“อิทธิพร” การันตีรับรองผลเลือกตั้งเร็วกว่า 60 วัน เร่งสปีด ฟันกว่า 20 ว่าที่ ส.ส.ถูกร้องเรียนมากกว่า 280 เรื่อง ลุ้นชะตา กรรมสั่งกาบัตรใหม่ โละนับแต้มซ้ำ หรือออกเสียงลงคะแนนใหม่บางหน่วย กกต.จ่อตั้งแท่นพิจารณาคดี “พิธา” ถือหุ้นสื่อในไม่ช้านี้ “ณัฐชา” จวกกลเกมสกปรกลูกไม้เดิมผู้มีอำนาจจ้องเชือด หน.-ยุบพรรค ขู่กลับอย่าคิดว่าสอยส้มเจอลูกเหล็กหล่นใส่ระวังเละ “ปกรณ์วุฒิ” เย้ยทำนิติสงครามยุคนี้ไม่เหมือน 10 ปีก่อน ปชช.รู้ทัน แค่เกมทำร้ายทางการเมือง “ประเสริฐ” ตีกันเลิกฝัน ดันรัฐบาลแห่งชาติยัน 8 พรรคร่วมฯ กลมเกลียวตั้งรัฐบาลได้แน่ “บิ๊กตู่” ฉุนถูกถามมีคนไล่เก็บของพ้นทำเนียบฯ ย้อนคิดเอาเองทำได้ไหม “เฮ้ง” ยันอยู่กับ “พี่ตู่” ปัดไหลกลับค่ายเก่า “ธนกร” โต้ไม่เคยได้ยินควบรวม รทสช.-พปชร. “สันติ” ปัด พปชร.ไม่ได้รอส้มหล่น ติงผู้นำประเทศเอาคนมีปัญหา มาเป็นไม่ได้จากกรณีหลายฝ่ายเร่งรัดขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งพิจารณาประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เพื่อเดินหน้าไปสู่ขั้นตอน การเรียกประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลมาบริหารประเทศ ล่าสุดนายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันสามารถประกาศรับรองผลการเลือกตั้งได้เร็วกว่ากรอบเวลา 60 วัน ตามที่กฎหมายกำหนดปธ.กกต.ยันรับรองผล ลต.ไวกว่า 60 วันเมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. ที่ท้องสนามหลวง นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส. คาดว่าจะรับรองร้อยละ 95 ได้เมื่อไหร่ เพราะพรรคการเมืองคาดหวังให้ กกต.จะรับรองได้ไว เพื่อพรรคการเมืองจะได้จัดตั้งรัฐบาลเร็วกว่าครั้งที่แล้วและเร็วกว่า 60 วันแน่ๆ มันยังมีขั้นตอนทาง กฎหมายบางประการที่ กกต. มีหน้าที่ดำเนินการก็คือการตรวจสอบก่อนว่า 95,000 กว่าหน่วยเลือกตั้ง มีหน่วยไหนที่จะต้องมีเหตุสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ หรือนับคะแนนใหม่หรือไม่ โดยกระบวนการดังกล่าว จะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ในเร็วๆนี้ หลังจากนั้น กระบวนการจะใช้เวลาไม่มากก็จะมีความชัดเจนว่า จะประกาศผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการได้เมื่อไหร่ เมื่อถามว่าเบื้องต้นคาดว่าปลายเดือน มิ.ย.นี้น่าจะประกาศได้หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า จะพยายาม อันนี้ขึ้นกับข้อเท็จจริง คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมี ความชัดเจน กกต.ตระหนักดีถึงความจำเป็นของการ ประกาศผลการเลือกตั้งจะต้องไม่ช้า แต่มีขั้นตอนทาง กฎหมายที่จะต้องปฏิบัติอย่างที่ได้เรียนไปแล้ว ขอย้ำ ว่าจะพยายามทำให้เร็วที่สุดกว่า 20 ว่าที่ ส.ส.ลุ้นคำร้อง 280 เรื่องเมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ กกต.มีคำร้องที่เกี่ยวกับว่าที่ ส.ส.ที่ชนะการเลือกตั้ง ที่จะทำให้ไม่ได้ประกาศ รับรองเยอะหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ตัวเลขคำร้อง เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. มีกว่า 280 คำร้อง ในส่วนของผู้ที่ เลือกตั้งชนะถ้าจำไม่ผิดมีประมาณ 20 กว่าคน ตอนนี้ ต้องขอตรวจสอบก่อนว่ามีหลักฐานชัดเจนหรือไม่ ต้องมีการสั่ง 3 อย่างคือ สั่งเลือกตั้งใหม่ สั่งนับคะแนนใหม่ และสั่งออกเสียงลงคะแนนใหม่ใน บางหน่วย เมื่อถามว่า ตามกฎหมายที่ให้ประกาศรับรองร้อยละ 95 เบื้องต้น จะมีการรับรอง 475 คนใช่หรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ใช่ ตัวเลขเป็นเช่นนั้น แต่ว่าเราคิดว่าถ้าเผื่อประกาศ 100 ได้ เราก็ประกาศ เพราะกฎหมายระบุว่าประกาศร้อยละ 95 เป็นอย่างต่ำ หุ้นสื่อ “พิธา” กกต.