เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. นายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ วัย 77 ปี ขึ้นศาลรัฐบาลกลางนครไมอามี รัฐฟลอริดาอย่างเป็นทางการ รับทราบ ข้อหาคดีอาญา 37 กระทง ประกอบด้วยจงใจครอบครองเอกสารราชการเกี่ยวกับความมั่นคงประเทศ 31 กระทง และสมรู้ร่วมคิดในการขัดขวางเจ้าพนักงานสอบสวนอีก 6 กระทง โดยเจ้าตัวมีสีหน้านิ่งเฉยตลอดกระบวน และให้ทีมทนายชี้แจงว่าจะสู้คดีจนถึงที่สุด ไม่ได้ทำอะไรผิด กรณีนี้ถือว่าทรัมป์เป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์ชาติสหรัฐฯที่ถูกรัฐบาลกลางตั้งข้อหาอาญาทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายทรัมป์ถูกตั้งข้อหาครอบครองเอกสารความมั่นคงหลังการสืบสวนของสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลางแห่งชาติสหรัฐฯ (FBI) พบว่า นายทรัมป์เก็บเอกสารชั้นความลับกว่า 100 ฉบับ ไว้ที่รีสอร์ตส่วนตัวมาร์-อา-ลาโก ในเมืองพาล์มบีช รัฐฟลอริดา ซึ่งมีทั้งเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลอาวุธนิวเคลียร์ เอกสารแผนการทางทหารของสหรัฐฯในต่างแดน เอกสารเกี่ยวกับกำลังทางทหารของประเทศอื่น ไปจนถึงเอกสารที่มีรายละเอียดว่าประเทศใดสนับสนุนการก่อการร้ายเพื่อบั่นทอนผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ซึ่งหากพบว่าผิดจริง นายทรัมป์อาจได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาหลายทศวรรษอย่างไรก็ตาม หลังการรับทราบข้อหาเสร็จสิ้น ทางผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางนครไมอามีไม่ได้สั่งควบคุมตัวนายทรัมป์ ไม่ยึดพาสปอร์ต และไม่จำเป็นต้องสั่งห้ามเดินทาง ภายใต้เงื่อนไขว่านายทรัมป์จะต้องมาปรากฏตัวในศาลตามนัดหมาย ขณะที่สื่อการเมืองโพลิติโกของสหรัฐฯรายงานว่า ศาลยังไม่ได้กำหนดนัดหมายครั้งต่อไป และผู้พิพากษาโจนาธาน กู้ดแมน ได้มอบอำนาจให้ผู้พิพากษาไอลีน แคนนอน เป็นผู้รับผิดชอบคดีหลังจากนี้ ซึ่งสื่อโพลิติโก ระบุว่าผู้พิพากษาไอลีน แคนนอน ได้รับการแต่งตั้งโดยนายทรัมป์สมัยเป็นประธานาธิบดี และก่อนหน้านี้เคยตัดสินคำร้องที่เกี่ยวกับการสอบสวนคดีครอบครองเอกสารให้เป็นประโยชน์ต่ออดีตผู้นำทรัมป์หลังจากนี้ทีมอัยการและทีมทนายของนายทรัมป์จะต้องดำเนินการเจรจาตกลงในเรื่องหลักฐานที่จะใช้ในกระบวนการไต่สวน และจะนัดหมายวันไต่สวนอย่างเป็นทางการต่อไป ซึ่งเชื่อว่าจะใช้เวลาที่ค่อนข้างยาวนาน ส่วนนายทรัมป์หลังออกจากศาล ได้แวะพบปะผู้สนับสนุนที่มาให้กำลังใจ ก่อนออกแถลงการณ์ที่สนามกอล์ฟเบดมินสเตอร์ กล่าวโจมตีนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า พยายามกำจัดคู่แข่งเลือกตั้งด้วยการจับกุมและตั้งข้อหา นี่คือพฤติกรรมของประเทศฟาสต์ซิสหรือคอมมิวนิสต์ชัดๆ นายไบเดนจะถูกจดจำว่าเป็นผู้นำที่คอร์รัปชันมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา และสักวันหนึ่งตนจะเอาคืนด้วยการเปิดสอบสวนครอบครัวของนายไบเดน.
