พรรคเพื่อไทยดูเหมือนจะเชื่อมั่นอย่างยิ่ง จะชนะการเลือกตั้งคราวหน้าไม่ใช่แค่ชนะธรรมดา แต่ชนะแบบฟ้าถล่มดินทลาย หรือแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส.เกิน 250 ที่นั่ง มีอำนาจต่อรองสูงในการจัดตั้งรัฐบาล นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค จึงประกาศเงื่อนไขในการที่พรรคอื่นๆจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสมกับพรรคเพื่อไทยเงื่อนไขประการแรก พรรคที่จะร่วมรัฐบาลผสมกับพรรคเพื่อไทย จะต้องมีนโยบายตรงกัน ประการที่ 2 ต้องไม่ใช่พรรคที่สนับสนุนเผด็จการ ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายก รัฐมนตรี เพื่อสืบทอดอำนาจ แต่ด่านแรกที่จะต้องข้ามให้ได้ก่อนคือ ชัยชนะแลนด์สไลด์ พรรคเพื่อไทยจะสามารถทำได้หรือไม่จากการติดตามผลการสำรวจคะแนนนิยมในหมู่ประชาชนที่มีมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ โดยนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ พบว่า โดยภาพรวม พรรคเพื่อไทยมีคะแนนนิยมนำหน้าพรรคอื่นๆมาโดยตลอด เมื่อแยกสำรวจเฉพาะภาคอีสาน ซึ่งเป็นเสียงสำคัญและเป็นภาคที่มี ส.ส.มากที่สุด พรรคเพื่อไทยก็มาที่หนึ่งไม่ใช่ที่หนึ่งธรรมดา แต่ได้คะแนน นิยมถึงกว่า 50% ส่วน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้คะแนนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีมาเป็นอันดับหนึ่ง ผลการสำรวจความเห็นชาว กทม.ครั้งล่าสุด แม้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล จะมานำอันดับหนึ่ง แต่คะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยวิ่งแซงหน้ามาอันดับหนึ่งพรรคเพื่อไทยจึงมีสิทธิชนะเลือกตั้ง แต่จะแลนด์สไลด์หรือไม่ ยังเป็นปัญหา ส่วนเงื่อนไขที่จะให้พรรคอื่นๆร่วมรัฐบาลผสมไม่น่าจะมีปัญหา เพราะพรรค การเมืองไทยส่วนใหญ่ถือคติว่า ต้องเป็นรัฐบาลให้ได้ “เพราะเป็นฝ่ายค้านจะอดอยากปากแห้ง” แต่เป็นรัฐบาล “ปากมัน” นโยบายพรรคส่วนใหญ่ไม่ค่อยต่างกันนโยบายด้านเศรษฐกิจของพรรคส่วนใหญ่ยึดแนวทางประชานิยม ยึดหลัก “แจกเงิน” เพื่อแก้ปัญหาสารพัด ไม่ว่าจะเป็นความยากจน ปัญหาน้ำท่วมหรือภัยแล้ง พรรคการเมืองส่วนใหญ่ไม่มีนโยบายลดความเหลื่อมล้ำ เพราะยึดนโยบายทุนนิยมหรือเสรีนิยม มือใครยาวสาวได้สาวเอา ทั้งที่ไทยมีความเหลื่อมล้ำอันดับต้นๆ ของโลกส่วนที่อาจจะมีปัญหาคือ นโยบายด้านการเมือง แม้พรรคส่วนใหญ่จะอ้างว่าเป็น “ฝ่ายประชาธิปไตย” แต่มีปัญหาจะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของเผด็จการหรือไม่ จะยกมือเลือก พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าพรรคเพื่อไทยจะยอมรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในกลุ่ม ป.ด้วย.