หลังเลือกตั้ง พวกเราหวังกันว่า เรื่องอะไรๆที่คาราคาซัง ก็จะได้จบแบบมีความสุขกันเสียที แต่ที่ไหนได้...มรสุมความทุกข์เริ่มตั้งเค้า...จนวิตกกังวลกันทั่วบ้านทั่วเมือง จะมาใหญ่ขนาดสึนามิหรือเปล่า?ผมตั้งใจอ่านหนังสือหาเรื่อง...ทักบ้าง เตือนบ้าง สอนบ้าง ทั้งฝ่ายลุงฝ่ายหลาน ไปหลายวันเพิ่งนึกได้ ลืมหัวใจพวกเรากันเอง พวกกบเลือกนาย เริ่มจากความขัดเคือง แล้วใกล้ความคับแค้นเข้าทุกทีนิสัยคนไทย เกิดทุกข์ก็เข้าวัด แต่หลายวัดวันนี้ นอกจากมีเซียมซีบริการ ยังแถมเครื่องรางของขลัง...แถวอัมพวาใกล้บ้านผม...ผู้คนที่เคยเฮโลกันไปไหว้ท้าวเวสสุวรรณ ที่วัดจุฬาฯ เดือนสองเดือนมานี่ ย้ายข้ามฝั่งไปไหว้หลวงพ่อนิลมณี ขอหวยนางไม้...ที่โบสถ์ต้นไม้ วัดบางกุ้งผมขอเปลี่ยนมุก...ไม่เข้าวัดพุทธไทย ไปเข้าวัดพุทธถึงเมืองเพิร์ธ ออสเตรเลีย...พระอาจารย์พรหม สอนธรรมะสไตล์ฝรั่ง (หนังสือ “ชวนม่วนชื่น 2” เรื่องที่ 87-88)เรื่องแรก พระอาจารย์พรหม เกริ่นนำว่า สำหรับคนยุคใหม่ ความสุขเป็นของใช้ประจำวันที่จำเป็นต้องมี อีกไม่นาน เราคงจะมีโทษปรับคนที่ทำให้คนอื่นหดหู่ท้อแท้ในที่สาธารณะตัวอย่าง...วันหนึ่งพระอาจารย์กำลังบรรยายเรื่องการปฏิบัติสมาธิอยู่ในสถานที่ที่มีบรรยากาศงดงาม มีอาหารอร่อยบริการโยมหญิงคนหนึ่ง ก็เข้ามาสารภาพ เธออารมณ์เสียขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล“โยมทราบดีค่ะ ไม่ควรอารมณ์เสีย เพราะมันทำให้คนอื่นๆพลอยอารมณ์เสียไปด้วย”พระอาจารย์พรหมฟังแล้ว ไม่พูดอะไร เดินเข้าห้องทำงาน รีบพิมพ์ข้อความ...ใส่กระดาษ แล้วเดินออกมายื่นให้ ข้อความในแผ่นกระดาษใบนั้น มีหัวข้อใหญ่ ใบอนุญาตให้อารมณ์เสียเนื้อหา...เอกสารฉบับนี้เป็นการให้สิทธิ์เป็นทางการแก่ผู้ถือในการอารมณ์เสียได้ตลอดชีพไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ หรือไม่มีเหตุผลก็ตาม โดยมิให้มีการขัดขวาง และห้ามมิให้ผู้ใดละเมิดสิทธิดังกล่าวลงชื่อ อาจารย์พรหมเมื่อโยมหญิงอ่านใบอนุญาตให้อารมณ์เสียจบแล้ว เธอก็หัวเราะลั่นเรื่องที่สอง เมื่อพระอาจารย์พรหมไปสอนการทำสมาธิที่เยอรมนี ชายหนุ่มคนนั้นมีปัญหาในการทำสมาธิ เขามีปัญหาสารพัด ความรักไม่ราบรื่น อาชีพก็ไม่มั่นคง เขาจึงรู้สึกว่าจมอยู่ในวังวนของความอับเฉาเดียวดายแต่ก็มีบางเวลา ที่โอกาสแห่งความสุขผ่านเข้ามา แต่ความรู้สึกเก่าๆ ทำให้เขาคิดว่าเขาไม่ควรมีความสุข เขาก็ขับไล่มันออกไปชายหนุ่มคนนี้ แสดงท่าทีเคารพพระอาจารย์มาก เขาบอกเพื่อนๆ พระอาจารย์เป็นผู้หยั่งรู้ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางจิตวิญญาณ ซึ่งดูจะเกินจริงไป แต่มันก็น่าจะใช้ประโยชน์ได้บ้างพระอาจารย์ใช้มุกเก่าที่เคยใช้กับโยมหญิง...เขียน ใบอนุญาตให้มีความสุขได้...ชายหนุ่มนำมันไปใส่กรอบแขวนไว้บนฝาผนังบ้านนับแต่นั้น เขาเริ่มยอมให้ตัวเองมีความสุข ปัญหาสารพันในชีวิตก็ค่อยๆน้อยลงไป และแน่นอน เขาสามารถทำสมาธิได้อย่างแน่วแน่...แต่...ก็เกิดเรื่องยุ่งยากตามมาพระอาจารย์เล่าว่า เพื่อนของชายคนนั้น นำสำเนาใบอนุญาตให้มีความสุขโพสต์ไว้ในเฟซบุ๊ก ส่งผลให้มีคนหลั่งไหลกันมาขอใบอนุญาตให้มีความสุข ซึ่งต้องมีลายเซ็นของพระอาจารย์กำกับ“อาตมาเองไม่มีความสุขไปพักใหญ่ เพราะไม่มีเวลาเหลือไปทำสมาธิเลย” พระอาจารย์พรหมทิ้งท้ายเป็นไงครับ...ฟังเทศนาพระอาจารย์พรหม จบแล้ว น่าจะยิ้มออกกันได้บ้างเรื่องนายกฯ ถ้าไม่ได้คุณพิธา...คุณอุ๊งอิ๊ง หรือคุณเศรษฐา ก็ถือเป็นเสียงประชาชนส่วนใหญ่...ขอเพียงอย่าเป็นสองลุงก็พอสองรายนี้ ภาษาพระท่านว่า เอวัง ก็มี...เนิ่นนานเต็มทีแล้ว.กิเลน ประลองเชิง