จ่อพิจารณาในไม่ช้าเมื่อถามว่า กรณีหุ้นสื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตอนนี้คำร้องอยู่ใน ขั้นตอนใดแล้ว นายอิทธิพรตอบว่า อยู่ระหว่างรวบรวม ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน จะเข้าสู่การพิจารณาของ กกต.ในไม่ช้านี้ เมื่อถามว่าคาดว่าจะมีการส่งศาล รัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยเพื่อให้สิ้นข้อสงสัยหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้เพราะเรายังไม่เห็น ข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน ตอบไปก่อนคงไม่ได้ เมื่อถามว่า คดีนายพิธาต่างจากคดีถือหุ้นสื่อของคนอื่น เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้าหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า คดีหุ้นทุกคดีจะขึ้นอยู่กับ ข้อเท็จจริง พยานหลักฐานที่นำเสนอต่อเราจะพิจารณา ตัดสินไปตามหลักฐานที่มี ถ้าเห็นว่าพยานหลักฐานไม่พอขอให้สอบเพิ่มหรือศึกษาเพิ่มได้ ตอนนี้ยังไม่เห็นพยานหลักฐานเป็นทางการจากการทำงานของ กกต. จึงไม่สามารถที่จะพูดอะไรไปได้มากกว่านี้ เมื่อถามว่าพยานหลักฐานตอนนี้มีเพียงพอหรือยังต้องเพิ่มอะไรหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ยังตอบ ไม่ได้เพราะสำนักงาน กกต. ยังไม่เสนอเรื่องขึ้นมาอยู่ระหว่างขั้นตอนสำนักงานฯออกตัวยึดระเบียบเป็นหลักเมื่อถามว่า กรณีผู้ถูกร้องคือนายพิธาต้องเรียกมา ชี้แจงหรือไม่ นายอิทธิพรกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกระบวนการ ถ้าจะเรียกคงไม่ใช่ กกต.เรียก จะต้องเป็นสำนักงานฯ เรียก เมื่อถามว่า มีคนมองว่ากรณีคำร้องของนายพิธา เหมือนเป็นการเล่นงานทางการเมืองของฝ่ายการเมือง นายอิทธิพรกล่าวว่า เราไม่เคยดูเรื่องนั้น ทุกคำร้องเราต้องใช้พื้นฐานของระเบียบว่าด้วยการสืบสวนและไต่สวนของ กกต.เป็นหลักในการพิจารณา ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก เมื่อถามโซเชียลมีการกดดันการตรวจสอบคดีหุ้นของนายพิธา นายอิทธิพรกล่าวว่า ไม่มี กกต.และสำนักงานฯปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่มาโดยตลอดเด็ก ก.ก.รู้ทันเกมสกปรกจ้องเล่นงานนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ว่าที่ ส.ส.กทม. ในฐานะรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ กรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. กำลังเผชิญคดีหุ้นสื่อ ระหว่างเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล กลัว หรือไม่หากพรรค ก.ก.จะถูกยุบพรรคในอนาคตว่า ไม่หวั่นไหวเลย เป็นเกมเดิมที่ผู้มีอำนาจหวังผลแบบเดิม โดยทดลองโยนหินถามทางกับประชาชน เชื่อว่าครั้งนี้ต่อให้ผู้มีอำนาจจะโยนหินถามทางสักกี่ครั้ง จะยังไม่เห็นทิศทางไหนที่สดใสสำหรับผู้มีอำนาจ ณ ตอนนี้อยากให้ประชาชนรู้เท่าทันกลโกงของการใช้กลไกอำนาจแบบสกปรกหรือไม่ กลไกการใช้นิติ สงคราม โดยที่ใช้ดุลพินิจตรรกะเข้าข้างตัวเองอย่างเดียว ขอประชาชนเสพข่าวแล้ว อยากจะให้ไม่หลงลืมว่าวันนี้สถานการณ์เป็นอย่างไร และไม่หลงลืม หลงเชื่อ กับสิ่งที่ผู้มีอำนาจกำลังจะใช้เกมเดิมในการทำลายนายพิธาและรัฐบาล ก.