วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมขอนำงานวิจัยเรื่อง “คนหลงตัวเอง” (Narcissism) มาเล่าสู่กันฟังนะครับ คนที่มีพฤติกรรมหลงตัวเองเป็นอย่างไร ผลการศึกษาทางจิตวิทยาล่าสุดชี้ว่า คนที่หลงตัวเองอย่างแท้จริง ไม่ได้รู้สึกรักและชื่นชมตัวเองมากเกินไป อย่างที่เคยเข้าใจ แต่กลับเป็นคนที่รู้สึกไร้ค่าและเกลียดตัวเอง ต่างหากข้อสรุปนี้มาจากงานวิจัยของ ทีมนักจิตวิทยา ของ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (NYU) ตีพิมพ์ใน วารสาร Personality and Individual Differences ต้นปี 2021 รายงานในสำนักข่าวบีบีซีไทยทีมนักจิตวิทยาได้ทดสอบกับนักศึกษากว่า 300 คน ที่มีอายุเฉลี่ย 20 ปี โดยให้ตอบแบบสอบถามเพื่อวัดว่าเขามีลักษณะต่างๆที่เข้าข่าย “มีบุคลิกภาพเป็นคนหลงตัวเอง” หรือไม่ และในระดับที่มากน้อยเพียงใด ผลการทดสอบยังรวมไปถึง การตรวจวัดระดับความภาคภูมิใจในตนเอง และความชัดเจนของบุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคมในตัวของอาสาสมัครด้วยผลการวิจัยปรากฏว่า ผู้ที่มีพฤติกรรมโอ้อวด ชอบเบ่งหรือยกตนข่มท่านในระดับสูง มักเป็นผู้ที่ระบุในแบบสอบถามว่าตนเองรู้สึกขาดความมั่นคงปลอดภัยอย่างรุนแรง และมีความรู้สึกผิดอยู่ในใจเสมอ ในขณะที่อาสาสมัครอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมอวดเบ่งคล้ายกับจะเป็นโรคหลงตัวเองเช่นกัน กลับไม่มีความรู้สึกผิด แต่แสดงออกถึงบุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคมมากกว่า ดร.แมรี โควัลซิก ผู้นำทีมวิจัย กล่าวว่า ผลการทดลองชี้ว่าเราควรทำความเข้าใจบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองเสียใหม่ ในฐานะที่มันเป็น “พฤติกรรมปรับตัวชดเชย” เพื่อกลบเกลื่อนหรือก้าวข้าม “ความรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า”ก่อนหน้านี้ก็มี ทีมนักจิตวิทยา ของ คลีนส์ ยูนิเวอร์ซิตี้ เบลฟาสต์ (QUB) สหราชอาณาจักรได้เปิดเผยงานวิจัยเรื่อง “พฤติกรรมการหลงตัวเอง” ที่พบได้มากขึ้นในสังคมปัจจุบันนักวิจัยได้พยายามหาคำตอบว่า เหตุใดคนในโลกยุคใหม่จึงเต็มไปด้วยคนหลงตัวเอง ทั้ง ในสื่อสังคมออนไลน์ แวดวงการเมืองระดับชาติ และ กระแสวัฒนธรรมเชิดชูคนดัง แม้พฤติกรรมจะเป็นที่รังเกียจและเป็นพิษต่อคนรอบข้างก็ตามนักจิตวิทยาได้นิยามความหมายของ “พฤติกรรมที่หลงตัวเอง” ว่า “มองตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นแบบเกินความจริง มีความมั่นใจเกินเหตุ มักมีพฤติกรรมกล้าเสี่ยง มีความเห็นอกเห็นใจต่อผู้อื่นน้อยมากแทบไม่มีความละอาย หรือความรู้สึกผิดบาปใดๆ” ถือเป็นหนึ่งในลักษณะนิสัยด้านมืดทางจิตวิทยา แต่ในโลกยุคใหม่กลับมีแนวโน้มจะได้รับการส่งเสริม แทนที่จะถูกกลไกสังคมลงโทษ และคนที่มีพฤติกรรมหลงตัวเองก็ไม่ค่อยมีอาการเครียด หรือมีภาวะซึมเศร้าแต่อย่างใด แม้ตัวเองจะทำให้คนอื่นอารมณ์ขุ่นมัวอยู่เสมอก็ตามดร.คอสตาส ปาปาจอร์จิอู ผู้นำทีมวิจัย เปิดเผยว่า จากการศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ 700 คน พบว่า คนที่หลงตัวเองจะเหยียบย่ำและข่มคนอื่นโดยทั่วไป แต่ตัวเองกลับไม่มีความรู้สึกแย่แต่อย่างใด ความที่คิดว่าตัวเองสำคัญสุดขั้ว ทำให้คนหลงตัวเองมีสภาพจิตที่เข้มแข็ง สามารถฝ่าอุปสรรคความผิดหวังต่างๆได้ ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่มีพฤติกรรมหลงตัวเองเพียงบางประเภทเท่านั้น ที่ประสบความสำเร็จแบบนี้ ไม่ใช่ประสบความสำเร็จทุกคนพวกหลงตัวเองที่มีบุคลิกแบบ “หวาดระแวง” จะมีแนวโน้มในการตีความพฤติกรรมของผู้อื่นว่า “เป็นศัตรูกับตัวเอง” ไปเสียหมด ทำให้ไม่เกิดผลดีต่อสุขภาพจิตแต่อย่างใดคนที่เป็น “โรคหลงตัวเอง” ในสังคมไทยยุคนี้มีเยอะมาก ทั้งใน แวดวงการเมือง แวดวงนักธุรกิจ แวดวงไฮโซ เบื้องหน้าดูเข้มแข็งโออ่า ในใจกลับรู้สึกไร้ค่า ผมคิดว่า การเดิน “ทางสายกลาง” ตามคำสอนของ พระพุทธเจ้า เป็นเส้นทางที่ดีที่สุดไม่สุดโต่ง มีความถูกต้องเป็นหลัก จะทำให้สังคมไทยก้าวพ้นจากความทุกข์ทั้งปวงที่กำลังเกาะสุมอยู่ในเวลานี้.“ลม เปลี่ยนทิศ”