ช่วงนี้ภัยทางโซเชียลยังคงคุกคามและหลอกลวงคนไทยในหลากหลายรูปแบบ นอกจากคอลเซ็นเตอร์ต่างๆและเพจปลอมหลอกลวงแล้ว ยังมีเรื่องการหลอกลวงหญิงไทยไปทำงานและกักขังค้าประเวณีมากขึ้นพฤติการณ์หลอกลวง จะประกาศรับสมัครงานตามโซเชียล และเพจเฟซบุ๊กว่า มีการรับสมัคร ทำงานบ่อนออนไลน์ พนักงานเสิร์ฟ ทำงาน KTV หรือคาราโอเกะ แม้กระทั่งงานเอนเตอร์เทน ให้ค่าตอบแทนสูง นายรุจ ธรรมงคล อธิบดีกรมการกงสุล นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี นำคณะเข้าพบ นายอู มะยิด หน่าย ผวจ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา หารือปัญหาการค้ามนุษย์ชายแดนไทย-เมียนมา.หญิงไทยโดยเฉพาะ นักศึกษาในจังหวัดภาคเหนือ จำนวนมาก หลงเชื่อไปสมัครงานช่วงปิดเทอม ก็จะถูกนายหน้าพาเดินข้ามแดนผ่านทางด่านธรรมชาติ ทาง อ.แม่สาย ไป จ.ท่าขี้เหล็กพอเข้าแดนฝั่งท่าขี้เหล็กจะถูกควบคุมตัวไว้ และนำไปทำงานตามเมืองต่างๆ บังคับให้บริการค้าประเวณี ไม่ได้ทำงานตามที่ประกาศ บางคนถูกมอมยาเสพติดเพื่อไม่ให้หลบหนี บางคนถูกบังคับให้ค้าประเวณีวันละ 10 คนส่วนตัวการใหญ่ขบวนการค้ามนุษย์ เป็น กลุ่มทุนจีนสีเทา ที่ย้ายฐานมาจากเมืองสีหนุ วิลล์ ประเทศกัมพูชา มาอยู่ฝั่งเมียนมา โดยเข้าไปเปิดธุรกิจสถานบันเทิงและธุรกิจออนไลน์ ในเขตพื้นที่ชนกลุ่มน้อย ในประเทศเมียนมา นายรุจ ธรรมงคล อธิบดีกรมการกงสุล พร้อมด้วย นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และ น.ส.พิมพ์ ไชยสาส์น หัวหน้ากงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง พร้อมคณะข้ามแดนที่ จ.ท่าขี้เหล็ก เมียนมา.เหยื่อหญิงไทยที่หน้าตาดีจะถูกนำไปทำงานที่สถานบันเทิงชายแดนเมียนมา-จีน ใครไม่ไปหรือทำตาม จะถูกมอมยาเสพติด และส่งขายต่อขายเยี่ยงทาสสมัยใหม่ ไปตามเอเย่นต์เมืองต่างๆ นั่งรถนาน 5-6 ชั่วโมง หากจะกลับประเทศไทยก็ต้องมีการติดต่อถ่ายตัว ในราคาหัวละ 50,000-200,000 บาททุกวันนี้จึงมีวัยรุ่นหญิงไทยตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก และบางส่วนผู้ปกครองเข้าร้องทุกข์กับ มูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ช่วยเหลือกลับมาได้ 120 คน และยังติดค้างอยู่ที่เมืองล๊อกกิ่ง หรือเล้าไก่ 16 คน เมืองเมียวดี 1 คน เมืองป๊อก 10 คน รวม 27 คนขณะที่ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง เมียนมา ก็ได้รับเรื่องร้องทุกข์ ให้ดำเนินการช่วยเหลือเช่นกัน นางปวีณา มอบข้อมูลหญิงไทย 27 ราย ที่ถูกกักตัวค้าประเวณี แก่ ผวจ.ท่าขี้เหล็ก เพื่อช่วยเหลือ.ล่าสุดทาง กรมการกงสุล ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมูลนิธิปวีณาฯ ไปจัดประชุมโครงการบูรณาการความร่วมมือ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในเมียนมา ที่โรงแรมแม่โขงเดลต้า อ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.2566 ที่ผ่านมานายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล พร้อมด้วย นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผอ.กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ และ นายเอกภาพ หงสกุล ผอ.มูลนิธิปวีณาฯ นำคณะไปร่วมประชุมโดยมี พ.ต.อ.สัญญา เนียม ประดิษฐ์ ผู้ช่วยทูตฝ่ายตำรวจประจำกรุงย่างกุ้ง และ น.ส.พิมพ์ ไชยสาส์น หัวหน้ากงสุล สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงย่างกุ้ง มาร่วมประชุมด้วย น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย ร่วมประชุมแก้ปัญหาค้ามนุษย์ชายแดนไทย-เมียนมา.ด้านเจ้าหน้าที่พื้นที่มาร่วมประชุมมี พ.ต.ท.มนตรี อินเปรี้ยว รอง ผกก.ตม.จ.เชียงราย น.ส.ประภาพรรณ ดวงชัย นายด่านศุลกากรแม่สาย ตำรวจท่องเที่ยวเชียงราย ปลัดอำเภอแม่สาย นรข.เขตเชียงราย ชุดประสานงานท้องถิ่นชายแดนไทย-เมียนมา ศูนย์ช่วยเหลือแรงงานข้ามชาติ จ.เชียงราย และ น.ส.ประกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงรายหลังจากมีการประชุมรับฟังข้อมูลด้านต่างๆ นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการ นำไปเข้าพบและหารือกับ นายอู มะยิด หน่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็ก เมียนมาผู้ว่าราชการจังหวัดท่าขี้เหล็กได้รับฟังปัญหา พร้อมรับที่จะร่วมมือกันป้องกันปัญหาดังกล่าว และรับข้อมูลเหยื่อหญิงไทยอีก 27 คน จาก นางปวีณา ที่รอการช่วยเหลือ เพื่อติดตามช่วยเหลือให้ต่อไป เจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ร่วมการประชุมบูรณาการความร่วมมือ เพื่อป้องกันและแก้ปัญหาคนไทยถูกหลอกไปทำงานและตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ในเมียนมา.ด้าน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับมูลนิธิปวีณาฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาประชุมหารือร่วมกันในเบื้องต้นที่ อ.แม่สาย เพื่อหาสาเหตุของปัญหาและวางมาตรการ กรอบการทำงานป้องกัน และได้นำปัญหาไปขอความร่วมมือพูดคุยกับทางการเมียนมาเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือแก้ไขปัญหาทั้งในระยะสั้น กลาง ยาว ที่สำคัญคือต้องมีการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ชาวเชียงรายและพื้นที่อื่นๆอย่าหลงเชื่อการหลอกลวงไปทำงานทางโซเชียลลักษณะดังกล่าว.ทีมข่าวภูมิภาค