ก.ไม่หวั่นถูกยุบขู่ผู้มีอำนาจระวังเละเมื่อถามย้ำว่า ไม่กลัวถูกยุบพรรคใช่หรือไม่นายณัฐชาตอบว่า ไม่กลัวแน่นอน วันนี้ไม่ว่าจะข่าวถูกยุบ ไม่ว่าจะข่าวถูกตัดสิทธิ ไม่ว่าจะข่าวเลือกตั้งใหม่ ไม่ได้มีผลใดๆกับเราเลย เราเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลของเราต่อแล้วก็เดินหน้าพูดคุยเตรียมความพร้อมในการเป็นรัฐบาล สังเกตได้ว่าวันนี้นโยบายไหนที่เรา สัญญาทำว่า 100 วัน ก็ต้องเริ่มนับหนึ่งจนไปถึงร้อย ประชาชนกำลังคาดหวังรัฐบาล ก.ก. อยู่ ขอให้ประชาชนไปมุ่งหวังแล้วก็ไปโฟกัสเรื่องนี้ดีกว่า “ส่วนเรื่องของ ผู้มีอำนาจที่เขาพยายามอยู่ ก็ให้เขาพยายามลมๆ แล้งๆไปให้โยนหินมาหมดหน้าตักก็ไม่มีทางที่สดใสของเขา อยากบอกผู้มีอำนาจว่า ที่คิดว่าเป็นส้ม แล้วกำลังจะสอยให้หล่นนั้น ที่กำลังสอยอยู่ไม่ใช่ส้ม แต่วันนี้ ก.ก.เป็นลูกเหล็กสีส้มมีน้ำหนักจำนวนมากนะ หากสอยจนร่วงหล่นใส่ตัวเมื่อไหร่นั้นเละแน่นอน เพราะฉะนั้นอย่ามาหวังลมๆแล้งๆ” นายณัฐชากล่าวหยันนิติสงครามไม่เหมือน 10 ปีก่อนด้านนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรค ก.ก. กล่าวถึงกรณี ส.ว.ออกมาชี้โพรงเสนอเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ รวมถึง การเร่งดำเนินการในคดีหุ้นสื่อของนายพิธาและคดีเกี่ยวกับมาตรา 112 ของ น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ว่าที่ ส.ส.ปทุมธานี พรรค ก.ก.กำลังเจอกับนิติสงครามอยู่ หรือไม่ว่า มองว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ นิติสงครามจริงๆ มีการกระทำกันมาตั้งแต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่แล้ว ด้วยซ้ำ ตั้งแต่สมัยก่อนที่จะมีการรัฐประหารปี 2557 ด้วยซ้ำ แต่บริบททางสังคม ณ ปัจจุบันวันนี้กับเมื่อ 10 ปีที่แล้วมันไม่เหมือนกันแล้ว ประชาชนจับตามองเรื่องนี้ และอย่างที่เห็นทุกคนน่าจะเห็นว่ามันเป็นการทำร้ายกันทางการเมือง โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ แต่ต้นทุนในการทำสิ่งนี้ของผู้นำผู้มีอำนาจระหว่าง 10 กว่าปีที่แล้วกับวันนี้ มันไม่เหมือนกันตรองให้ดีๆอย่าให้ชาติพังทลายนายปกรณ์วุฒิกล่าวอีกว่า เคยพูดบ่อยแล้วว่าสุดท้ายแล้วปากกามันไม่ได้อยู่ที่เรา แต่อยากให้ทุกฝ่ายลองคิดให้ดีว่าประเทศมันจะเดินหน้าไปได้อย่างไร เชื่อว่าหลายคนแม้กระทั่งคนที่ไม่เห็นด้วยกับพรรค ก.ก. อยากเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า และอยากให้คิดทบทวนกันอย่างรอบคอบว่าการใช้วิธีการแบบเดิมๆและการผูกขาดอำนาจไว้ที่กลุ่มตัวเอง บริบทสังคมวันนี้ทำให้ประเทศเดินหน้าได้จริงหรือเปล่า หรือว่าจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ทุกวันนี้คนก็รู้มากขึ้นแล้วว่า เหตุการณ์หลายปีที่ผ่านมามันเกิดอะไรบ้าง ทุกคนไม่มีใครอยากให้ประเทศชาติมันพังทลายลง ลองตรองกันให้ดีๆ เพราะในการเลือกตั้ง ประชาชนได้บอกแล้วว่า หนทางที่ประเทศควรจะเดินไปข้างหน้านั้นเป็นอย่างไร จะเดินไปทางไหน สุดท้ายแล้วชาติคือประชาชน พรรคคือประชาชนโวยทหารไล่ชาวบ้านพ้นสวนป่าบางขนุนนายฐิติกันต์ ฐิติพฤฒิกุล ว่าที่ ส.ส.ภูเก็ต พรรค ก.ก.