ไม่รู้ว่า กกต.จะสอบสวนทวนความแล้วชี้ผิดถูกหรือไม่กรณี “หุ้นสื่อ” ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจาก “ก้าวไกล”ก่อนที่จะส่งเรื่องให้ศาลชี้ขาดเพราะที่ผ่านมามักจะหาข้อมูลแล้วรวบรวมส่งไปให้ทำหน้าที่เป็นผู้ส่งเอกสารเท่านั้น เพราะไม่ต้องการเอาตัวไปผูกพันด้วยที่สำคัญก็คือศาลมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดถือเป็นที่สุดทุกองค์กรจะต้องยอมรับ ไม่ว่าผลจะออกมาในรูปใดก็ตามที่ว่าอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องผิดเรื่องถูก เพราะอยากรู้ผลเร็วๆ ว่าเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไรในบทสุดท้ายของมหากาพย์ก็เท่านั้น...ฟังความจาก “ก้าวไกล” ที่แถลงผลคืบหน้าจากคลิปที่ออกมาจากการประชุมผู้ถือหุ้นไอทีวี แม้จะไม่เผยถึงกลุ่มบุคคลที่อ้างถึงว่า เป็นขบวนการปลุกผีฟื้นไอทีวีเพื่อหวังทำลาย “พิธา” ไม่ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯแต่โดยเนื้อหาแล้วน่าจะรู้ว่าใครเป็นใคร ซึ่งไม่ใช่แค่ บุคคลที่เข้าประชุมแล้วออกมาเปิดเผยสาระที่ไม่ตรงกับข้อความในคลิป“คนใหญ่” กว่านั้น...แต่ไม่ยอมเผยชื่อความจริงแล้วเมื่อสู้กันถึงขั้นนี้ มันต้องปอกเปลือกให้หมด อธิบายความว่าคนกลุ่มนี้เป็นใครมาจากไหนมุ่งหวังอะไรนั่นแหละจะได้ความกระจ่าง ทำให้ข้อกล่าวหามีนํ้าหนัก ไม่ใช่พูดลอยๆ เอาตัวเล็กตัวน้อยมาอ้างถึงเท่านั้นโลกปัจจุบันนั้นข่าวสารที่ออกมาแต่ละวันมากมายมหาศาล แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่พวกกูรูทั้งหลายออกมาให้ความเห็นจนเปรอะไปหมดฟังแล้วก็ปวดหัว เพราะเป็นเพียงความเห็นที่ออกมาด้วยข้อสันนิษฐาน และแรงจูงใจที่สนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ใช่เกิดจากฐานเหตุและผลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่แน่ๆอย่างหนึ่งในความพยายามที่จะทำให้เชื่อว่า “พิธา” ไม่ได้ถือหุ้นอย่างที่ กกต.อ้างถึงว่ามีเหตุชวนให้เชื่อว่าขาดคุณสมบัติแล้วยังไปลงสมัครเลือกตั้งหรือไอทีวีหยุดดำเนินกิจการแล้วคือหาเหตุผลเพื่อโน้มน้าวให้เชื่อว่าไม่ได้ถือหุ้น จึงไม่เข้าข่าย “ต้องห้าม” ตามข้อกล่าวหาแต่สู้ไปสู้มากลับพบ1. ถือหุ้นจริง2. ยังไม่มีการแจ้งยกเลิกว่าหยุดดำเนินธุรกิจแถมยังพันไปถึงเรื่องการแจ้งบัญชีทรัพย์สิน เมื่อพ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ซึ่ง ป.ป.ช.ระบุว่ายังไม่ได้แจ้ง อีกทั้งการค้ำประกันหนี้อีกเรื่องหนึ่งพูดง่ายๆว่าทั้งหลายทั้งปวง พยายามจะดิ้นหนีจากเรื่องหนึ่ง แต่แหวกพงไปเจออีกหลายเรื่องที่ผุดขึ้นมาวันนี้ผู้คนในสังคมต่างก็อยากรู้อยู่ 1 เรื่อง1. ใครคือหัวขบวนปลุกผีไอทีวี2. “พิธา” จะไปถึงฝั่งบนเก้าอี้นายกฯหรือไม่?ด้วยใจระทึก...ว่างั้นเถอะ!“สายล่อฟ้า”