“อนุทิน” เดือด คลิปเด็กนักเรียนล้อมวงปุ๊นกัญชากันควันโขมงในโรงเรียนแชร์กระหึ่มโซเชียล ลั่น ผอ.โรงเรียนต้องรับผิดชอบตำรวจต้องตามไปดำเนินคดี ชี้ พ.ร.บ.กัญชาฯพ้นจากมือพรรคภูมิใจไทยและกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว อยู่ที่ กมธ.ต้องชี้แจงสภา “ตรีนุช” ย้ำจุดยืนห้ามมีกัญชาในสถานศึกษา ขอทุกภาคส่วนร่วมเฝ้าระวัง เร่งสร้างการรับรู้โทษภัยกัญชาเสรี ด้าน ผอ.โรงเรียนที่เกิดเหตุพา 5 นักเรียนชาย-หญิงชั้น ม.2 ที่ปรากฏในคลิปเข้าพบตำรวจ เผยเด็กในกลุ่มไปซื้อกัญชาสดจากตลาดนัดมาตากแห้ง เอาขวดพลาสติกมาทำบ้องไปสูบกับเพื่อนๆ ตำรวจแค่ว่ากล่าวตักเตือนไม่แจ้งความเอาผิดหวั่นเด็กหมดอนาคต แต่จะสืบสวนจับกุมคนที่เอากัญชามาขายให้เด็กกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกโซเชียล หลังปรากฏคลิปกลุ่มเด็กนักเรียนล้อมวงสูบกัญชากันในโรงเรียน สังคมพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางโดยเฉพาะนโยบายกัญชาเสรีทำให้เด็กๆ เยาวชนของชาติเข้าถึงสิ่งเสพติดได้ง่ายขึ้นหรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข (สธ.) และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ว่า กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทุกกรณี มีการห้ามสูบในสถานศึกษา สธ.ออกกฎหมายมาแล้ว ดังนั้น ผอ.โรงเรียนดังกล่าวต้องรับผิดชอบ ตำรวจต้องตามไปดำเนินคดี ผู้สื่อข่าวถามว่า แม้จะมีประกาศ สธ. แต่เหมือนยังแก้ไขปัญหาไม่ได้ ต้องมีอะไรที่เข้มงวดเพิ่มหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า การขับรถบนทางด่วนเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คนจับคือตำรวจ เรื่องนี้เหมือนกัน มีเจ้าพนักงานคอยดำเนินคดีเมื่อถามว่า มีคนโยงเหตุการณ์นี้กับนโยบายกัญชาเสรี นายอนุทินกล่าวว่า ภท.เสนอร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ผ่านวาระแรก กมธ.มีการแปรญัตติเพิ่มเติม แต่พอเข้าสภาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน คนที่เคยรับหลักการกลับไม่รับหลักการ ไม่พิจารณา ไม่ได้อ่านว่าแต่ละมาตรามีความเข้มข้นขึ้นอย่างไร เมื่อเป็นเช่นนี้จึงต้องดำเนินการตามกติกาว่าจะเสนอกลับต่อไปเมื่อไหร่ ตอนนี้ถือว่าพ้นจาก ภท.ไปแล้ว แต่เรื่องการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกัญชา ยืนยันมีระเบียบต่างๆควบคุมอยู่ และป้องกันได้อย่างดี ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาของสภา นายอนุทิน กล่าวว่า มันพ้นมือ ภท.และ สธ.ไปแล้ว ตอนนี้เป็นเรื่องของ กมธ.ต้องชี้แจงให้ที่ประชุมสภาพิจารณาให้ได้ โดยคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ส.ส.