เปิดเผยว่า มีประชาชนในพื้นที่สวนป่าบางขนุน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เข้ามาร้องเรียนถึงการถูกเจ้าหน้าที่กองทัพเรือเข้าไปในพื้นที่ในชุดเครื่องแบบลายพราง และอาวุธปืน เข้าไปบอกชาวบ้านให้ออกจากพื้นที่ บางรายทหารได้มีการเข้าไปปักเขตพื้นที่ พ่นสัญลักษณ์ลงบนต้นยางของชาวบ้าน ทั้งที่ประชาชนหลายรายมีโฉนดที่ดินอย่างถูกต้อง ทำให้ประชาชนเกรงว่าจะเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกินไปเป็นพื้นที่ทหาร พื้นที่สวนป่าบางขนุนมีพื้นที่ 3,763 ไร่ 1 งาน 2 ตารางวา เดิมเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำของกรมป่าไม้ บางส่วนเป็นพื้นที่พิพาทเนื่องจากประชาชนมีเอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน ไม่ว่าจะเป็นโฉนดที่ดินที่ออกตั้งแต่ พ.ศ.2510 บางรายมี ทป.4 บางรายมี ภบท.5 บางรายยังไม่มีโฉนดที่ดิน ปัญหาเกิดขึ้นจากวันที่ 1 มี.ค.66 อธิบดีกรมป่าไม้เซ็นมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กับกองทัพเรือ ภาค 3 เพื่อใช้ตั้งฐานทัพของกองพันต่อสู้อากาศยาน ภายหลังจากการเซ็นมอบพื้นที่ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทหารจึงได้เข้าไปทำการปักหลักเขตแดนและเตรียมการขับไล่ประชาชนออกจากพื้นที่ โดยที่ประชาชนไม่รู้มาก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนพื้นที่ป่าและพื้นที่ทำกินให้เป็นกองทัพเรียกคุยในค่ายจี้หยุดขับไล่รอ รบ.ใหม่นายฐิติกันต์กล่าวอีกว่า หลังจากที่เกิดปัญหากับประชาชน ได้มีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพเรือภาค 3 เรียกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ไปคุยในค่ายทหาร เพื่อให้ฝ่ายปกครองไปบอกประชาชนว่าอย่ามีเรื่อง โดยกองทัพเรือมีแผนจะปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ และจะล้อมรั้วทั้งหมดภายในเดือน มิ.ย. การเรียกเข้าไปคุยในค่ายทหาร ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และประชาชนไม่สบายใจ จึงขอใช้พื้นที่สื่อมวลชนส่งข้อเรียกร้อง 4 ข้อ คือ 1.ให้ทหารหยุดขับไล่ประชาชน ล้อมรั้วพื้นที่ จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่มาดำเนินการ 2. ต้องมีการพิสูจน์สิทธิและเดินแปลง ว่าตรงไหนเป็นที่โฉนด ตรงไหนเป็นพื้นที่ประชาชนมีเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ และตรงไหนเป็นที่ดินของรัฐ 3.ต้องมีการประชาพิจารณ์การใช้ประโยชน์ที่ดิน และการตั้งฐานทัพว่าคนในพื้นที่ต้องการให้มีฐานทัพเรือมาตั้งในพื้นที่นั้นหรือไม่ และ 4.สิ่งแวดล้อม พื้นที่ตรงนี้เป็นป่าต้นน้ำ ไม่ควรมีการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ใดๆ บริเวณใกล้เคียงกันมีท่าเรือทัพละมุ ที่มีพื้นที่เหลือจนมีการเอาพื้นที่บางส่วนไปทำสนามกอล์ฟ จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ป่าต้นน้ำของประชาชนมาสร้างฐานทัพเรือในเวลานี้ “ประเสริฐ” ลั่น 8 พรรคกลมเกลียวตั้ง รบ.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคฝ่ายค้านเดิมได้เสียงเลือกตั้งมาเกิน 300 เสียง แต่หลายฝ่ายยังไม่เชื่อมั่นว่าจะตั้งรัฐบาลได้ โดยมีการหยิบยกประเด็นต่างๆมาพูด และขยายลุกลามไปถึงข้อเสนอจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่มั่นใจว่าจะตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ว่า การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคร่วม 8 พรรคครั้งนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย และเดินหน้าไปได้ด้วยดี ทั้งหมดทำงานร่วมกันมาเป็นอย่างดี แม้หลายฝ่ายมองว่าอาจมีอุปสรรคเรื่องเสียง ส.ว. แต่ยังเชื่อมั่นว่า ส.ว.จะรับฟังเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคฝ่ายค้านเดิมมาอย่างถล่มทลายรับรองผล ลต.เร็วได้เห็นโฉมหน้า รบ.นายประเสริฐกล่าวอีกว่า จะเห็นได้ว่าการทำงานของ 8 พรรคมีความคืบหน้าตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 6 มิ.ย. คณะทำงานเพื่อเปลี่ยนผ่านรัฐบาลแบบไร้รอยต่อ จะมีการสรุปเนื้อหาที่รัฐบาลในอนาคตจะเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาของประชาชนที่เขาเฝ้าจับตาและรอคอยอย่างมีความหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่อยู่ ยืนยันการทำงานของทั้ง 8 พรรคไม่มีอุปสรรคอย่างที่หลายฝ่ายออกมาตั้งขอสังเกต และถ้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งเร็วเท่าไหร่ จะได้เห็นหน้าตารัฐบาลใหม่เร็วเท่านั้น เพราะวันนี้พรรคร่วมฯทั้ง 8 พรรค ทำงานกันอย่างกลมเกลียวพร้อมเต็มที่รอเพียงการรับรองผลของ กกต. เพื่อเปิดสภาฯเดินหน้าตั้งรัฐบาลของประชาชนปชต.มีทางออกซัดเลิกฝัน รบ.แห่งชาติเมื่อถามถึงข้อเสนอการตั้งรัฐบาลแห่งชาติเป็นไปได้หรือไม่ นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องรัฐบาลแห่งชาติไม่มีการบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ เราเพิ่งเลือกตั้งกันมา โดยประชาชนออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างชัดเจนว่าจะให้ฝ่ายค้านเดิมมาเป็นรัฐบาล แม้หลายคนอาจพยายามมโนว่ามีอุปสรรคต่างๆนานา แต่เชื่อว่าทั้ง 8 พรรคจะเดินหน้าตั้งรัฐบาลสำเร็จตามกระบวนการที่รัฐธรรมนูญกำหนด ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไรแต่เชื่อว่าวิถีประชาธิปไตยยังมีทางออกอยู่ จึงขอให้เลิกคิดเลิกฝันถึงรัฐบาลแห่งชาติได้แล้วยันจุดยืนดัน ก.ม.สมรสเท่าเทียมน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรค พท.ขอย้ำจุดยืนต่อ LGBTQ+ ไทย ด้วยการยืนยันสนับสนุนและร่วมเป็นแรงส่งในการผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ ด้วยหลักของสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เรายึดถือแนวทางนี้ สอดคล้องกับการผลักดันความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศ ที่พรรคเพื่อไทยได้รับมอบการส่งต่อเจตนารมณ์นี้มาจากพรรคไทยรักไทย ตั้งแต่ปี 2544 เราเชื่อว่าเสรีภาพและความหลากหลาย คือพื้นฐานของการพัฒนาศักยภาพ ต่อยอดอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่เกี่ยวข้องกับความหลากหลายทางเพศได้อีกด้วย เราจะไม่ลดละความพยายามผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมให้ผ่านให้สำเร็จได้ เราเชื่อมั่นว่าทุกความรักย่อมต้องได้รับการยอมรับ ทุกเพศสรีระ เพศสภาพ เพศวิถี มีศักดิ์ศรีคุณค่าความเป็นคน ต้องมีสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงได้รับอย่างเท่าเทียมกัน “เศรษฐา” โวยเลิกโยนบาป “รัฐบาลปู”ช่วงดึก วันที่ 2 มิ.