นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จากการที่ตนได้ประชุมความร่วมมือระดับทวิภาคีด้านวัฒนธรรมผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom) กับนายแชฟคต มาห์มูด รมว.มรดกทางวัฒนธรรมแห่งชาติ สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน โดยทั้งสองประเทศเห็นตรงกันในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวัฒนธรรม บุคลากร ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม โดยเฉพาะด้านพิพิธภัณฑ์ ซึ่งในเมืองตักศิลาของปากีสถาน เป็นแหล่งรวมภูมิปัญญาอารยธรรมของชมพูทวีป มีความเจริญรุ่งเรืองด้านพระพุทธศาสนา มีการเก็บรวบรวมพระพุทธรูปสำคัญ และพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า ตลอดจนมีแหล่งโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา ที่สำคัญของโลก ตลอดจนมีการขึ้นทะเบียนมรดกโลกแล้วกว่า 10 แห่ง ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศจะได้มีความร่วมมือทางวัฒนธรรมระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้ผู้ปฏิบัติงานของไทยได้ศึกษาเรียนรู้ อารยธรรมปากีสถาน และนำความรู้ ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ กลับมาประยุกต์ใช้ในการพัฒนาพิพิธภัณฑ์และแหล่งโบราณคดีของไทย รวมถึงสามารถนำไปใช้กับการจัดทำเอกสารขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกของไทยในอนาคตด้วยรมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันรัฐบาลปากีสถาน ได้ทำหนังสือกราบบังคมทูลเชิญ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเยือนปากีสถานอย่างเป็นทางการ ในปี 2565 ในโอกาสเฉลิมฉลอง ครบรอบ 60 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรม นาถบพิตร เสด็จพระราชดำเนินเยือนปากีสถาน นอกจากนี้ ยังได้มีการทบทวนบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลปากีสถานที่ได้ลงนามไว้ เมื่อ 23 ปีที่แล้ว ซึ่งจะให้มีการเพิ่มเรื่องการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมให้มีความร่วมมือเป็นปัจจุบันด้วย และในวันที่ 10 ต.ค.นี้ ตรงกับวันครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างราชอาณาจักรไทยและปากีสถาน จะมีการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองในวาระดังกล่าวที่สถานทูตปากีสถานประจำประเทศไทย พร้อมกันนี้ เห็นควรให้กรมศิลปากรจัดนิทรรศการพิเศษคันธาระ ต้นกำเนิดแห่งพระพุทธศาสนา แสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุของปากีสถานในประเทศไทยโดยกำหนดจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลไทยและปากีสถาน เพื่อนำโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ กว่า 100 ชิ้น จาก 4 พิพิธภัณฑ์ในปากีสถานมาจัดแสดงในครั้งนี้.