนที่มีการพูดคุยตกลงกัน น่าจะเป็นปลายสัปดาห์หน้า เมื่อถามว่า เป็นกรอบข้อตกลงเรื่องตัวประธานสภาฯใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า อันนี้เป็นเรื่องของเงื่อนไขว่า ประธานสภาฯจะอยู่ในกรอบความรับผิดชอบของพรรคใด ส่วนตัวบุคคลจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อถามย้ำว่า ณ ตอนนี้ยังไม่ได้ฟันธงว่าเป็นคนของเพื่อไทย หรือก้าวไกลใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า จริงๆมีการตกลงและได้ข้อสรุปกันแล้ว แต่จะมีการมาขอคุยกันครั้งสุดท้ายอีกรอบหนึ่ง เพราะว่าสุดท้าย 8 พรรคร่วมจะนัดประชุมกันอีกครั้งในสัปดาห์หน้า และอาจจะมีการแถลงถึงความชัดเจนเรื่องนี้อ้อมแอ้มปฏิบัติไม่ผิดไปจากทุกยุคเมื่อถามว่า ยังไม่ได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้งว่าเป็นเพื่อไทยหรือก้าวไกลใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบว่า จริงๆถือว่าได้ข้อสรุปแล้ว แต่มาขอคุยสุดท้ายอีกนิดหนึ่ง อาจจะมีข้อคำถามใดๆอีก แต่จริงๆจบแล้ว เมื่อถามว่า ที่บอกว่าจบแล้วในเบื้องต้นจะไปคุยกันครั้งสุดท้ายในช่วงปลายสัปดาห์หน้า แนวโน้มจะไปในฝั่งไหน นายณัฐวุฒิตอบว่า จริงๆไม่ได้ผิดไปจากที่คาดการณ์ไว้ ไม่ได้ผิดไปจากการปฏิบัติในการเลือกประธานสภาฯ ที่เคยเป็นมาตลอดในทุกยุคทุกสมัย เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าพรรคที่ 1 จะได้ตำแหน่งประธานสภาฯใช่หรือไม่ นายณัฐวุฒิตอบย้ำว่า ก็ไม่ผิดไปจากตามที่เคยปฏิบัติมาในทุกยุคทุกสมัยปชป.โต้ผู้สมัครทวงค่าเลือกตั้งนายไชยยศ จิระเมธากร รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน กล่าวถึงกรณีอดีตผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรค ปชป. 4 คน นำโดยนายนิมิตร จินาวัลย์ แถลงเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า ยังไม่ได้รับเงินค่าใช้จ่ายในการหาเสียงจากพรรคครบตามกำหนด และมีคนนอกชื่อย่อ “จ.” มายุ่งเกี่ยวกับการดำเนินงานของพรรค และหักเงินของผู้สมัครว่า พรรคจัดสรรให้เงินสนับสนุนแก่ผู้สมัคร ส.ส.เขตเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายหาเสียงเลือกตั้งเท่ากันทุกคน ได้โอนเงินเข้าบัญชีของผู้สมัครโดยตรง อีกทั้งจากการตรวจสอบบัญชีของพรรค พบว่าอดีตผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มนี้ได้รับเงินจากพรรคแล้ว และเป็นเงินจำนวนเท่ากับผู้สมัครคนอื่นๆ จากนั้นขึ้นอยู่กับผู้สมัครแต่ละคนว่า จะนำเงินนี้ไปบริหารจัดการอย่างไร ทั้งนี้นายนิมิตรเคยอ้างต่อพรรคว่าตัวเองมั่นใจว่า จะได้คะแนนเสียง 10,000 คะแนน เขาอาจคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากพรรค แต่ทางพรรคไม่ได้รับปากใดๆ กระทั่งเมื่อผลการเลือกตั้งออกมา นายนิมิตร และอดีตผู้สมัครอีก 3 คน ที่ร่วมแถลงข่าว ต่างได้คะแนนจริงประมาณ 600 คะแนนโบ้ยไม่รู้จัก “จ.” ไม่จ่ายซื้อเสียงนายไชยยศกล่าวต่อว่า การสรรหาบุคคลเป็นผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคได้ดำเนินกระบวนการต่างๆตามกฎหมาย ทำไพรมารีโหวตโดยสมาชิกพรรคในพื้นที่แล้วเสนอชื่อที่ได้รับความเห็นชอบมายังคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครของพรรคเลือกตามที่เสนอมา ส่วนที่มีการอ้างถึงคนที่ชื่อย่อ “จ.” ไม่ใช่คนที่เกี่ยวข้องกับพรรค เป็นเรื่องของอดีตผู้สมัครกลุ่มนี้จัดการเอง โดยผู้บริหารพรรคไม่เคยบอกว่าผู้สมัคร ส.ส.คนไหนต้องไปหาใคร หรือให้มาช่วย ที่นายนิมิตรอ้างว่า มีแกนนำพรรคมาเกี่ยวข้องกับนาย “จ.” นั้นไม่ทราบว่าหมายถึงใคร แต่เชื่อว่าไม่มีผู้บริหารพรรคคนใดไปยุ่งเกี่ยวอย่างแน่นอน พรรค ปชป.ไม่สนับสนุนการซื้อเสียง ให้หาเสียงเลือกตั้งด้วยอุดมการณ์และนโยบาย เงินที่พรรคให้นั้นอาจไม่เท่ากับจำนวนที่ผู้สมัครที่เพิ่งลงเลือกตั้งครั้งแรกคาดหวังไว้ แต่ยืนยันทุกคนได้เงินเท่ากัน เราไม่เคยรับปากผู้สมัครคนไหนว่า ใครจะได้เท่าไหร่ ถ้ามีปัญหาอะไรกับใครควรฟ้องร้องดำเนินคดีกับบุคคลนั้นๆ เพราะพรรคไม่เกี่ยวข้อง และไม่เคยมีผู้บริหารพรรคคนไหนสั่งว่า ให้ผู้สมัครไปหาใครเพื่อมาเป็นหัวคะแนนสนับสนุน “ธนกร” ยันค่าย รทสช.ไม่แผ่วนายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ในช่วงก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.คาดว่าจะเป็นวันที่ 21 มิ.ย. ทางพรรครทสช.ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อม และระดมสมอง แนวคิดของคนรุ่นใหม่ที่เป็นทั้งว่าที่ ส.ส.และอดีตผู้สมัคร ส.ส.กทม. มาช่วยขับเคลื่อนงานการเมืองพรรค และช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนดูแลพื้นที่ของตัวเอง แม้ว่าจะได้หรือไม่ได้ตำแหน่งก็ตาม โดยเตรียมประชุมว่าที่ ส.ส.พรรคทั้ง 36 คน ติวเข้มให้ความรู้ระเบียบข้อบังคับสภาจริยธรรม ส.ส. นักการเมือง และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หลังได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งจาก กกต.แล้ว เพื่อให้มีความพร้อมทั้งการทำงานสภาฯ งานพื้นที่