เป็นคนบันเทิงจิตอาสาเดินหน้าช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่องกับเพจ “เราต้องรอด” ที่ล่าสุดพิธีกรสาว ได๋-ไดอาน่า จงจินตนาการ ยังคงลุยสู้กับการแพร่ระบาดระลอกใหม่ เปิดใจถึงการทำงานช่วงนี้ในงานแถลงข่าวเปิดตัว “9 นักนอนตัวจริงของ Mattress City”เริ่มจาก โควิด-19 ผลกระทบกับงานพิธีกรหรืองานส่วนอื่นๆในชีวิตเรามากแค่ไหน? “มีผลกระทบมากค่ะ เนื่องจากในช่วงที่เรากำลังจะเปิดประเทศกัน เหมือนสถานการณ์มันจะคลี่คลายไปมากยิ่งขึ้น งานอีเวนต์เราก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม ตอนแรกเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ก็เริ่มที่จะฟูลบุ๊ก คิวมีรันมาเรื่อยๆทุกวันแล้ว พอสถานการณ์ช่วงปีใหม่เปิดมาก็ค่อยแคนเซิลไปเรื่อยๆหรือเลื่อนออกไป ตรงนั้นเป็นส่วนของงานที่เราต้องเข้าใจในมาตรการว่าถ้าสถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวยก็อย่าเพิ่งดีกว่า แล้วตอนนี้สเกลงานที่เมื่อก่อนอาจจะเป็นงานใหญ่ๆ ก็กลายเป็นงานเล็กลง เป็นลักษณะงานปิด เป็นลักษณะออนไลน์” ยังต้องปรับตัวอยู่มั้ย? “ก็ไม่ได้ปรับอะไร เราเจอแบบนี้กันมา 2 ปีแล้ว มันชินแล้ว ต้องมองว่ามันเป็นยุคของดิสรัปชัน มันดิสรัปเราตลอดเวลา ก็ต้องอยู่กับมันให้ได้”ถามถึงเพจ “เราต้องรอด” ตอนนี้เป็นยังไงแล้วบ้าง? “ต้องบอกว่าเราต้องรอด เราเริ่มตั้งศูนย์พักคอยแห่งแรกตั้งแต่สิงหาคมปีที่แล้ว เรามีทั้งหมด 4 ศูนย์ด้วยกัน 2 ใน 4 ศูนย์ถูกหยุดเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว อีก 2 ศูนย์พักคอยของเรา คือห้วยขวาง คันนายาว เราไม่เคยปิด เราเปิดมาตลอด แล้วก็มีผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง เมื่อปีที่แล้วจำได้ว่าวันที่ 30 ธันวาคม ที่ศูนย์พักคอยคันนายาวเรามีผู้ป่วยทั้งหมด 1 คนเท่านั้น เราก็คิดว่าสมมติถ้าเราเปิดปีใหม่มาแล้วไม่มีผู้ป่วยเราจะทำการปิดทันที เพราะทีมงานอาสาทุกคนที่ผ่านมาทำงานมาหนักมากแล้ว ก็เลยจะให้เขาไปพักผ่อน ไปออกทำมาหากินกันบ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือวันเคาต์ดาวน์ก็เริ่มมีผู้ป่วยเข้ามาเรื่อยๆ วันนี้ศูนย์ 2 ศูนย์ที่เราดูแลอยู่คือเต็มทั้ง 2 ศูนย์ ศูนย์ตันปัน มี 100 คนบวกๆคันนายาวก็ 100 คนบวกๆเช่นเดียวกัน ตอนนี้เพิ่งจะกลับมาเข้าสู่โหมดการเปิดศูนย์ที่ประเวศ ในส่วนของศูนย์ที่อยู่ที่บางขุนเทียน พระราม 2 กำลังรอเอกสารอยู่ ตรงนั้นก็กำลังจะทำการเปิดก็จะรับได้อีก 250 เตียง”คือกลับมาเหมือนเดิมแล้วตอนนี้?