ย. นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดต นายกฯ พรรคเพื่อไทย ทวีตข้อความกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน ระบุหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกินกว่า 80% มาตั้งแต่สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า “ผมเชื่อว่าท่านรองนายกฯ พูดแบบไม่มีความรับผิดชอบ อัตราหนี้ครัวเรือนพุ่ง เพราะตลอดสี่ปีที่ ท่านเป็นรัฐบาลมา จีดีพีขยายตัวต่ำมาก ทำให้อัตราส่วน ขึ้นมามาก เกิดจากการบริหารผิดพลาดของรัฐบาลท่าน ผมมั่นใจว่ารัฐบาลใหม่จะทำได้ดีกว่าแน่นอน เลิกโยน บาปที่ท่านก่อไว้ใช้กับคนอื่นเถอะครับ”“บิ๊กตู่” โต้คิดเอาเองไล่พ้นทำเนียบฯที่ท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ห่วงอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ว่า เป็นห่วงทุกวัน บ้านเมืองน่าเป็นห่วงทุกวันไหมเล่า นายกฯต้องเป็นห่วงบ้านเมืองทุกวันไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ต้องห่วงทุกวัน ต้องมีความพร้อมในการทำงานให้ประเทศและประชาชนปลอดภัยแข็งแรง ก็เท่านั้นแหละหน้าที่นายกฯ เมื่อถามว่า มองอย่างไรมีคนกดดันให้นายกฯเก็บของออกจากทำเนียบรัฐบาล นายกฯกล่าวว่า “ไม่ได้มอง มองว่าเขาไม่ได้คิด ไม่เข้าใจอะไรมั้ง” เมื่อถามว่าการกดดันแบบนี้ทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า คิดเอาเอง“เฮ้ง” ยันอยู่กับ “พี่ตู่” สยบกลับค่ายเก่าด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดของนายจเด็จ อินสว่าง ส.ว. เสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า เป็นความคิดของแต่ละบุคคล แต่อันดับแรกขอตอบกรณีที่มีเรื่องกระแสข่าวลือว่า จะออกจากพรรค รทสช.กลับไปอยู่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่าไม่มี และจะอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรคและแคนดิเดตนายกฯของพรรค รทสช. ขอย้ำว่าอยู่กับลุงตู่จะไปไหนได้“ธนกร” ปัดไม่เคยได้ยินยุบรวม พปชร.นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีมีกระแสกดดันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เร่งประกาศรับรอง ส.ส.ว่า ทุกอย่างทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องว่าไปตามกฎหมาย เพราะมีระยะเวลาอยู่ กกต.เร่งพิจารณาอยู่ แต่จะไปเร่งให้ได้ดั่งใจตามที่เราต้องการไม่น่าจะใช่ ต้องมีกระบวนการในการตรวจสอบเรื่องต่างๆ เมื่อถามถึงกระแสข่าวพรรค รทสช.จะมีการรวมกับพรรค พปชร. นายธนกรกล่าวว่า การไปรวมพรรคไม่เคยได้ยินและไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่พรรครวมไทยสร้างชาติกับพรรคพลังประชารัฐมีความคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ทั้ง 2 พรรคทั้ง พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คุ้นเคยกันมานานโอ่เป็นฝ่ายค้านจะตรวจสอบเข้มข้นเมื่อถามว่าแต่การรวมกันเพื่อทำงานทางการเมืองมีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าการรวมพรรคในเวลานี้หรือไม่ นายธนกรกล่าวว่า การทำงานร่วมกัน ทำได้อยู่แล้ว เพราะที่ผ่านมาเราเป็นรัฐบาลมาด้วยกัน และแม้แต่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนาที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลเก่าเราทำงานด้วยกันมายาวนาน การทำงานร่วมกันในอนาคตเป็นเรื่องที่ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามว่าความชัดเจนในการปรับกลยุทธ์พรรค รทสช. นายธนกรกล่าวว่า เลขาธิการพรรคกำลังหารืออย่างไม่เป็นทางการกับทีมงานอยู่ ต้องรอการรับรอง ส.ส.ของพรรคก่อน ถ้าเราเป็นฝ่ายค้านต้องมีการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และมีทีมงานซัพพอร์ต ขอยืนยันว่าพรรคมีอยู่แล้ว ด้วยความที่พรรคเกิดใหม่อะไรที่จะทำให้ดีที่สุดหรือดีกว่าเดิมให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนมากขึ้นต้องทำคู่ขนานกันไป“สันติ” ยัน พปชร.