มีหน้าที่พิจารณากฎหมาย ถ้าไม่ทำเท่ากับทำหน้าที่ขาดไป การที่ไม่ยอมพิจารณากฎหมายดังกล่าวต้องไปถามที่ไม่ลงมติด้าน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เห็นคลิปวีดิโอดังกล่าวแล้ว ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) มีมาตรการเกี่ยวกับกัญชา และกำชับให้สถานศึกษาทุกแห่งเข้มงวดกฎระเบียบเรื่องนี้ให้เหมือนกับระเบียบเรื่องยาเสพติดในสถานศึกษา ขอให้ทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองหรือชุมชนช่วยเฝ้าระวังเรื่องกัญชาอย่างเข้มงวด เพราะจุดยืนของตนไม่ให้มีกัญชาในสถานศึกษาอย่างเด็ดขาด และบทลงโทษของการใช้สารเสพติดในโรงเรียนจะโดนข้อหาหนัก ขอให้สถานศึกษาเร่งสร้างการรับรู้โทษภัยเรื่องกัญชาเสรีให้แก่นักเรียนและผู้ปกครองมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตากับปัญหายาเสพติดในโรงเรียนรมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า ตนสนับสนุนแนวคิดของสภานักเรียนที่ไม่เห็นด้วยกับกัญชาเสรีทุกประเภท และขอบคุณที่สภานักเรียนเข้ามาเป็นกลไกหนึ่งในการรณรงค์ให้เกิดความตระหนักถึงเรื่องกัญชามากขึ้น เรื่องกัญชาเสรีอยู่ในช่วงสุญญากาศทางกฎหมาย ดังนั้นจะต้องเร่งสร้างการรับรู้ให้แก่เด็กและเยาวชนถึงโทษภัยกัญชาให้มากขึ้น เพราะการเปิดกัญชาเสรีเพื่อเศรษฐกิจและใช้ทางการแพทย์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ารัฐบาลและพรรคร่วมจะดูกฎหมายกัญชาอย่างรอบด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนนำกัญชาไปใช้ในทางที่ผิดวันเดียวกัน นายอุรีย์ พันธ์แก่น ผอ.โรงเรียนวัดไพรบึงวิทยา อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ นำนักเรียนชั้น ม.2 จำนวน 5 คน เป็นชาย 3 คน และหญิง 2 คนที่ปรากฏในคลิปมั่วสุมสูบกัญชา เข้าพบ พ.ต.อ.จาตุรนต์ ตระกูลปาน ผกก.สภ.ไพรบึง เพื่อให้ข้อมูลในการกระทำที่ไม่เหมาะสม นายอุรีย์กล่าวว่า หนึ่งในนักเรียนชายในกลุ่มเป็นเด็กออทิสติก เป็นคนไปซื้อกัญชาสดจากตลาดนัดเอามาตากแห้งแล้วนำขวดพลาสติกมาทำบ้องกัญชา เลียนแบบมาจากการดูภาพในสื่อโซเชียล ก่อนจะนำมาสูบกับเพื่อนๆที่โรงเรียน เหตุเกิดเมื่อ 20 กว่าวันก่อน สถานที่ตามในคลิปภาพเป็นบริเวณห้องน้ำของโรงเรียน พอทราบเรื่องก็เรียกเด็กในคลิปและผู้ปกครองมาสอบถาม พร้อมว่ากล่าวตักเตือนและทำประวัติไว้ จากนั้นทำหนังสือรายงานต้นสังกัดให้ทราบเรื่องแล้วพ.ต.อ.จาตุรนต์กล่าวว่า เบื้องต้นตำรวจไม่ได้แจ้งความเอาผิดกับเด็กที่มั่วสุมสูบกัญชากัน เพราะยังเป็นเยาวชนเกรงจะส่งผลกระทบต่ออนาคต ได้ว่า กล่าวตักเตือนและกำชับว่าอย่าทำเรื่องแบบนี้อีก พร้อมกับสั่งกำชับไปยังผู้ปกครองของนักเรียนทุกคนว่าให้เข้มงวดดูแลบุตรหลานของตัวเองมากขึ้น นอกจากนี้ตำรวจจะสืบสวนขยายผลตามหาตัวผู้ที่ขายกัญชาให้นักเรียนซึ่งเป็นเยาวชน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป