เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.66 ที่ศาลาว่าการ กทม.นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะผู้บริหาร กรณี ส.ก.มีหนังสือขอให้ย้ายข้าราชการสำนักงานเขตยานนาวา 4 ราย ว่า ฝั่งบริหารพร้อมรับฟังทุกคน ซึ่งจากข้อมูลที่ได้มา ส.ก.รายดังกล่าวได้ส่งจดหมายขอย้ายข้าราชการสำนักงานเขตยานนาวา ตรงถึงนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งในตำแหน่งของประธานที่ปรึกษานั้นไม่มีอำนาจในการสั่งย้ายข้าราชการ ในส่วนนี้หากมองในมุมบวกจะทำให้เข้าใจว่า กทม.ได้รับข้อมูลคิดว่า ส.ก.คงจะบริสุทธิ์ใจ และสิ่งที่ทำนั้นถูกต้อง หากไม่ถูกต้องคงไม่ทำจดหมายแบบเป็นทางการส่งมาทั้งนี้ฝ่ายบริหารไม่มีอำนาจกำกับดูแล ส.ก. เพราะ ส.ก.เป็นอิสระ เป็นผู้ตรวจสอบ กทม.ด้วยซ้ำ ส่วนนี้ต้องเป็นเรื่องของสภา กทม.ที่เป็นผู้ดูแล ส่วนข้าราชการเขตยานนาวาทั้ง 4 คนนั้น ขณะนี้ยังไม่มีเนื้อหาหรือข้อมูลส่วนใดบ่งบอกว่าทั้ง 4 คน ทำผิดจึงต้องหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมนายสุเมธ อมรศรีวรากุล ผอ.เขตยานนาวา กล่าวว่า ข้าราชการทั้ง 4 คน ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามมอบหมายด้วยดีมาโดยตลอด ไม่มีข้อร้องเรียนที่ส่อทุจริต หรือไม่สนองนโยบาย โดยปัจจุบันข้าราชการทั้ง 4 คน ยังปฏิบัติหน้าที่ตามปกติรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ข้าราชการในเขตยานนาวา ได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตกรุงเทพมหานคร (ศปท.กทม.) อ้างว่าถูกบีบบังคับให้ดำเนินการใช้วิธีเฉพาะเจาะจงในการประกวดราคาจัดจ้างผู้รับเหมาร้านค้าในโรงเรียนและสำนักงานเขต โดยไม่ดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 แต่ข้าราชการไม่ยินยอม ทำให้ถูก ส.ก.ทำหนังสือถึงนายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. เรื่องขอให้ย้ายข้าราชการ จำนวน 4 ราย เมื่อวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยให้เหตุผลว่าตั้งแต่ได้รับการเลือกตั้งมาปฏิบัติหน้าที่ ส.ก. มีข้าราชการบางรายปฏิบัติหน้าที่ไม่สนองนโยบายต่อการบริหารงานของผู้ว่าฯ กทม. ทำให้การปฏิบัติหน้าที่ไม่เกิดประสิทธิภาพนายวิรัตน์ มีนชัยนันท์ ประธานสภา กทม. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการ หากสภา กทม.ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว พร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงทันที เพราะสภา กทม. ดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมและป้องกันการทุจริต หากมีผู้ร้องเรียนมา ยืนยันว่าสภา กทม.ยินดีและพร้อมจะตรวจสอบ หากพบว่ามีมูลความจริง จะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่เพื่อรอผลสอบสวนข้อเท็จจริงก่อน และหากพบว่ามีความผิดจริง เป็นอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการพิจารณาให้ ส.ก.รายนั้นพ้นสภาพความเป็น ส.ก.