ไม่ได้รอส้มหล่นขณะที่นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเสนอตั้งรัฐบาลแห่งชาติว่า ยังไม่ใช่เวลา เพราะประเทศไทยยังไม่มีอะไรวิกฤติ การจัดตั้งรัฐบาลกำลังดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ส่วนใครจะเป็นอะไรอย่างไร เป็นเรื่องธรรมชาติปกติและข้อจำกัดอะไรต่างๆ เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อาจรอส้มหล่น นายสันติกล่าวว่า ไม่มี เรื่องของรัฐบาลไม่มีส้มหล่น มีแต่เหตุผล ยืนยันไม่มีเรื่องส้มหล่นแน่นอน เมื่อถามถึงกรณีที่มีความเป็นห่วงคุณสมบัตินายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. ในฐานะแคนดิเดตนายกฯอาจส่งผลให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ นายสันติตอบว่า อยู่ที่คนที่จะมาเป็นนายกฯ เป็นผู้นำประเทศ ต้องมีความถูกต้องเป็นอันดับแรกในทุกขั้นตอน คนเป็นนายกฯคงไม่สามารถเอาแบบอย่างที่มีปัญหาอะไรก็แล้วแต่มาเป็นได้ “สาธิต” ขุดอดีตงูเห่า พท.ย้อนศร ก.ก.นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เผยเเพร่คลิปวิดีโอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกฯ เมื่อปี 2562 ในคลิปดังกล่าวปรากฏภาพอดีต ส.ส.พรรค พปชร.ที่ปัจจุบันย้ายข้ามขั้วมาสังกัดพรรคเพื่อไทย (พท.) เคยออกเสียงขานชื่อโหวต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯหลายคน เช่น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ ว่าที่ ส.ส.สุโขทัย น้องสาวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายชูศักดิ์ คีรีมาศทอง ว่าที่ ส.ส.สุโขทัย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต รมว.อุตสาหกรรมและนายสุชาติ ตันเจริญ อดีตรองประธานสภาฯ พร้อมตั้งคำถามว่า “แค่ถามนะครับ แล้วไงครับ” ส.ส.หลายท่านร่วมรัฐบาลนี้ที่จะยกมือสนับสนุนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นนายกฯ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเป็น ส.ส.ที่ลุกขึ้นยืนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ เมื่อ 4 ปีที่แล้วแล้วไง แล้วพวกคุณทั้งด่า ทั้งด้อยค่า ไม่ให้ประชาชนเลือก ส.ส. เหล่านั้นแต่ตอนนี้จะเอาไงดี ไม่เอาเสียงเขาสนับสนุนนายพิธาไหม? หรือไม่เป็นไรแล้ว เขาไม่ผิดแล้ว เพราะพวกเขากำลังมาสนับสนุนฝ่ายคุณ เพื่อเป็นนายกฯเป็นรัฐบาลแล้วกล้าไหมไม่เอามือพวกเคยหนุน “ลุงตู่”“กล้าไหม ไม่เอาเสียงพวกเขายกมือสนับสนุนให้เป็นนายกฯ หรือรัฐบาล เหมือนกับที่ไม่เอาคุณกรณ์ พรรคชาติพัฒนากล้าไหมครับ ที่ตั้งคำถามไม่ได้จะต่อว่าอะไรนะครับ เพียงแต่จะบอกด้วยความหวังดีว่าอย่าสุดโต่งจนเกินไป อย่าด้อยค่าคนอื่นจนเขาไม่เป็นธรรม #ให้กำลังใจ แต่อย่าสุดโต่ง#ถอยบ้างให้เกียรติคนอื่นบ้าง” นายสาธิตระบุติงอย่าสุดโต่งเที่ยวด้อยค่าคนอื่นต่อมานายสาธิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ฝากไปถึงพรรค ก.ก. กองเชียร์อย่าให้มันสุดโต่ง การไปด้อยค่าตำหนิคนอื่นที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ วันนี้กลับมาที่ตัวเองแล้ว หลายคนที่เคยอยู่พรรค พปชร.แล้วกลับไปอยู่พรรค พท. เขาเคยยกมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างนี้จะไม่เอาเขาเหมือนพรรคชาติพัฒนากล้าหรือเปล่า หรือว่าพอเขามายกมือให้ตัวเองเป็นรัฐบาลไม่เป็นไรแล้วหรือ อยากฝากข้อคิดไว้เฉยๆ เมื่อมีฐานะเป็นว่าที่แกนนำรัฐบาล อย่าไปสุดโต่งด้อยค่าเขาสุดท้ายตัวเองต้องมากลืนน้ำลายเหมือนกัน ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รอคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะตัดสินลงมติเป็นอย่างไร โดยส่วนตัวอยากเห็นพรรค ก.