“มันอาจจะไม่หนัก ไม่รุนแรงเหมือนช่วงสิงหาคมที่ผ่านมา ที่เราจะเห็นผู้เสียชีวิตในบ้านค่อนข้างเยอะ ณ ตอนนี้เราต้องยอมรับว่าโอมิครอน ค่อนข้างที่จะแพร่ระบาดเร็วมาก ปัจจุบันนี้นโยบายของทางภาครัฐที่จะดูแลเรื่องผู้ป่วย เค้าจะเน้นให้ทำ HI-CI กัน คือ Home Isolation-Community Isolation ปัญหาหลักๆที่เกิดขึ้นในตอนนี้เลยก็คือ เมื่อผู้ป่วยทำ HI อยู่ที่บ้านแล้วที่บ้านมีเด็ก หรือผู้ป่วยติดเตียง หรือคนแก่ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน นี่คือกลุ่มเปราะบางที่ทำให้การทำ HI อาจจะไม่ใช่คำตอบของคนที่มีกลุ่มเปราะบางอยู่ที่บ้าน ก็เลยจะต้องเถิบไป CI สำหรับคนที่ต้องการจะเข้ารับการรักษาหรือเข้าโฮสพิเทลตอนนี้ ต้องทำ RT-PCR เท่านั้น เป็นอะไรที่เราจะต้องประสานงานกับหลายๆภาคส่วนและหลายๆหน่วยงานให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้อย่างทันท่วงที” มีเรื่องกังวลมั้ยกับการรับมือของโควิดในรอบนี้? “ก็ยอมรับว่ามี เพราะการสื่อสารของเราในช่วงแรก ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานไหนก็ตาม ก็จะใช้คำพูดว่าโอมิครอนไม่รุนแรง การที่ใช้คำพูดแบบนี้จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่า อ๋อ ไม่รุนแรง ฉันกินยาเองอยู่ที่บ้านก็หาย ใช่เป็นแบบนั้นสำหรับกลุ่มอายุวัยทำงาน หรือวัยรุ่น แล้วไม่มีโรคประจำตัว เป็นแล้วหายเองได้ แต่ไม่ได้พูดถึงการส่งผลระยะยาวหรือไม่ แต่ถ้าคุณมีเด็กหรือผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน เราไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นยังไง เพราะที่ผ่านมาก็เจออย่างเคสล่าสุดที่เจอมากับตัวเองก็คือเด็ก 3 ขวบ ออกไปขี่จักรยานแล้วติดมาจากเด็กคนอื่น แล้วมาติดเด็กคนอื่นในบ้าน ในบ้านมีคนท้อง คนท้องก็ติด แล้วตอนนี้ติดไปถึงคุณตา ซึ่งคุณตาเป็นผู้ป่วยติดเตียง ในบ้านมี 10 กว่าคน ตอนนี้คนที่ไม่ติดมี 3 คน แล้วคุณตาอยู่ใน ICU นี่เป็นการเล่าให้ฟังเฉยๆว่าสถานการณ์ที่มันจะเกิดขึ้นได้หากคุณเลือกที่จะทำ HI หรือฝืนที่จะทำ HI ทั้งที่มีกลุ่มเปราะบางอยู่ในบ้านคุณ”กลับมาจิตตกอีกมั้ย เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยร้องไห้เลย? “มันไม่มีเวลาให้จิตตกค่ะ คนรอความช่วยเหลืออยู่ ช่วงนี้ก็พูดตรงๆว่าต้องทำมาหากิน หาเงินบ้าง พอเสร็จจากงาน ก็จะเช็คที่ศูนย์ว่ามีอะไรขาดบ้าง เพราะก่อนหน้านี้ที่เหนือกับใต้ติดเยอะๆ เราก็โอนของที่ไม่ใช้แล้วไปให้ทางเหนือกับใต้ใช้ ของก็พร่องไป”อยากบอกทุกคนกับสถานการณ์โควิดตอนนี้? “ก็จะฝากเรื่องของการดูแลตัวเองจริงๆ อาจจะได้ยินกันบ่อยแล้วว่าการ์ดอย่าตก ครั้งนี้มันมาอย่างเร็วจริงๆ ถ้าดูจากจำนวนตัวเลข มันขึ้นมาเยอะมาก ไม่มีใครสามารถบอกเราได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่ามันปลอดภัยจริงหรือไม่ ถ้าช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือตัวเองไว้ก่อน มีไข้กินยาแก้ไข้เจ็บคอกินยาแก้เจ็บคอ หมั่นตรวจ ATK ให้เป็นเหมือนมารยาทสังคมใหม่ และย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าถ้าที่บ้านเรามีคนกลุ่มเปราะบางอยู่ เด็กเล็ก คนแก่ ผู้สูงอายุ หรือคนที่อาจจะต่อต้านการฉีดวัคซีน ให้ระวังไว้เยอะๆ เพราะตอนนี้มันเร็วมากค่ะ”.