ล่วงเข้ามาถึงคิว 6 สาวสายดี (D) เต็มดีกรีล้นปรี่พลัง ต่างแข่งขันฟันฟาดผงาดชีวิตร้อง “สู้ไม่ถอยสอยยิบใจ” นับเป็นซีซันที่ “เดือดเด็ดเผ็ดสวยดุ” พุ่งทะลุเวทีกว่าทั้ง 4 ซีซันที่ผ่านมาเลยทีเดียว“หมอปุ๊ก ณัฐริดา” คุณหมอสาววัย 25 ปีจากบุรีรัมย์ อดีตแชมป์ 20 สมัยคนแรก “ดวลเพลงชิงทุน” มาในเพลง “หนาวตัก” ของ “รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส” งานเพลงของ “ครูอิงอร–สมาน กาญจนผลิน” เพลงประกอบภาพยนตร์และละคร “ดรรชนีนาง”ที่สำคัญที่สุดคือ “โคตรร้องยาก” ออดเอื้อนวิบากมหันต์ แต่หมอปุ๊ก “ร้องจนอยู่หมัด ซัดจนอยู่ใจ” ทำเอาคนดูผู้ฟังผู้ชม “แน่นิ่งดิ่งด่ำ” สตั๊นราบคาบไปเลยเฉียบขาดและบาดใจที่สุด ทุกละเอียดการร้องทุกละออโหยร้าว “หนาวตัก” ที่เธอร้องได้นิ่งลึกเนียนล้ำ “โศกสลักละเมียดเสลา” ทุกไดนามิกขยับตัวโน้ตเขยื้อนพลิกพลิ้วและแข็งแรงสะเทือนเศร้าในห้วงโน้ตเดียวกัน ช่างร้องได้อย่างไรหนอ ทั้งที่เธอเพิ่งผ่านอาการป่วยเจ็บอักเสบของเส้นเสียงมาหมาดๆ“พลอย พลอยไพลิน” สาวสมาร์ทวัย 25 ปีจากกำแพงเพชร มาในเพลง “รักต้องห้าม” ของ “รังษิยา บรรณกร” งานเพลงของ “คุณหมอวราห์ วรเวช” เพลงประกอบภาพยนตร์ “รักต้องห้าม” เมื่อกว่า 5 ทศวรรษที่ผ่านมาสาวกรมศิลปฯ เคยครวญเพลง “ขวัญเรียม” ได้เฉือนใจมาแล้วในรอบออดิชัน มาใน “รักต้องห้าม” พลอยก็ร้องร่ำคร่ำครวญได้ “เฉือนชีวิต” กรีดกราดบาดเนื้ออารมณ์ด้วยเนื้อเสียงที่แข็งแรง น้ำเสียงที่แข็งแกร่งและแก้วเสียงกังวานกล้า“หนาวตักรักต้องห้าม” ของหมอปุ๊กและพลอยจึงควบหาญทะยานพลิ้วโลดละลิ่วสู่เส้นชัยด้วยตัวเลข 392 คะแนนเท่ากันมหัศจรรย์ยิ่ง!“ดร.ศาสตร์ธนิก จุลมณี”‘‘แจ๋วริมจอ’’jaewrimjor@gmail.com