ถือเป็นการสูญเสียของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง เกินกว่า 19 ปีแล้วที่เหตุการณ์ความไม่สงบในดินแดนด้ามขวานคร่าชีวิต “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ไปนับไม่ถ้วนหลายครอบครัวไม่ต้องการคำยกย่องให้เป็น “ฮีโร่” ทว่า “ไร้ลมหายใจ” ของบุคคลอันเป็นที่รักเฉกเช่น ส.ต.ท.พิจักษณ์ บัวแก้ว ผบ.หมู่ นปพ.สภ.นาประดู่ จ.ปัตตานี “พลีร่าง” สังเวยความรุนแรง ขณะปฏิบัติหน้าที่เข้าเวรรักษาความปลอดภัยให้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณทางข้ามทางรถไฟในพื้นที่บ้านนาประดู่ หมู่ 6 ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานีพล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ. 9 มอบเหรียญบางระจันและใบประกาศนียบัตรเพื่อเป็นการประกาศเกียรติคุณ “เชิดชูเกียรติ” ในการประกอบคุณงามความดีและความเสียสละของเขา“ความฝันลูกอยากเป็นตำรวจอยู่แล้ว เพราะอยากเดินตามรอยของพ่อ” นางเกศริน บัวแก้ว อายุ 51 ปี มารดาระบายความอาลัยถึงการสูญเสียลูกชายวัยเพียง 22 ปีตำรวจชั้นผู้น้อยที่เป็น “เสาหลักของครอบครัว”พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.สั่งดูแลสวัสดิการตอบแทน เสนอปูนบำเหน็จความดีความชอบเป็นกรณีพิเศษ เลื่อนเงินเดือนให้ 8 ขั้น ขอพระราชทานยศเป็น พ.ต.ท. และดูการช่วยเหลือบรรจุทายาทรวมทั้งมีการให้เงินช่วยเหลือดูแลในส่วนของสิทธิประโยชน์อื่นๆ ทั้งของผู้เสียชีวิตและครอบครัวเบื้องต้นจำนวน 2,927,235 บาท“ขอสดุดีและแสดงความเสียใจต่อครอบครัวที่สูญเสียตำรวจกล้า” แม่ทัพปทุมวันส่งสารผ่าน พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษก ตร.การเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ของเขาเป็นวีรกรรมที่กล้าหาญ.สหบาท