เป็นการยืนยันชัดเจนแล้วว่า ข่าวที่ออกมาตั้งแต่ก่อน การอภิปรายไม่ไว้วางใจ รมต.เป็นรายบุคคล รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอบนี้จะเป็นการส่งสัญญาณไปถึงการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล โดยเฉพาะการปรับ ครม.ที่ได้จังหวะพอดีมีข่าวถึงขนาดว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ลงทุนเดินสายจัดระเบียบด้วยตัวเองเพื่อให้คะแนนเสียงออกมาดูดีที่สุด โดยเฉพาะคะแนนเสียงไว้วางใจของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ และ รมว.กลาโหม คะแนนเสียงของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ คะแนนเสียงของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย คะแนนต้องเท่าๆกัน ปรากฏว่าคะแนนที่ออกมา พล.อ.ประวิตร ได้คะแนนไว้วางใจ 274 คะแนน เท่ากับ ร.อ.ธรรมนัส ได้ 274 คะแนน พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.อนุพงษ์ เท่ากัน 272 คะแนนชี้ให้เห็นถึงเพาเวอร์ของ ร.อ.ธรรมนัส ที่ยังมาแรงเสมอต้นเสมอปลายและส่งสัญญาณว่า พล.อ.ประวิตร ก็ยังเป็นพี่ใหญ่ อยู่วันยังค่ำ แต่ที่น่าสนใจคือ คนที่กินบ๊วย เป็น ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ได้ไป 258 คะแนน ถือว่าเป็นคะแนนต่ำที่สุด อีกคน สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่เดิมทีมีข่าวว่าจะต้องกินบ๊วย ยังทิ้ง ณัฏฐพล ไปที่ 263 คะแนนความหมายก็คือถ้า พล.อ.ประยุทธ์ คิดจะปรับ ครม. ก็ต้องดูจากคะแนนลงมติไว้วางใจเป็นองค์ประกอบด้วย จะเป็น ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ หรือ สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน หรือทั้งสองคนและในที่สุดอำนาจทางการเมืองก็ยังอยู่ในมือของพรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร เป็นหัวหน้าพรรค การเปลี่ยนแปลงที่จะตามมาไม่ใช่แค่การปรับ ครม.ใน พลังประชารัฐ แต่จะลามไปถึง พรรคร่วมรัฐบาลด้วยกลุ่มการเมืองที่ยังเหนียวแน่นและเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในพลังประชารัฐก็ยังเป็นกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส จับมือกับ สันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และ วิรัช รัตนเศรษฐ กลุ่ม ส.ส.โคราช ส่วนกลุ่มภาคตะวันออกของ สุชาติ ชมกลิ่น และ กลุ่มสามมิตร ที่นำโดย สมศักดิ์ เทพสุทิน และ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อสถานการณ์การซักฟอกรัฐบาลเที่ยวนี้ นิ่งเป็นพิเศษ ท่ามกลางข่าวที่ว่าได้สัญญาณพิเศษบางอย่างในการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทย ถือว่าเป็นพรรคการเมืองที่นิ่งและมีการเคลื่อนไหวในเชิงลึกก่อนการอภิปราย ภาพการรับมือกับสถานการณ์ การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ค่อนข้างจะย่ำแย่สะบักสะบอม แต่ปรากฏว่าคะแนนไว้วางใจออกมากลับมากที่สุดได้มาถึง 275 คะแนน ชี้ให้เห็นความแข็งแกร่งทางการเมืองภายใต้การกำกับของ ครูใหญ่ ที่คาดกันว่าจะเป็นพรรคการเมืองที่มาแรงและเป็นคู่แข่งที่สำคัญของ พลังประชารัฐ ด้วยซ้ำประชาธิปัตย์ โฟกัสไปที่หัวหน้าพรรค จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ได้คะแนนไว้วางใจ 268 คะแนน อยู่ในระดับกลางๆที่ จุรินทร์ จะต้องกลับไปดูปัญหาทั้งภายในและภายนอกพรรคจะเอาอยู่หรือไม่สัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ครั้งนี้ถือว่า แรงเป็นพิเศษ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ยังคิดจะอุ้ม ส.ส.กปปส.เอาไว้หรือยังใช้โควตาคนนอกมาตัดสิน ก็ต้องมองการเมืองช็อตต่อไปที่มากกว่าการปรับ ครม.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th