แม้จะมีความพยายามหลายปีแต่ก็ยังไม่เคยพบหลักฐานของสิ่งมีชีวิตนอกโลก ซึ่งนักวิจัยมองว่ามี 2 สาเหตุที่เป็นไปได้สำหรับเรื่องนี้ ประการแรกคือไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นๆให้ค้นหา ประการที่ 2 คือเราขาดเทคโนโลยีในการค้นหาเนื่องจากระยะทางที่ไกลและกว้างใหญ่เมื่อเร็วๆนี้ นักชีวดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโตเกียว ในญี่ปุ่น ได้เสนอให้ขยายการค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก หรือบนดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะที่อยู่ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตร นั่นคือการศึกษาฝุ่นในอวกาศที่ตกลงสู่พื้นโลก ฝุ่นดังกล่าวสามารถพบได้ในทุ่งน้ำแข็งรอบๆขั้วโลก พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าในชั้นบรรยากาศก็น่าจะมีนักชีวดาราศาสตร์เผยว่า ดาวเคราะห์น้อยเป็นวัตถุที่มีอยู่ทั่วไปกาแล็กซีทางช้างเผือก และทุกครั้งที่มันมีการพุ่งชนดวงดาว เศษซากบางส่วนที่เกิดจากการชนอาจถูกเหวี่ยงอย่างรุนแรงจนหลุดออกจากสนามแรงโน้มถ่วงของดาวและพุ่งออกไปในอวกาศ ซึ่งหากดาวเคราะห์ดวงนั้นมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ หลักฐานของสิ่งมีชีวิตอาจถูกทิ้งเป็นส่วนหนึ่งในเม็ดฝุ่นที่ลอยละล่องไปในอวกาศนักชีวดาราศาสตร์แนะนำว่าขนาดเม็ดฝุ่นในอวกาศที่เหมาะสมที่สุดคือประมาณ 1 ไมโครเมตร ถึงจะเม็ดจิ๋วๆแบบนี้แต่ก็ขนาดใหญ่พอที่จะแสดงหลักฐานของสิ่งมีชีวิตได้ พวกมันเล็กพอที่จะกระเด็นออกจากดาวบ้านเกิดและแรงโน้มถ่วงของดาวฤกษ์ ทั้งยังเดินทางได้เร็วพอที่จะไปถึงดาวเคราะห์ที่ห่างไกล เช่น โลก ซึ่งมีการคำนวณว่ามีเม็ดฝุ่นประมาณ 100,000 เม็ดตกบนโลกทุกปี อาจมีร่องรอยของสิ่งมีชีวิตที่มีต้นกำเนิดจากดาวอื่น.