ปฏิเสธไม่ได้ว่าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอวกาศ ทำให้เราฝันไกลว่าสักวันหนึ่งอาจจะเจอดวงดาวที่มีอะไรคล้ายๆโลก มีองค์ประกอบที่เอื้อต่อการอาศัยอยู่ของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะเรื่องของ “น้ำ”ผู้คนถกๆเถียงๆกันมานานเกี่ยวกับ “โลก” ว่าก่อตัวขึ้นได้อย่างไร ซึ่งก็มีนักวิทยาศาสตร์ออกมาเปิดเผยเมื่อไม่กี่วันมานี้ว่า โลกถูกสร้างขึ้นเร็วกว่าที่เราคิดไว้มาก เรียกว่าขัดกับความเชื่อที่มีมานาน นั่นก็คือโลกต้องใช้เวลามากกว่า 100 ล้านปีในการก่อตัว และน้ำที่อยู่บนโลกก็มาจากการชนโดยบังเอิญกับดาวเคราะห์น้อยที่มีน้ำเป็นองค์ประกอบจำนวนมาก หรือโดนดาวหางพุ่งชน ซึ่งเป็นวัตถุจำพวกน้ำแข็ง มีจุดกำเนิดจากขอบระบบสุริยะมีทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน ในเดนมาร์ก ได้ศึกษาเรื่องเหล่านี้ใหม่และแย้งว่าจริงๆแล้วสิ่งนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญไปทั้งหมด โดยนำเสนอทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับการสร้างโลกว่า ช่วงที่ดวงอาทิตย์ยังมี อายุน้อยๆ และมีจานคล้ายแผ่นดิสก์หมุนรอบ ซึ่งในจานนั้นเต็มไปด้วยอนุภาคฝุ่นขนาดเล็ก เป็นที่ก่อกำเนิด “ดาวเคราะห์” ซึ่งเมื่อดาวเคราะห์มีขนาดที่แน่นอน มันจะทำตัวเหมือนเครื่องดูดฝุ่นและดูดฝุ่นทั้งหมดเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนต่างเติบโตมีขนาดเท่าโลกในเวลาเพียงไม่กี่ล้านปีตอนที่มีกระบวนการดูดฝุ่นจิ๋วๆ เข้ามาก่อตัวเป็นโลกนี่แหละสำคัญนัก เพราะจานฝุ่นก็ไม่ได้มีแค่ฝุ่นและก๊าซ แต่มีอนุภาคน้ำแข็งจำนวนมากรวมอยู่ด้วย น้ำที่เป็นองค์ประกอบจึงถูกส่งมายังโลกของเราเช่นกัน กระบวนการดูดฝุ่นนี้จึงมีส่วนทำให้มีน้ำในช่วงที่โลกก่อตัวขึ้นนักวิทยาศาสตร์ระบุว่าได้ใช้ไอโซโทปของซิลิคอนเป็นตัวช่วยไขความเข้าใจกลไกและช่วงเวลาการก่อตัวดาวเคราะห์ เมื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของไอโซโทปของอุกกาบาตและวัตถุจากดาวเคราะห์ที่แตกต่างกันมากกว่า 60 ชนิด ก็สร้างความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมระหว่างดาวเคราะห์หิน เช่น โลก ดาวอังคาร และวัตถุท้องฟ้าอื่นๆ วิธีการนี้ทำให้สามารถรู้ถึงประเภทของหน่วยโครงสร้างที่ประกอบกันเป็นโลก และกระบวนการที่พวกมันมารวมกันงานวิจัยนี้อ้างว่าน้ำไม่ได้แค่มาจากวัตถุอวกาศพุ่งตกกระทบ แต่น้ำดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่กระบวนการก่อตัวของโลกแล้ว ซึ่งก็ต้องรอว่าจะมีใครมาวิจัยหักล้างหรือแตกต่อยอดไปอีกอย่างไร.ภัค เศารยะ