ก.เป็นรัฐบาลร่วมกับพรรค พท.และนายพิธาเป็นนายกฯ “ชัชชาติ” นัดคุย “พิธา–32” ว่าที่ ส.ส.กทม.ที่ท้องสนามหลวง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และแคนดิเดตนายก รัฐมนตรี พร้อมว่าที่ ส.ส. กทม.32 คน เตรียมเข้าพบวันที่ 6 มิ.ย.ว่า เป็นการพูดคุยแบบเปิดเผย ไม่มีความลับ เพราะพรรคก้าวไกลได้ผู้แทน กทม.เยอะ เลยจะมาคุยกันว่าจะช่วยกันได้อย่างไรบ้าง เมื่อถามว่าได้พูดคุยกันเบื้องต้นแล้วหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่คงมีการเตรียมกันไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ดูรายละเอียด ไม่มีอะไร คุยกันสนุกๆปชช.คาดหวัง รบ.ใหม่แก้ปากท้องวันเดียวกัน กรุงเทพโพลล์ สำรวจความคิดเห็น ของประชาชนเรื่อง “นโยบายที่คนไทยคาดหวัง หากได้รัฐบาลชุดใหม่” โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศจำนวน 1,120 คน พบว่าเรื่องที่ประชาชนอยากขอให้ว่าที่รัฐบาลชุดใหม่แก้ปัญหามากที่สุดร้อยละ 75.9 ระบุว่าปัญหาปากท้องค่าครองชีพสูง ข้าวของราคาแพง รองลงมา ร้อยละ 57.2 ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ร้อยละ 50.1 ปัญหายาเสพติด อาชญากรรม ร้อยละ 40.1 ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ และร้อยละ 34.4 ปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน สำหรับนโยบายที่เฝ้ารอและคาดหวังจากว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ ร้อยละ 67.1 ระบุว่าลดค่าครองชีพ เช่น ลดค่าไฟฟ้า รถไฟฟ้าราคาถูก รองลงมา ร้อยละ 45.9 ปราบปรามยาเสพติด ร้อยละ 44.3 สร้างงาน สร้างรายได้ ร้อยละ 40.2 สวัสดิการการรักษาฟรีทั่วไทย และร้อยละ 39.8 สวัสดิการเด็กเล็ก/ผู้สูงวัยทบ.ชี้ 2 ปี ลดทหารเกณฑ์ 1.2 หมื่นนายวันเดียวกัน พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกประจำเดือน มิ.ย. ผบ.ทบ.ระบุถึงการดูแล ทหารใหม่ผลัดที่ 1/66 ที่เข้าประจำการได้ 2 สัปดาห์ว่า เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เนื่องจากหน่วยฝึกทั้ง 299 หน่วย ดำเนินตามแนวทางการฝึกและดูแลทหารใหม่ที่ ทบ.ปรับพัฒนารูปแบบ พร้อมย้ำต้อง ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความรู้ ส่งเสริมสมรรถภาพร่างกาย การฝึกอาชีพตั้งแต่เริ่ม ให้เกิดทักษะวิชาชีพนำไปใช้ทั้งต่อตนเอง หน่วยทหาร และนำไปประกอบอาชีพหลังปลดประจำการได้ ตลอดจนการดูแลครอบครัวทหารใหม่ที่ประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสุขภาพ เป็นต้น นอกจากนี้ผบ.ทบ.ยังย้ำถึงการปฏิรูปกองทัพเรื่องทหารกองประจำการ ที่ได้พัฒนาและปรับปรุงมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมุ่งสู่ทหารกองประจำการด้วยระบบสมัครใจ กองทัพบกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาได้ดำเนินนโยบายปรับลดกำลังพลทหารกองประจำการลงถึง 12,000 นาย ควบคู่ไปกับการส่งเสริมระบบสมัครใจในหลากหลายวิธีการมากขึ้น โดยเฉพาะทหารออนไลน์ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง ในปีนี้มีผู้มารายงานตัวเข้าประจำการสูงถึง 91 เปอร์เซ็นต์ แสดงถึงความพร้อมและความตั้งใจของชายไทยในการเป็นทหาร