“ฤดูฝนเป็นฤดูกาลของการเก็บเห็ดป่าในธรรมชาติ ช่วงนี้จึงถือเป็นเวลาทำเงินของชาวบ้านและชุมชน แต่ด้วยเห็ดมีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีทั้งเห็ดกินได้และเห็ดพิษ เห็ดพิษบางชนิดมีรูปร่างคล้ายกับเห็ดกินได้แทบจะแยกกันไม่ออก โดยเฉพาะในช่วงระยะดอกตูม จึงเป็นสาเหตุให้มีคนเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากเห็ดพิษจำนวนมากทุกปี เราตระหนักถึงภัยใกล้ตัวนี้ดี ตั้งแต่ปี 2539 ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ โดยทีมนักวิจัยพิพิธภัณฑ์เห็ดราของธนาคารจุลินทรีย์ จึงเก็บข้อมูลเห็ดไว้กว่า 2,600 ชนิด พร้อมทำงานเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาเป็นคลังข้อมูลเห็ดกินได้และเห็ดพิษในประเทศไทย เพื่อประโยชน์ด้านเกษตรและสาธารณสุข”ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ผู้อำนวยการธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) บอกถึงการคลังข้อมูลเห็ดกินได้และเห็ดพิษในประเทศไทย จากการวิเคราะห์ ลายพิมพ์เปปไทด์ หรือกรดอะมิโนสายสั้นๆ ที่เป็นส่วนสร้างสารพิษของเห็ด ด้วยเครื่องวัดมวล MALDI-TOF ทำให้ได้ลายพิมพ์มวลเปปไทด์ของเห็ดแต่ละชนิด ที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละสายพันธุ์ และรวบรวมเป็นคลังข้อมูลสำหรับใช้เป็นเครื่องมือในการจัดจำแนกชนิดเห็ดและความเป็นพิษ สำหรับตัวอย่างเห็ดพิษที่พบบ่อยในบ้านเรา และเป็นสาเหตุของการเจ็บป่วยและเสียชีวิตอันดับต้นๆในแต่ละปี อาทิ เห็ดในกลุ่ม เห็ดระโงกพิษ อย่างเห็ดระโงกหิน เห็ดระงาก หรือเห็ดไข่ตายซาก เห็ดเหล่านี้มีพิษร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ลักษณะคล้ายคลึงกับเห็ดระโงกขาว หรือเห็ดไข่ห่านที่รับประทานได้ หากสังเกตเบื้องต้นจะพบว่าเห็ดระโงกหินมีเกล็ดขาวขนาดเล็ก ฝุ่นผงสีขาวปกคลุมบนหมวกดอก และก้านกลวง ขณะที่เห็ดระโงกขาวหมวกเรียบมัน กลางหมวกดอกอมเหลืองเล็กน้อย และก้านตันเนื้อแน่น แต่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมบริโภคเห็ดระโงกขาวในช่วงดอกเห็ดบาน จึงนิยมเก็บช่วงเห็ดอ่อน ดอกเห็ดตูมคล้ายไข่ กลมรี จึงยากต่อการจำแนกอีกชนิดคือ เห็ดถ่านครีบเทียน มักสับสนกับเห็ดถ่านและเห็ดนกเอี้ยง โดยเห็ดถ่านครีบเทียนมีสารพิษกลุ่มมัสคาริน (Muscarin) ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ความดันโลหิตสูง ปากชา มีอาการขาดน้ำ หัวใจล้มเหลวถึงขั้นเสียชีวิต และเห็ดถ่านเลือด มีลักษณะคล้ายกับเห็ดถ่านใหญ่ โดยเห็ดถ่านเลือดหากมีรอยโดนสัมผัสหรือโดนใบมีด จะมีสีแดงติดบริเวณเนื้อเห็ด หากรับประทานเข้าไปจะทำให้เกิดสภาวะกล้ามเนื้อสลาย จนกระทั่งเกิดอาการตับ ไตวายและเสียชีวิต ชนิดต่อมาคือ เห็ดระโงกพิษสีน้ำตาล คล้ายกับเห็ดระโงกยูคาจนไม่สามารถจำแนกด้วยตาเปล่า มีพิษรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต และเป็นชนิดใหม่ที่พบในประเทศไทย ยังมีกลุ่มเห็ดคล้ายกับเห็ดโคน เป็นเห็ดอีกชนิดที่มีพิษรุนแรงถึงชีวิต พบระบาดได้มากเพราะมีลักษณะเหมือนกับเห็ดโคนที่ได้รับความนิยมมาก นอกจากนี้ยังมีเห็ดพิษที่มีการเก็บผิดเป็นประจำทุกปี ก่อให้เกิดอาการเจ็บป่วย แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต คือ เห็ดหัวกรวดครีบเขียว คล้ายคลึงกับเห็ดนกยูง และเห็ดกระโดงที่รับประทานได้ โดยในช่วงที่เป็นดอกอ่อนจะคล้ายกันมาก เมื่อเห็ดเริ่มแก่สปอร์ของเห็ดชนิดนี้จะเปลี่ยนสีและทำให้ครีบใต้ดอกมีสีเขียวปนเทา ส่วนเห็ดนกยูง สปอร์จะเป็นสีขาวไม่เปลี่ยนสี เมื่อแก่ครีบใต้ดอกจะมีสีขาว สำหรับอาการที่เกิดจากการบริโภคเห็ดชนิดนี้ไม่ถึงกับเสียชีวิต แต่จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเสียภายใน 5 นาที ถึง 1 ชั่วโมงสำหรับข้อควรระวังในการรับประทานเห็ดช่วงนี้ แนะนำว่าถ้าไม่มีความชำนาญในการแยกชนิดของเห็ด ไม่ควรเก็บเห็ดป่ามาบริโภคเด็ดขาด เพราะการจำแนกเห็ดจะดูเพียงหมวกหรือสีแต่ลำพังไม่ได้ ต้องดูเห็ดครบทุกลักษณะทั้งดอก ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญยืนยัน เพราะเห็ดพิษบางชนิดแค่บริโภคระดับไมโครกรัมก็ทำให้เสียชีวิตได้ ส่วนประชาชนทั่วไปควรเลือกซื้อเห็ดกับร้านค้าที่เชื่อถือได้ เลือกเห็ดที่สด และควรบริโภคทันที ไม่ควรเก็บเห็ดไว้นาน เพราะอาจมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเจ็บป่วย สนใจศึกษาข้อมูลเห็ดเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Microfungi of Thailand (เห็ดราไลเคน จากป่าของไทย) https://m.facebook.com/groups/730883133682369/ และเว็บไซต์ : https://oer.learn.in.th/nbt กรวัฒน์ วีนิล